[ TRACK PLAYING --------- เผลอไป – TATTOO COLOUR ]
ไม่แปลก ..ก็เล่นกลืนเหล้าไม่คิดจะหยุดตั้งแต่หัวค่ำ
“เมาแล้วมึง กลับยัง”
“ยางงงง ..พวกมึงยังไม่ตอบกูเลยว่าความเคยชินกับความรักมันต่างกันป๊ะวะ”
คนตรงหน้าพูดดังกว่าครั้งก่อนหวังจะให้เพื่อนร่วมโต๊ะได้ยินก่อนจะยกดื่นไปอีกหนึ่งอึกใหญ่ๆ บอกเลยว่าทั้งโต๊ะ ก็อินกับคอนเสิร์ตวงโปรดตรงหน้าไม่มีใครสนใจมันนักหรอก
“ตูนตูนมึงไปข้างหน้ากับกูป๊ะ” เสียงแดเนียลชวนเพื่อนอีกคนออกไปสุดมันส์จนทั้งโต๊ะเหลือแค่ผมกับมันสองคน
โอเค กูอยู่ดูมันก็ได้
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทุกทีที่มาร้านเหล่ามันเป็นอย่างนี้หรือเปล่า(อย่างที่บอกว่าผมไม่ค่อยชอบบรรยากาศเท่าไหร่ ถ้าให้นับครั้งที่เข้านี่ก็ครั้งที่สองของชีวิต)
“เชี่ย พวกมึงทิ้งกูอ๊า~
บุ๊คมองตามสองคนนั้นที่เดินออกไปก่อนจะหันมาจิ๊จ๊ะใส่ผมแล้วยกแก้วมันดื่มต่อ
“พอก่อนมั้ยมึง”
“ยุ่ง ไอ้สัด”
“ก็ตามใจ”
ผมไม่รู้ว่ามันไปเจออะไรมา อาจจะอกหักจากน้องดาวปีหนึ่งที่คุยๆกันอยู่หรือ จับได้ว่าอดีตพี่ค่ายคนสวยหนีมันไปแต่งงาน. ยอมรับว่าขึ้นปีสามจนปีสี่มานี่เราเอาแต่เรียนเรียน เรียน แล้วก็เรียน ทำให้การคุยกันของเรามีน้อยนิด แต่ก็ไม่ได้ ทำลายความสนิทสนมลง อารมณ์ประมาณว่าต่างคนก็ต่างไปทำงานของตัวเอง
“เมื่อกี้มึงถามว่าความเคยชินกับความรักอะไรนั่นทำไมวะเจอไรมา”
“มึงตอบดิกูอยากรู้ว่าต่างมั้ย”
“โดนสาวปฏิเสธมาอะดิ๊”
“แบบเป็นห่วงเวลากลับดึกอยากส่งฝันดีไปหานี่มันความเคยชินหรือกู....
....เริ่มรักเขาแล้ววะ”
“ไม่รู้ดิ กับคนนั้นมึงสนิทมานานขนาดไหนอ่ะ”
“ก็นานพอสมควร”
“มึงก็อาจจะรัก”
“เหรอ”
“เออ มั้ง”
“เออกูคงรักเขาจริงๆแหละ”
“ไหวป๊ะมึง”
“สบ๊ายย”.
*
“พวกมึงกลับกันได้แน่นะ”
“ใครว่ากูจะกลับ พวกกูจะไปต่อ” แดเนียลพูดพลางชะเง้อเตรียมโบกรถแท็กซี่
“อ่า..”
“ฝากไอ้บุ๊คด้วยแล้วกันมึง ปกติมึงก็ไปส่งมันปกติอยู่แล้วหนิ”
“เออๆ”
“แต๊งกิ้วขอรับ คุณหลวง”.
“เออไปดีมาดี”
ล่ำลากันตรงหน้าร้านก่อนที่สองคนนั้นจะขึ้นแท็กซี่ไปหาสิ่งสำราญต่อ . ผมประคองเพื่อนตัวดีให้ขึ้นรถ ก่อนที่มันจะปิดตาหลับไประหว่างทาง
บนสองข้างทางเวลาเกือบเที่ยงคืนตอนนี้เงียบสงัดมีก็แค่แสงไฟข้างทางกับร้านข้าวต้มโต้รุ่งที่พอให้มีคนคึกคักอยู่บ้าง บนรถที่เปิดวิทยุคลื่นดังแต่คนบนรถไม่ได้ใส่ใจฟังซักเท่าไหร่
“เห้ย บุ๊ค หลับแล้วเหรอวะ”
“ยัง”
“อ่าว…”
“…”
“ถ้ามึงเป็นอะไร เล่าให้กูฟังเหมือนเมื่อก่อนก็ได้นะเว้ย”
“…”
“ถึงเดี๋ยวนี้กูก็ยุ่งๆ มึงก็ยุ่งๆเลยไม่ค่อยได้คุยกัน”
“งั้นกูเล่าได้ใช่ป๊ะ”
“จัดมาเลยเพื่อน”
“กูอ่ะ แอบชอบคนๆนึงเว่ยไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่”
แอบชอบงั้นเหรอ ใครกันนะ..
“เหยดดดด ใครวะ เพื่อนในเซคเหรอ” ผมพูดไป
“เออ ประมาณนั้นมั้ง”
“… อ่า ..
“มึงจะต้องตื่นเต้นขนาดนั้นเลย” มันตอบหน้านิ่ง
“ฮ่าฮ่า กูแซว”
“ช่างแม่งเหอะ แม่งน่าจะไม่ชอบกูหรอก”
“มึงเคยบอกความรู้สึกมึงให้เขาฟังยังอ่ะ”
“ยัง ตอนแรกกูอะคิดว่าแม่งเป็นแค่ความเคยชิน”
“อ่าฮะ”
“นานๆไป กูก็เริ่มอยากรู้ว่าเขาทำอะไรเวลาไม่เจอเขากลับบ้านดึกเขาจะปลอดภัยดีใช่ไหม กูเริ่มอยากให้เขาอยู่กับกูในวันสำคัญ”
“อ่าๆ ต่อๆ”
“แต่แม่งเสือกเนิร์ดว่ะ พอกูจะทำอะไรให้แม่งก็ไม่เคยจะรู้หรอกคือพอกูสนิทกับมันอะแม่งก็มองเป็นเรื่องธรรมดาไปหมดเลย”
ตอนนี้ผมเริ่มคิดแล้วนะว่าใครคนไหนในชั้นเรียนที่มันพูดถึงกัน
“ไม่หรอก มึงยังไม่เคยบอกมากกว่าบางทีคนนั้นอาจจะรอให้มึงบอก”
“แต่แม่งก็อาจจะไม่คิดอะไรจริงก็ได้ไง” บุ๊คพูดทั้งที่กำลังหลับตา
“มึงอะคิดไปเอง ถ้าคิดจะทำอะไรไม่ได้มึงก็จับจูบแม่งเลยมั้ยล่ะจบๆ ได้ซีนซีรีส์เกาหลี” ผมพูดเชิงกวนตีนเพราะไม่ได้อยากให้มันกังวลอะไรมากเอาจริงๆสมมติถ้ามันไปบอกเขาแล้วเสียใจ มันก็ยังมีเพื่อนคอยอยู่ข้างๆเพื่อนในกลุ่มน่ะเอ็นดูมันจะตาย
โดยเฉพาะผมเนี่ยแหละที่ห่วงมันมากกว่าใครเลย
“อ่าว เชี่ยนี่ หลับใส่กูเฉย”
*
“มึงตื่นๆ”
“…”
“ใต้หอมึงแล้วบุ๊ค ตื่น”
คนข้างๆงัวเงียก่อนผมจะจัดการปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยของเพื่อนตัวดีแล้วก็เขย่าตัวมันนิดหน่อย นั่นทำให้ผมรู้ว่า
มันไม่ได้หลับ
ในเมื่อคนข้างหันมาลืมตามองตาใสด้วยระยะห่างของใบหน้าห้าเซนติเมตรโดยประมาณไม่รู้ว่าฤทธิ์แอลกอฮอลล์หรือว่าอะไรที่ทำให้บุ๊คขยับใบหน้าเข้ามาจนชิดก่อนจะมอบจุมพิตเบาที่ริมฝีปากแบบที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว
มึงว่าความเคยชินกับความรัก
.
.
กูก็เริ่มอยากรู้ว่าเขาทำอะไรเวลาไม่เจอเขากลับบ้านดึกเขาจะปลอดภัยดีใช่ไหม
.
.
กูเริ่มอยากให้เขาอยู่กับกูในวันสำคัญ
.
.
แต่แม่งเสือกเนิร์ดว่ะ พอกูจะทำอะไรให้แม่งก็ไม่เคยจะรู้หรอก
.
.
.
คือพอกูสนิทกับมันอะแม่งก็มองเป็นเรื่องธรรมดาไปหมดเลย
มึงอะคิดไปเอง ถ้าคิดจะทำอะไรไม่ได้มึงก็จับจูบแม่งเลยมั้ยล่ะจบๆ ได้ซีนซีรีส์เกาหลี
เหมือนทุกบทสนทนาที่เพิ่งผ่านไปถูกรีรันซ้ำอีกครั้งในหัวพาให้หัวใจเต้นแรง เอ่อ .. พอยิ่งคิดว่าที่มันพูดมาทั้งหมดเป็นผมยิ่งทำให้ปากผมยกยิ้มโดยอัตโนมัติ
บุ๊คมันชอบผมเรื่องจริงไม่ได้ฝันไปใช่ป๊ะวะ
แต่ไหนแต่ไร ผมกลัวการคิดไปเอง นอกจากแอลกอฮอล์การคิดไปเองนี่แหละที่ทำให้ผมเข็ดหลาบทำให้ตลอดเวลาผมจึงไม่ได้กล้าที่จะแสดงออกมากนักว่ารู้สึกดีกับมันเท่าไหร่เพราะรู้ดีว่าเปอร์เซนต์ความเป็นไปได้น้อยมาก ตอนที่ได้ข่าวว่ามันกำลังคุยกับเพื่อนผู้หญิงในเซค ดาวคณะ หรือรุ่นพี่ค่าย ผมมักจะทำให้ตัวผมเองหันไปสนใจสิ่งอื่นจนไม่ได้ยินเรื่องของบุ๊คที่ใครเขาพูดกันแต่ไม่ใช่ไม่สนใจถึงขนาดเมินมันนะ แต่มันก็ไม่ค่อยได้คุยกันนั่นแหละ
“…มึงทำแบบนี้ ตามที่กูบอกเหรอ เพราะคนที่ทำให้มึงคิดมากคือกูหรือมึงแค่เมา”
“ เออ”
“ หมายถึงมึงเมา”
“หมายถึง …ก็ทั้งสองอย่าง”
“นานยัง”
“สักพัก”
“กูถามอีกที มึงทำไปแบบนี้ไม่ใช่เพราะมึงเมาแน่นะ”ผมถามก่อนที่คนข้างๆจะถอนหายใจออกมาแรงหนึ่งที
“กูทำไปเพราะกูชอบมึงถ้ามึงจะไม่ชอบกูก็ไม่เป็นไร ” บุ๊คเปิดประตูรถเดินออกไป และแน่นอนเรื่องนี้มันยังคุยกันไม่จบไม่ใช่เหรอวะ
“ คือกูถามให้แน่ใจเพราะเราแม่งก็เป็นเพื่อนกันหลายปี”
“ กูก็พยายามแยกความความเคยชินกับความรักแล้วไง”
“ แล้วมึงรู้สึกยังไงนะ ..
“ ไอ้สัด กูไม่พูดแล้ว
“ มึงจะล้ม”
“กูขอเถอะ ถ้ามึงไม่รู้สึกอะไรมึงลืมเรื่องนี้ไปให้หมดเลย กูจะเป็นเพื่อนมึงเหมือนเดิม”
“เริ่มพูดเพ้อเจ้อแล้วมึง”
“เออกูมันเพ้อเจ้อ เอ่อ..แล้วกูก็สัญญาว่าจะไม่หลบหน้ามึง…
มันพูดแค่นั้นก่อนที่ลิฟต์เปิดออกมันเดินเข้าไปก่อนจะบอกผมว่าไม่เป็นไรมันเดินไหว
ดูท่ามันก็ปนเปกันไปหมด แล้วผมก็คงไม่ปล่อยให้มันขึ้นห้องไปทั้งที่ยังไม่ได้บอกอะไรหรอก
ผมกดให้ลิฟต์เปิดอีกครั้งบุ๊คยังอยู่ที่เดิมเพราะลิฟต์ยังไม่เคลื่อนไปไหน
“กริช..”
“คือกูมีเรื่องจะบอกมึง”
“กูก็รู้สึกไม่ต่างจากมึงหรอก อย่ากังวล “
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าน่ารักของบุ๊คที่มองยังไงก็ดูออกว่าเขินซึ่งผมก็เขินไม่ต่างกัน ผมรีบก้าวเท้าขึ้นลิฟต์ไปยืนข้างๆคนขี้เขินซึ่งทำให้มันตกใจเล็กน้อย
“เข้ามาทำไม กลับบ้านไปได้แล้ว”
“กูขอเข้าห้องน้ำห้องมึงหน่อยดิ”
“อ่า..”
ผมก็ไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำอะไรนักหรอกผมแค่ไม่อยากให้วันนี้จบลงไปเร็วนักมากกว่า เพราะเอาจริงๆผมก็แอบรอเวลานี้มานานเหมือนกันนี่นาวันที่จะเปลี่ยนให้เราเป็นมากกว่าเพื่อนน่ะ
END
จบแล้วจ้าฟิคสั้นๆ แบบเพื่อนกันหรือป่าวน๊าาาาา เอาจริงมันชั่ววูบจริงๆ แง เราชอบพี่บุ๊คมากๆเลย แล้วพอมาเดบิ๊วด์เป็น CUTECHEF กับพี่กริช เขาก็น่ารักมากๆ นี่คิดขึ้นได้จากสตอรี่กลับบ้านดึกๆด้วยกันเลยนะเนี่ย ใครมาอ่านหวังว่าจะชอบนะคะ
ถ้าชอบไม่ชอบยังไงไปคอมเม้นต์ในแท็ก #ฟิคของเบค่อน ได้นะคะ
เบค่อนย่างพันเห็ด.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in