ความฝันในเวลาไม่กี่นาที แต่ช่างเป็นเวลาอันแสนยาวนานนักในห้วงของสมองที่กำลังจินตนาการยามหลับไหล เปรียบเหมือนวันพิเศษวันหนึ่ง ที่มีกิจกรรมช่วยเหลือเด็กๆที่ยากไร้ และต้องการความช่วยเหลือ พวกเราเหล่านักอาสาจำนวนไม่ถึง 15 คน เมื่อได้ยินข่าวว่าเด็กๆจากหมู่บ้านชื่ออ่านยาก ที่ในฝันไม่ปรากฎชื่อให้เห็น พวกเรารีบรวบรวมทีม ระดมทุนเพื่อซื้อของใช้และอาหารที่จำเป็นไปช่วยเหลือทันที่ พวกเราเดินทางโดยใช้รถกระบะ 2-3 คัน ฉันนั่งอยู่ที่ท้ายกระบะ กับผู้ชายซึ่งคุ้นหน้าคุ้นตาแต่ในชีวิตจริง เข้ากลับเป็นดาราชื่อดัง ที่ห่างไกลจากตัวเรามาก(ไม่บอกหรอกว่าใคร) เรานั่งคุยกันระหว่างทาง จนไปถึงทางเข้าหมู่บ้าน เราต้องผ่านถนนขรุขระที่ลาดชันลงไป ลึกเหมือนกำลังลงไปสู่แกนกลางโลกยังไงยังงั้น เมื่อมองไปยังข้างถนน ก็มีแต่พื้นดินและหินก้อนใหญ่
เราใช้เวลาเดินทางนานพอๆกับเวลาที่ใช้สร้างปราสาทหลังเล็ก 1 หลัง จนฉันไม่แน่ใจว่าที่ฉันเห็นก่อนหน้านั้นคือทางเข้าหมู่บ้านจริงๆเหรอ แต่ในที่สุดเราก็มาถึงหมู่บ้าน น่าแปลกที่หมู่บ้านนี้มีเด็กๆวิ่งเล่นไปมานับได้เป็นร้อยชีวิต แต่มีผู้ใหญ่เพียงไม่ถึง 10 คน ในสถานที่ที่ดูเหมือนจะเป็นโรงเรียนเล็กๆตรงหน้าเรานั้นเอง ฉันเกิดความสงสัยขึ้นมาในใจทันที่ "นี่คือทั้งหมดของหมู่บ้านแล้วเหรอ?" รอบข้างของหมู่บ้านนี้ เป็นป่าสนล้อมรอบ อาคารเรียนทั้งหมด มีกรงเหล็กล้อมรอบ ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ดูเหมือนจะทำจากเหล็กทั้งหมด รวมถึงโต๊ะเก้าอี้ที่อยู่ในนั้นด้วย ฉันรีบลงไปทักทายหนึ่งในผู้ใหญ่ที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำหมู่บ้าน เธอเป็นผู้หญิงที่กำลังพูดคุยหรือสั่งงานอะไรบางอย่างกับผู้หญิงอีกคน ส่วนพวกเราที่เหลือช่วยกันขนของบริจาคลงจากรถ ฉันมองไปรอบๆอีกครั้งก่อนเข้าไปคุยกับผู้หญิงคนนั้น แล้วสังเกตุเห็นข้างหลังโรงเรียนเป็นทุ่งนาอันแสนกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา จังหวะนั้นเองเธอเดินเข้ามาทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน "พวกเธอเป็นพวกแรกเลยนะที่กล้าลงมาถึงที่นี้ ขอบคุณน้ำใจมากๆเลยจ้ะ" ฉันงงๆกับคำพูดของเธอไปครู่หนึ่ง พร้อมกับขำแห้งๆ "เรามาช่วยค่ะ ได้ยินข่าวว่าที่นี่ต้องการความช่วยเหลือ" ฉันพูดเสียงสดใส พร้อมร้อยยิ้มสดใส เราใช้เวลาขนของลงจากรถ เพียงไม่กี่นาที ฉันและผู้ชายหน้าคุ้นนั่งลงที่โต๊ะตัวเตี้ย หลังโรงเรียนนั้น มองออกไปยังทุ่งนากว้าง เห็นเด็กๆวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน "เหนื่อยไหม?" เขาถาม ฉันยิ้มกลับพร้อมส่ายหน้าช้าๆ สายตาที่เขามองมาที่ฉันไม่เหมือนกับที่ใครมอง มันช่างอบอุ่น ฉันสัมผัสได้ถึงความรู้ที่เขามีให้กับฉัน แปลกที่เรื่องจริงมันเป็นไปไม่ได้เลย ฉันกับผู้ชายหน้าคุ้นคนนี้ เรานั่งคุยกันจนประมาณช่วงบ่ายโมงครี่ง จู่ๆก็มีเสียงออดดังกังวานไปทั่ว เด็กๆทุกคนรีบวิ่งกลับมาที่โรงเรียน พวกเขารีบปีนขึ้นบนโต๊ะหรือเก้าอี้ โดยร้องตะโกนบอกพวกเราให้อยู่บนที่สูง ฉันและชายหน้าคุ้นมองหน้ากันด้วยความงุนงง ฉันรู้สึกกลัวแปลกๆ คิดวกไปวนมาว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะนั้นเองชายหน้าคุ้นก็ดึงมือฉันขึ้น "ขึ้นมาเร็ว" เขาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงดูกังวล ฉันขึ้นไปยืนบนโต๊ะตัวที่เรานั่งนั้น จากนั้นไม่กี่นาทีของเหลวสีฟ้าไหลอย่างรวดเร็วตรงมาที่โรงเรียน มันท่วมทั่วไปพื้น เจิงนองเต็มทั่วทุ่งนา ตอนนี้เหมือนเรากำลังอยู่บนทะเลสีฟ้าข้น ทุกคนดูกลัวมันมาก "เราต้องอยู่บนที่สูง ห้ามโดนมันเด็ดขาด!!!" ผู้นำหมู่บ้านตะโกน ตอนนั้นเองมีเด็กผู้หญิง อายุประมาณ10ขวบ ลื่นตกจากเก้าอี้ตัวเล็กที่เธอยืนอยู่ ไม่เพียงชั่วพริบตาที่ร่างกายของเธอสัมผัสกับของเหลวสีฟ้านั้น ทั้งตัวของเธอกลายเป็นน้ำทันที่ เหมือนกับว่าเธอไม่เคยมีเลือดมีเนื้อมาก่อน พวกเราตกใจมาก สิ่งนั้นที่คร่าชีวิตเธอไป ฉันกอดแขนชายหน้าคุ้นแน่น ด้วยความกลัว เขาหันมากอดฉันแน่น หน้าของฉันที่แน่บหน้าอกของเขาก็ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัว อาจจะมาจากความกลัวเหมือนกับที่ฉันเป็นอยู่ ของเหลวที่ฟ้านี่มันคืออะไรกันแน่ แล้วทำไมคนพวกนี้ถึงยังอยู่ที่นี่......................ทันใดนั้นเองฉันก็ตื่นขึ้น พร้อมความรู้สึกเสียดาย ว่าทำไมเรื่องราวในฝันมักถูกขัดจังหวะเพราะการตื่นนอน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in