เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
โลกสีเทาจากความซึมเศร้าTongg Pongsathorn
EP 0 ซึมเศร้าทำไมต้องสีเทา
  • เราเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เคยรักษาแล้วหยุดยาเอง 2 ปี เมื่อนานมาแล้ว และปัจจุบันรักษาต่อเนื่องมาเกือบ 4 ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันก็ต้องกินยาและไปพบหมออยู่ จุดเริ่มต้้้นจนถึงขั้นตอนการรักษาเราได้อธิบายไปแล้วในปี 2561 และ 2562 เราจึงเห็นว่าทุกคนน่าจะเข้าใจกันพอประมาณแล้ว เราอยากเล่าถึงมุมมองของเราในเรื้องต่างๆบ้าง หลายคนคงคิดอยู่ว่ารักษามาตั้งนานแล้วทำไมยังไม่หาย ไม่เปลี่ยนโรงพยาบาล หรือไม่เปลี่ยนหมออีก ส่วนตัวเราคิดว่ามันไม่น่าจะมีวิธีที่ทำให้มันหายขาด แม้ว่าจะกินยานานจนหยุดยาได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าหายแล้ว เราคิดว่าสมองก็เหมือนสระน้ำ ซึมเศร้าหรือการคิดลบก็เหมือนหยดหมึก เมื่อหยดหมึกลงสระน้ำแล้ว แม้ว่ามันจะค่อยๆจางจนดูเหมือนว่าหายไป แต่แท้จริงแล้วมันยังคงปนเปื้อนอยู่ในสระน้ำนั้นอยู่ ในเรื่องของการเปลี่ยนโรงพยาบาลหรือหมอ เราเคยได้ลองแล้วพบว่ามันไม่ได้ง่ายเลย การย้ายไปโรงพยาบาลอื่นต้องไปเริ่มต้นใหม่ ตั้งแต่การคัดประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลเดิม การนัดคิวพบหมอเพื่อประเมินการไม่ต่ำกว่า 2 เดือน ซึ่งมันเสียเวลาอย่างมาก ยิ่งใช้สิทธิการรักษาของรัฐยิ่งลำบากและไม่ง่าย รวมถึงการได้พบหมอแล้วอาจจะไม่ได้เป็นก็ได้อีก เห็นมะเรื่องแค่นี้เราก็คิดลบไปแล้ว เอาจริงๆความคิดบวกเราก็คิดว่าเป็นข้อดีในการตรวจพบคนไข้คนอื่นๆบ้าง ถ้าเราไปเติมหรือแทรกในคิวก็เหมือนเพิ่มภาระให้กับหมอและคนไข้อื่นๆอีก ในรูููููปแบบการคิดแบบดำขาวนี้ของเรา มันเลยกลายเป็นมุมมองสีเทาแบบนี้แล สรุปคือผู้ป่วยหรือผู้มีภาวะซึมเศร้าควรพิจารณาเลือกโรงพยาบาลตั้งแต่ต้น เชื่อใจหมอ กินยาอย่างต่อเนื่อง และอย่าหยุดยาเอง

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in