เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
movie reflectionslalunatristeza
Portrait of a lady on fire : เพราะความทรงจำระหว่างเราเป็นสิ่งที่คงอยู่ตลอดไป
  • เรื่องย่อ

           บนเกาะอันห่างไกลของฝรั่งเศส มารียานถูกว่าจ้างให้มาวาดภาพดูตัว ของเอโลอิส ลูกสาวผู้ดีซึ่งเอโลอิสไม่อยากแต่งงานและไม่ยอมให้วาดภาพ มารียานจึงต้องแกล้งทำเป็นผู้ดูแลที่แม่จ้างมาแล้วแอบไปวาดภาพในเวลากลางคืน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาว 2 คนเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นความรักต้องห้าม


            หากดูจากเรื่องย่อแล้ว เรื่องนี้ก็คงเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่มีพล็อตเดิมๆที่หลายคนคงจะคุ้นชินกัน แต่ทว่าหลังจากที่เราได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วเรารู้สึกว่าแม้จะมีพล็อตที่คุ้นเคย แต่หนังกลับเลือกที่จะเล่าพล็อตนี้ในมุมที่ต่างกันออกไป ซึ่งแน่นอนว่ามันอิมแพคกับความรู้สึกและทำให้เราได้มองความรักในอีก(ที่งดงาม)ในอีกแง่มุมหนึ่งเลย


            หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องแบบย้อนกลับ ซึ่งหนังก็เผยให้เราเห็นตั้งแต่แรกเริ่มว่าบทสรุปสุดท้ายแล้ว นางเอกทั้งสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกัน เราชอบสัมภาษณ์หนึ่งของCeline Sciamma(ผู้กำกับ) ที่บอกว่า ตัวละครทั้งสองคนรู้ดีว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะจบลงอย่างไร มันไม่ได้เป็นเรื่องแบบ เอ๊ะ สุดท้ายแล้วเราจะเป็นยังไงต่อกันนะไม่เลย หนังเลือกที่จะบอกส่วนนี้กับคนดูตั้งแต่แรก แล้วเล่าเรื่องราวตั้งแต่พบจนจากโดยที่ทิ้งหมัดฮุกไว้ในใจคนดูอย่างเราหงาดหมัดเลยทีเดียว


    *****รีวิวส่วนที่เราชอบจากหนังเรื่องนี้***** spoiler alert!!!******


            จริงๆแล้วไม่อยากจะเลือกมารีวิว เพราะชอบทุกตรงในเรื่องนี้ 5555แต่จะเลือกส่วนที่วิเคราะห์ได้แล้วกัน;p

            ส่วนแรกที่เราชอบจากหนังเรื่องนี้เลยคือการใช้มุมมองของผู้หญิงในการถ่ายทอดเรื่องราวของผู้หญิงด้วยกัน มันทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นเพื่อนหญิงพลังหญิงที่อยู่ภายใต้อำนาจและการกดขี่จากเพศชาย ถึงแม้ตัวละครชายจะปรากฏออกมาเพียงไม่กี่นาที และไม่ถูกเอ่ยถึงเลยในเรื่องนี้ แต่กลับมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของผู้หญิงในเรื่องแทบจะทุกเรื่องเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของเอโลอิส ที่ตัวเจ้าบ่าวมีสิทธิ์ที่จะเลือกผู้หญิงที่ตนต้องการจะแต่งงานด้วย แต่ในทางกลับกัน เอโลอิสไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับการแต่งงานเลย , ฉากทำแท้งของโซฟีสาวใช้ในบ้าน หรือ แม้กระทั่งตอนที่มารียานทำที่สเก็ตช์ภาพลงไปในทะเลแต่กลับไม่เอ่ยปากขอให้ชายใดช่วย และเลือกที่จะกระโดดลงทะเลไปเก็บเองมันแสดงให้เห็นถึงpower of womenในเรื่องมากๆ และเป็นหนังที่เข้าใจตัวละครหญิงจริงๆ 



           ส่วนที่สองเป็นส่วนที่เราชอบที่สุด คือการใช้สายตา และคำพูดที่บาดลึกในหนังเรื่องนี้

    ตลอดเวลาที่ดูหนังเราจะเห็นภาพการจ้องมองสลับการไปมาตลอดทั้งเรื่อง(จริงๆแอบคิดว่าส่วนหนึ่งที่เอโลอิสไม่ยอมให้จิตรกรชายวาดรูปตนเองเพราะอาจจะไม่ชอบการจ้องมองจากสายตาผู้ชาย) ทำให้เราได้เห็นสายตาของมารียานที่จ้องมองไปที่แบบของตน ซึ่งสายตาที่จ้องมองนั้น ค่อยๆพัฒนาจากสายตาของจิตรกร ไปเป็นสายตาแบบที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมองคนที่ตกเองรัก ยอมรับเลยว่าส่วนหนึ่งที่ชอบเรื่องนี้เพราะจิตรกร(Noémie Merlant) สวยมากกกกกกก และใช้สายตาได้ดีมาก ถ้าเราเป็นเอโลอิสก็คงใจสั่นเพราะสายตาแบบนี้เหมือนกัน แต่ทว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้เล่าถึงสายตาของจิตรกรที่มองที่แบบอย่างเดียว เพราะจุดเปลี่ยนของเรื่องอยู่ที่ตัวแบบเองก็มองจิตรกรเหมือนกัน เราชอบตอนที่ทั้งคู่สลับกันห้ำหั่นทางคำพูดว่าใครรู้จักใครดีกว่ากัน เพราะมันทำให้คนดูอย่างเรารู้ว่า ทั้งสองคนนี้ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแค่จิตรกรและแบบวาดอีกแล้ว 

     ในช่วงแรกหนังทำให้คนดูอย่างเรารู้สึกสับสนทางความรู้สึกแทนนางเอกทั้งสองคน เรารู้สึกว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่เปราะบางและมีคำว่าใช่มั้ยนะ ใช่ไม่ใช่ เค้าจะชอบเรามั้ยนะ เรารู้สึกอย่างนี้ตลอดเวลาแต่พอเจอฉากรอบกองไฟปล้วต่อด้วยจูบแรกเท่านั้นแหละ เรากรี๊ดในใจเลย(ทำไมไม่จูบกันให้เร็วกว่านี้!!!) 

          


             นอกจากการใช้สายตาอันทรงพลังของทั้งคู่แล้ว ส่วนที่เราชอบมากๆอีกส่วนคือการใช้คำพูด ไม่มีคำบอกรัก ไม่มีคำบอกคิดถึงแต่พูดอ้อมๆแต่ละทีทำเอาเราต้องแอบกรี๊ดในใจเลยทีเดียว?? 

    เราชอบตอนที่เอโลอิสบอกมารียานว่าในความอิสระฉันรู้สึกถึงเสรีภาพที่เธอพูดถึง แต่มันทำให้ฉันคิดถึงการที่ไม่มีเธออยู่ด้วย พอเราฟังคำนี้แล้วยิ้มแก้มฉีกกว่ามารียานอีกค่ะ55555 หรือตอนที่เอโลอิสเห็นภาพพอรตเทรตภาพแรกแล้วไม่พอใจ เพราะรู้สึกว่าไม่เหมือนกับตัวเอง ทั้งภาพยังเต็มไปด้วยขนบที่สะท้อนความเป็นสังคมสมัยนั้น ราวกับภาพยั้ยไม่มีชีวิต เลยเถียงกับมารียานสักพักและบอกว่า ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งจะหายวับไปตามชั่วขณะหรอกนะ เพราะความรู้สึกบางอย่างมันลึกซึ้งกว่านั้น ตอนนั้นเองที่ทำให้เรามั่นใจว่าเอโลอิสนั้นตกหลุมรักจิตรกรของเธอเข้าแล้วจริงๆ



             และส่วนสุดท้ายที่เราชอบคือการเน้นเรื่องความทรงจำ ในหนังย้ำเรื่องภาพจำ ความทรงจำ ความรู้สึกมาตั้งแต่เริ่มเรื่อง ซึ่งพอมาจนถึงฉากสุดท้ายของเรื่องแล้ว ทำให้เราเข้าใจเลยว่าสิ่งที่ตัวหนังย้ำมาทั้งหมดนั้นมันสำคัญแค่ไหน เราชอบการนำเทพปกรณัมกรีกมาเชื่อมกับความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งคู่ และทำให้มองเห็นมุมมองใหม่ๆว่า จริงๆแล้วอาจะเป็นความตั้งใจของทั้งคู่ที่จะหันมามองกันและเก็บความทรงจำระหว่างกันและกันเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ ความสัมพันธ์ระหว่างนางเเกทั้งสองคนก็เช่นกัน ด้วยรู้ตั้งแต่แรกว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมนี้ไปได้ ทั้งสองจึงเลือกที่จะเก็บความทรงจำในช่วงสั้นๆระหว่างกันให้มากที่สุด เพราะความทรงจำที่เรามีนั้นเป็นเครื่องยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันมีอยู่จริง

             เราคิดว่ามารียานได้เปรียบในส่วนนี้มากกว่าเพราะความเป็นจิตรกร เหมือนที่เอโลอิสบอกว่า เธอจะวาดภาพฉันซ้ำๆได้มากเท่าที่เธอต้องการ ในขณะที่เอโลอิสนั้นมีหลักฐานชิ้นเดียวที่เป็นเครื่องยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างเธอและมารียาน นั่นคือภาพวาดของมารียานในหนังสือหน้า28 โดยเฉพาะในช่วง10นาทีสุดท้ายหนังปล่อยหมัดฮุกใส่คนดูไม่หยุดตั้งแต่ตอนที่มารียานกำลังจะออกจากบ้านแล้วเอโลอิสบอกให้หันกลับมาดูเธอใส่ชุดแต่งงาน ซึ่งภาพนั้นเป็นภาพที่ตามหลอกหลอนมารียานอยู่หลายครั้ง เราคิดว่าภาพหลอนนั้นแสดงให้เห็นจุดจบของความสัมพันธ์ครั้งนี่ซึ่งเธอรู้ดีแก่ใจว่าเอโลอิสจะต้องไปแต่งงานกับชายอื่น รวมถึงสองฉากสุดท้ายที่ทำเรามูฟออนจากหนังเรื่องนี้ไม่ได้ คือฉากที่มารียานได้เจอกับเอโลอิสอีกสองครั้ง ครั้งแรกที่มิวเซียม ถึงแม้ว่าเอโลอิสจะมีลูกแล้วแต่จุดที่ทำให้เราจี๊ดที่สุดคือเธอยังนำหนังสือที่มีภาพมารียานมาและใช้นิ้วคั่นหน้า28ไว้ มันยิ่งย้ำให้เห็นว่าเธอไม่เคยลืมความสัมพันธ์ของเธอปละมารียานเลย ซึ่งถ้าเป็นเราคงไม่ยิ้มแบบมารียาน แต่คงลงไปนอนร้องไห้ที่พื้นแล้ว55555 และฉากสุดท้ายที่มารียานเจอเอโลอิสคือที่โรงละครฝั่งตรงข้ามกัน เอโลอิสมานั่งฟังออร์เคสตร้าเพลงที่มารียานบอกว่าชอบและเคยเล่นให้เธอฟังโดยปราศจากลูกและสามีข้างๆ ฉากนี้ทำให้คนดูรู้อยู่แล้วแหละว่าเอโลอิสไม่เคยมูฟออนจากความสัมพันธ์ในวันนั้นได้เลย แต่สิ่งที่เราชอบคือการค่อยๆเปลี่ยนสีหน้าจาก เศร้า ร้องไห้ และสุดท้ายยิ้มด้วยความคิดถึงเรื่องราวในวันนั้น มันทำให้เราเข้าใจคำว่า don’t regret , remember ที่มารียานพูดกับเอโลอิสในคืนสุดท้ายก่อนที่จะจากกันได้ดีทีเดียว




         สรุปคือ ชอบมากค่ะ infinity/10 ทุกอย่างในเรื่องดีหมด แนะนำว่าต้องไปดูในโรงใหญ่เพราะให้อารมณ์ต่างกันมากๆๆๆๆๆๆ ปล.ระวังตกหลุมรักจากสายตาที่คุณจิตรกรมองมานะคะ☺️


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in