เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ยChaitawat Marc Seephongsai
วาระ 100 ปีชาตกาล ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์
  • รีวิวเว้ย (129) วาระ 100 ปีชาตกาล ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมมือกับ สสส. อบต. สปช. กอรมน. กกน. สคบ. ปปช. ปชต. ปปช. พท. ทรท. ทอท. ททท. พอ จัดพิมพ์หนังสือชุด "วาระ 100 ปีชาตกาล ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์" สำหรับถ่ายทอดเรื่องราวของ "อาจารย์ป๋วย" ให้กับคนไทยทุกคนได้รู้จัก ผ่านหนังสือทั้ง 5 เล่ม ที่ผู้เขียนจะขอแนะนำ 4 เล่มต่อไปนี้ก่อน เพราะเล่มที่ 5 นั้นใหญ่พอควร

         _____________________________________________

    รีวิวเว้ย (129.1) "เราจะไม่ปล่อยให้นกเหยี่ยวสีขาวปากแดง มาครอบครองอาณาจักรท้องฟ้าโดยไม่ชอบธรรม...เราต้องต่อสู้" "ตายเป็นตาย...หากเราตาย ขอให้เรารวมพลังกันด้วยความกล้าหาญเถิด แต่ได้อาณาจักรของเราคืนมา ก็เป็นการถูกต้องแล้ว"

    หนังสือ : นกพิราบผู้เสียสละ
    โดย : ชมัยภร แสงกระจ่าง
    วาระ 100 ปีชาตกาล ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์

             นิทานจากแรงบันดาลใจในความกล้าหาญและรักในสันติภาพของอาจารย์ป๋วย ขณะเข้าร่วมเสรีไทย ในสงครามโลกครั้งที่สอง

              นิทานว่าด้วยเรื่องของนิพิราบผู้ไม่ยอมก้มหัวให้กับความอยุติธรรม ของผู้นำที่มาจากการแย่งชิงอำนาจของบุคคลอื่น และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาเพื่อสู้และทวงถามหาความยุติธรรม ที่ถูกพรากและแย่งชิงจากไป

              ต่อให้เป็นเพียงนกพิราบตัวเล็ก ๆ ก็พร้อมที่จะต่อกรกับนกเหยี่ยวที่แข็งแรง แต่อยุติธรรมยึดครองอำนาจ หากไม่สู้เราจะอยู่อย่างผู้สมยอมได้หรือ

          _____________________________________________

    รีวิวเว้ย (129.2) "ถ้าท่านเจ้าป่าคิดว่าฉันผิดก็เชิญลงโทษ ฉันยอมตายดีกว่ายอมให้ท่านละเมิดกฎของป่า ซึ่งเป็นเรื่องของส่วนร่วม"

    หนังสือ : งูใหญ่ ผู้ซื่อสัตย์
    โดย : ชมัยภร แสงกระจ่าง
    วาระ 100 ปีชาตกาล ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์

             นิทานจากแรงบันดาลใจในความซื่อสัตย์และความกล้าหาญของอาจารย์ป๋วย ขณะเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

              หนังสือภาพว่าด้วยเรื่องของงูใหญ่ ที่ไม่ได้เป็นเจ้าป่า เป็นเพียงผู้ได้รับความไว้วางใจ และฉันทามติจากบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ ให้คอยปกป้องอาหารของเหล่าสรรพสัตว์ เพื่อเก็บไว้ปันส่วนให้กับสัตว์ที่ป่วยและพิการ

             อยู่มาวันหนึ่งสิงโตเจ้าป่า ต้องการอาหารเหล่านั้นไปเลี้ยงลูก เลี้ยงเมีย ผู้มีสุขภาพครบถ้วนบริบูรณ์ เมื่อเป็นเช่นนั้น งูใหญ่ในฐานะของผู้ดูแลอาหารเล่านั้น จึงไม่ยอมให้เจ้าป่าทำตามใจชอบ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของตนก็ยอม เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของส่วนร่วมเอาไว้ มิใช่ยอมยกให้กับใครคนใดคนหนึ่ง เพียงเพราะเขาเป็นผู้ที่มีอำนาจมากกว่า

         _____________________________________________

    รีวิวเว้ย (129.3) "ท่านมีปีกตัวเดียวไม่ได้หรอก เพราะเมื่อบินขึ้นไปบนฟ้าตัวเดียวท่านก็จะโดดเดี่ยว

    หนังสือ : ครูใหญ่ ป. ปลา
    โดย : ชมัยภร แสงกระจ่าง
    วาระ 100 ปีชาตกาล ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์

             นิทานจากแรงบันดาลใจในความดี เฉลียวฉลาด และมีปัญญาของอาจารย์ป๋วย ขณะเป็นอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

             หนังสือว่าด้วยเรื่องของครูใหญ่ ป.ปลา ที่อยากสอนให้ปลาทั้งทะเลมีความรู้ และครูใหญ่ ป.ปลา มีความมานะบากบั่น ที่จะสั่งสอนปลาทุกตัวอย่างเท่าเทียมกัน ต่อให้ปลาตัวนั้นจะเป็นปลาอะไร และเคยมีนิสัยสันดานมาอย่างไรก็ตาม

         _____________________________________________

    รีวิวเว้ย (129.4) คนเราเกิดมาไม่เท่ากัน การเข้าถึงทรัพยากรก็ไม่เท่ากัน แต่เราเป็นคนเท่ากัน และเรามีสิทธิที่จะเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ อย่างเท่าเทียมกัน โดยรัฐบาลมีหน้าที่ในการจัดสรรสิ่งเหล่านี้ให้กับประชาชนในรูปแบบของสิ่งที่เรียกว่า "รัฐสวัสดิการ"

    หนังสือ : จากครรภ์มารดา ถึงเชิงตะกอน
    โดย : ป๋วย อึ๋งภากรณ์
    วาระ 100 ปีชาตกาล ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์

              ถ้าใครรู้จักอาจารย์ป๋วย ในแบบที่ไม่ฉาบฉวยเกินไปนัก น่าจะเคยมีโอกาสได้อ่านงาน "จากครรภ์มารดา ถึงเชิงตะกอน" ของอาจารย์ ที่ว่าด้วยเรื่องของสวัสดิการณ์ที่ควรจะ และจำเป็นจะต้องถูกสร้างสรรขึ้นมาโดยรัฐ แต่อาจารย์มิได้เรียนร้องให้จัดทำสวัสดิการโดยรัฐแค่เพียงอย่างเดียว ในตอนท้ายอาจารย์ป๋วย ยังทิ้งข้อความเอาไว้ว่า "ตนในฐานะประชาชนของรัฐ ก็พร้อมที่จะเสียภาษี เพื่อให้สวัสดิการดังกล่าว ดำเนิน เกิด มี ได้ด้วยเช่นกัน"

             "จากครรภ์มารดา ถึงเชิงตะกอน" มีขนาดไม่สั้น ไม่ยาวเท่าใดนัก หากท่านใดไม่เคยอ่านผ่านตา ผู้เขียนขอเชิญชวนให้ท่านลองไล่สายตาในบรรทัดต่อไปตั้งแต่ต้นจนจบดูนะ

             ......"เมื่อผมอยู่ในครรภ์ของแม่ ผมต้องการให้แม่ได้รับประทานอาหารที่เป็นคุณประโยชน์ และได้รับความเอาใจใส่ และบริการอันดีในเรื่องสวัสดิภาพของแม่และเด็ก ผมไม่ต้องการมีพี่น้องมากอย่างที่พ่อแม่ผมมีอยู่ และแม่จะต้องไม่มีลูกถี่นัก

             พ่อกับแม่จะแต่งงานกันถูกฎหมาย หรือธรรมเนียมประเพณีหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ พ่อกับแม่ต้องอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข ทำความอบอุ่นให้ผมและพี่น้อง

            ในระหว่าง 2-3 ขวบแรกของผม ซึ่งร่างกายและสมองผมกำลังเติบโตในระยะที่สำคัญ ผมต้องการให้แม่ผมกับตัวผม ได้รับประทานอาหารที่เป็นคุณประโยชน์

             ผมต้องการไปโรงเรียน พี่สาวหรือน้องสาวผมก็ต้องการไปโรงเรียน จะได้มีความรู้หากินได้ และจะได้ รู้คุณธรรมแห่งชีวิต ถ้าผมสติปัญญาเรียนชั้นสูง ๆ ขึ้นไป ก็ให้มีโอกาสเรียนได้ ไม่ว่าพ่อแม่ผมจะรวย หรือจน จะอยู่ในเมืองหรือชนบทแร้นแค้น

             เมื่อออกจากโรงเรียนแล้ว ผมต้องการงานอาชีพที่มีความหมาย ทำให้ได้รับความพอใจว่า ตนได้ทำงานเป็นประโยชน์แก่สังคม

            บ้านเมืองที่ผมอาศัยอยู่จะต้องมีขื่อ มีแป ไม่มีการข่มขู่ กดขี่ หรือประทุษร้ายกัน ประเทศของผมควรจะมีความสัมพันธ์อันชอบธรรม และเป็นประโยชน์กับโลกภายนอก ผมจะได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงความคิด และวิชาของมนุษย์ทั้งโลก และประเทศของผมจะได้มีโอกาส รับเงินทุนจากต่างประเทศ มาใช้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม

             ผมต้องการให้ชาติของผมได้ขายผลิตผลแก่ต่างประเทศด้วยราคาอันเป็นธรรม ในฐานะที่ผมเป็นชาวไร่ชาวนา ผมก็อยากมีที่ดินของผมพอสมควรสำหรับทำมาหากิน มีช่องทางได้กู้ยืมเงินมาขยายงาน มีโอกาสรู้วิธีการทำกินแบบใหม่ ๆ มีตลาดดี และขายสินค้าได้ราคายุติธรรม

             ในฐานะที่ผมเป็นกรรมกร ผมก็ควรจะมีหุ้นมีส่วนในโรงงาน บริษัท ห้างร้านที่ผมทำอยู่

             ในฐานะที่ผมเป็นมนุษย์ ผมก็ต้องการอ่านหนังสือพิมพ์ และหนังสืออื่น ๆ ที่ไม่แพงนัก จะฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ ก็ได้โดยไม่ต้องทนรบกวนจากการโฆษณามากนัก

             ผมต้องการสุขภาพอนามัยอันดี และรัฐบาลจะต้องให้บริการป้องกันโรคแก่ผมฟรี กับบริการการแพทย์ รักษาพยาบาลอย่างถูกอย่างดี เจ็บป่วยเมื่อใดหาหมอพยาบาลได้สะดวก

              ผมจำเป็นต้องมีเวลาว่างสำหรับเพลิดเพลินกับครอบครัว มีสวนสาธารณะที่เขียวชะอุ่ม สามารถมีบทบาท และชมศิลปะ วรรณคดี นาฏศิลป์ ดนตรี วัฒนธรรมต่าง ๆ เที่ยวงานวัน งานลอยกระทง งานนักขัตฤกษ์ งานกุศลอะไรก็ได้พอสมควร

              ผมต้องการอากาศบริสุทธิ์สำหรับหายใจ น้ำดื่มบริสุทธิ์สำหรับดื่ม

              เรื่องอะไรที่ผมทำเองไม่ได้ หรือได้แต่ไม่ดี ผมก็จะขอความร่วมมือกับเพื่อนฝูงในรูปสหกรณ์ หรือ สโมสร หรือสหภาพ จะได้ช่วยซึ่งกันและกัน

              เรื่องที่ผมจะเรียกร้องข้างต้นนี้ ผมไม่เรียกร้องเปล่า ผมยินดีเสียภาษีอากรให้ส่วนรวมตามอัตภาพ

             ผมต้องการโอกาสที่มีส่วนในสังคมรอบตัวผม ต้องการมีส่วนในการวินิจฉัยโชคชะตาทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของชาติ

             เมียผมก็ต้องการโอกาสต่าง ๆ เช่นเดียวกับผม และเราสองคนควรจะได้รับความรู้และวิธีการวางแผนครอบครัว

            เมื่อแก่ ผมและเมียก็ควรได้ประโยชน์ตอบแทนจากการประกันสังคม ซึ่งผมได้จ่ายบำรุงตลอดมา

             เมื่อจะตาย ก็ขออย่าให้ตายอย่างโง่ ๆ อย่างบ้า ๆ คือตายในสงครามที่คนอื่นก่อให้เกิดขึ้น ตายในสงครามกลางเมือง ตายเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ ตายเพราะน้ำหรืออากาศเป็นพิษ หรือตายเพราะการเมืองเป็นพิษ

             เมื่อตายแล้ว ยังมีทรัพย์สมบัติเหลืออยู่ เก็บไว้ให้เมียผมพอใจในชีวิตของเธอ ถ้าลูกยังเล็กอยู่ก็เก็บไว้ เลี้ยงให้โต แต่ลูกที่โตแล้วไม่ให้ นอกนั้นรัฐบาลควรเก็บไปหมด จะได้ใช้เป็นประโยชน์ในการบำรุงชีวิตของคนอื่น ๆ บ้าง".....

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in