เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
SHORT STORY | NCTPrimroseYellow
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน The first day in 2019, one day with you
  • JENOx JAEMIN

    NC-17

     

    ปีแรกของการบรรลุนิติภาวะของประเทศเกาหลีคือวันแห่งอิสระของเด็กหนุ่มที่กำลังยืนส่องกระจกหมุนไปมาเพื่อตรวจเช็คความเรียบร้อยว่าเสื้อผ้าของเขานั้นอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและมันเข้ากันกับรองเท้าคู่แพงที่นานครั้งจะหยิบมาใส่หรือไม่ผิดกับเด็กหนุ่มอีกคนที่สวมเสื้อผ้าที่สามารถหยิบได้ง่าย ๆ อย่างกางเกงยีนส์เสื้อยืดทับด้วยเสื้อกันหนาวตามด้วยหมวกใบใหม่ที่ซื้อมาทดแทนใบเก่าที่ทำหายไปก่อนหน้านี้

     

    “จะยืนส่องกระจกอีกนานไหมแจมิน”  เขาพูดพลางเดินไปรอที่หน้าประตูหอพัก  “เร็วเข้า ตื่นก็สายยังจะมายืนส่องกระจกอีกตั้งนานสองนาน”

     

    “ขี้บ่นเป็นลุงเลยนะเจโน่”

     

    “ก็เร่งหน่อยสิ คนอื่นเค้าไปที่ตึกหมดแล้วนะ”

     

    “รู้แล้ว ๆ” แจมินขานรับจากนั้นก็หยิบน้ำหอมกลิ่นพีชมาฉีดพรมไปทั่วตัวจนฉุนกึกไปหมด  “หอมไหม” หันมาส่งยิ้มหน้าระรื่นให้กับคนที่คิ้วผูกกันเป็นปม

     

    “เร็ว ๆ”

     

    “จ้ะลุง” สองสมาชิกเดินมาสมทบที่ห้องซ้อมในที่สุดพวกเขาใช้เวลาพอสมควรกว่าจะหลบหลีกบรรดาแฟนคลับที่มาป้วนเปี้ยนบริเวณหอพักเพื่อมาให้ถึงตึกได้ทันเวลาก่อนที่ครูสอนเต้นจะเข้ามา

     

    “พวกพี่ช้ามาก”  จีซองที่มาพร้อมกับเหรินจวิ้นทักคนที่มาใหม่

     

    “พี่สุดที่รักนายไงจีซองตื่นก็สายแล้วยังจะทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวอีก” เจโน่ว่าพลางทิ้งตัวนั่งบนโซฟาภายในห้องซ้อม

     

    “อากาศแบบนี้ใครเค้าตื่นเช้ากันเล่า”  แจมินเถียงก่อนจะทิ้งตัวนั่งข้าง ๆ เจโน่

     

    “ฉันไงตื่นเช้า”  เหรินจวิ้นตอบ “ว่าแต่ปีใหม่นี้พวกนายไม่ไปดูพลุที่ริมแม่น้ำแบบที่ชอบทำกันหรือไง”

     

    “ไม่ล่ะ คนเยอะเดี๋ยวแฟน ๆเห็นจะวุ่นวายเอาเปล่า ๆ”  แจมินตอบ

     

    “ไม่ใช่ว่ากลัวคนอื่นรู้หรอกเหรอว่าไปเดตกัน”

     

    “เดี๋ยวเหอะเฉินเล่อ”

     

    “เอ้อ!เมื่อวานพวกพี่ได้นับถอยหลังเข้าปีใหม่บนเวทีด้วยนี่นา อิจฉาชะมัด”

     

    “รีบโตสิจะได้อยู่หลังสี่ทุ่มได้”  แล้วพวกเขาก็พูดกันต่อสักพักใหญ่ ๆจนกระทั่งครูสอนเต้นเดินทางมาถึงและได้เริ่มซ้อมกันตามปกติ

     

    แม้จะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้เนื่องในวันปีใหม่แต่ทั้งเจโน่และแจมินเองต่างก็ยังอยากใช้เวลาร่วมกันให้มากที่สุดแทนการกลับบ้านเมื่อซ้อมเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบห้าทุ่มแล้ว ตามปกติพวกเขาต้องกลับไปที่หอพักแต่ในเมื่อบรรลุนิติภาวะแล้วล่ะก็พวกเขาจึงมีอิสระมากขึ้นที่จะสามารถออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกได้โดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่ไปคุม

     

    “พวกพี่ไปไหนกันต่อ”  จีซองถามขณะที่พวกเขากำลังหยิบเสื้อกันหนาวมาสวมตามด้วยหมวกและหน้ากากอนามัยเพื่อปกปิดใบหน้าเอาไว้

     

    “ที่ ๆ ผู้ใหญ่เค้าไปกัน”

     

    “ร้านเหล้าเหรอ”  น้องเล็กถามอย่างกระตืนรือร้น

     

    “ใช่ที่ไหนล่ะ ไม่ต้องรู้หรอกฝากดูน้องด้วยนะ”  เจโน่หันไปบอกกับเหรินจวิ้นที่พยักหน้ารับทันทีเหมือนรู้อะไรมาก่อน

     

    “เออ ขอให้มีความสุข”

     

    “อ้าวแล้วพี่เหรินจวิ้นไม่ไปด้วยกันหรอกเหรอ”

     

    “ไม่ล่ะ ไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอ”

     

    “อ้อ”

     

    “ไปก่อนนะ”

     

    “เออ”

     

    ทั้งสองคนออกมาก่อนและเรียกแท็กซี่ที่ผ่านหน้าตึกพอดีให้จอดพวกเขาเปิดประตูรถด้านหนึ่งออกแล้วเข้าไปนั่งทีละคนแทนที่จะกลับหอแต่จุดมุ่งหมายของพวกเขาคือโรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เมื่อยื่นธนบัตรตามจำนวนที่มิเตอร์ขึ้นให้กับคนขับเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็พอกันเดินก้มหน้าหายเข้าไปด้านใน

     

    สาเหตุที่ต้องทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆก็เพราะไม่อยากให้ใครมาเห็นว่าเด็กหนุ่มสองคนที่เพิ่งบรรลุนิติภาวะมาหมาด ๆพากันมายังสถานที่อโคจรแบบนี้และยิ่งพวกเขาเป็นคนดังด้วยล่ะก็จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษพนักงานที่อยู่ด้านในพยายามจ้องเข้าไปที่ใบหน้าซึ่งมีทั้งหน้ากากอนามัยและหมวกปกปิดไว้อย่างมิดชิด  “กี่ห้อง”

     

    “ห้องเดียวครับ” เธอพยักหน้ารับก่อนจะยื่นกุญแจมาให้และรับธนบัตรจำนวนหนึ่งมา

     

    “ชั่วโมงเดียวนะ”

     

    “ครับ”

     

    “เชิญ” เด็กหนุ่มสองคนดูเลขห้องตรงกุญแจก่อนจะตรงดิ่งไปยังห้องด้านในสุดฝั่งซ้ายมือเมื่อประตูปิดลงบรรยากาศภายในห้องก็ดูเปลี่ยนไป ความประหม่าเริ่มเข้ามาเล่นงานพวกเขาทั้งคู่อย่างห้ามไม่ได้เพราะจะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกสำหรับการลองทำอะไรที่เป็นผู้ใหญ่ดู

     

    มือหนาเงอะ ๆ งะ ๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนออกก่อนจะตรงเข้าไปถอดชุดที่แจมินบรรจงเลือกมาอย่างดีตั้งแต่เช้าให้ลงไปกองกับพื้นห้องเขากุมใบหน้าหวานที่ติดหล่อนั้นเอาไว้จากนั้นก็เคลื่อนใบหน้าของตนเข้าไปใกล้จนสามารถรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่พร้อมแผดเผาร่างกายให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

     

    “มันจะดีใช่ไหม” แววตาสั่นไหวของแจมินบ่งบอกว่าแม้จะกลัวแต่เขาก็พร้อมที่จะทำ

     

    “มันต้องดี” พวกเขาประกบริมฝีปากเข้าหากันราวกับเป็นแม่เหล็กต่างขั้วบดจูบกันไปมาแบบที่ชอบทำเวลาที่อยู่ในห้องกันสองคนมือซุกซนลูบไปตามแผ่นหลังกว้างก่อนจะจิกลงที่ลาดไหล่ยามเมื่ออีกฝ่ายดูดดึงผิวกายบริเวณซอกคอความร้อนของร่างกายค่อย ๆ บรรเทาอากาศหนาวจัดของคืนวันปีใหม่ได้เป็นอย่างดีปลายจมูกโด่งลากลงมาตามลำคอระหงและหยุดที่อกบาง

     

    เด็กหนุ่มเซล้มลงไปนอนบนเตียงโดยมีเพื่อนคนสนิทล้มมาคร่อมทับเจลหล่อลื่นที่เตรียมมาถูกเปิดฝาออกและบีบชโลมที่เรียวนิ้วยาวอย่างรู้งาน  “ทำไมดูคล่องแคล่ว”  คนใต้ร่างถาม

     

    “ดูคลิปมา”

     

    “เพื่อคืนนี้เหรอ”

     

    “อืม” แจมินยิ้มอย่างพอใจที่อีกฝ่ายใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆอย่างการบรรเทาอาการเจ็บสำหรับครั้งแรกของพวกเขา

     

    เจโน่สอดนิ้วเข้าไปในช่องทางของอีกฝ่ายอย่างใจเย็นก่อนจะเพิ่มจำนวนเรื่อยๆ จนคับแน่น  “อื้อ” คนด้านล่างนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดพลางกำท่อนแขนอีกฝ่ายแน่น

     

    “เจ็บไหม”

     

    “ฉันไหว” คนด้านบนขยับนิ้วเป็นจังหวะเนิบนาบเพื่อให้อีกฝ่ายได้คุ้นชินกับสัมผัสก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นจนร่างบางบิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน  อื้อ!!! เจโน่

     

    “ชอบไหม”

     

    “อือ เร็ว ๆ” เขาขยับนิ้วถี่ก่อนจะดึงออกมาแล้วรีบสวมอุปกรณ์ป้องกันแล้วสอดสวนเข้าไปในทันที  “อ๊ะ! ดะ..เดี๋ยวอย่าเพิ่งขยับ” แจมินบอกเสียงแหบพร้อมกับพรูลมหายใจออกมา “มันใหญ่”

     

    “ของนายต่างหากที่แน่น”

     

    พวกเขาค้างไว้อยู่แบบนั้นครู่หนึ่งจนเจโน่มั่นใจแล้วว่าแจมินพร้อมเขาจึงเริ่มขยับส่วนล่างต่อทันทีแท่งเอ็นที่แข็งชันอยู่ตรงหน้าก็ไม่ปล่อยให้ว่างเจโน่รูดรั้งมันขึ้นลงด้วยฝ่ามือพร้อมกับขยับสะโพกไปด้วย ส่งผลให้แจมินบิดเร่าร่างกายและครวญครางอย่างสุขสม

     

    ฝ่ามือเล็กยกขึ้นมิดปากของตัวเองไว้เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองจะเสียงดังเกินไปแล้วส่วนมืออีกข้างก็หมุนวนที่ยอดอกของตนเองและนั่นยิ่งทำให้คนที่มองอยู่เร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วบริเวณซึ่งผนังห้องก็ไม่ได้หนามากเท่าไหร่พวกเขาจึงได้ยินเสียงของห้องข้างๆ เช่นกันบทรักเริ่มร้อนแรงขึ้นเมื่อเจโน่จับแจมินพลิกตัวให้คว่ำหน้าลงกับเตียงโดยที่ส่วนล่างยังคงเชื่อมติดกัน

     

    เสียงครางหวานดังสลับกับเสียงครางต่ำในลำคอและไม่วายถูกกลบด้วยเสียงเนื้อกระทบกันซึ่งดังสนั่นกลบห้องอื่นๆ เขาเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้นโดยจับเอวบางเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้างส่วนกลางลำตัวของคนด้านล่างก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าตัวที่จะปรนเปรอตัวเองให้เสียวซ่านไปพร้อมๆ กัน

     

    เมื่อใกล้ถึงจุดหมายพวกเขาก็ขยับสะโพกและมือเป็นจังหวะที่สอดคล้องกันจนกระทั่งทุกอย่างเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดหัวสมองขาวโพลนพร้อมกับร่างกายที่กระตุกเกร็ง เสียงพลุที่ถูกจุดขึ้นบนท้องฟ้าดังเป็นจังหวะเดียวกับที่สายธารพุ่งออกมาของทั้งคู่ร่างหนาโน้มกายเข้าไปจูบซับเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นตามกรอบหน้าอย่างรักใคร่เขาโอบกอดร่างคนตัวบางเอาไว้แน่นจูบย้ำซ้ำ ๆ ที่แก้มเนียนใสพร้อมกับพร่ำบอกคำหวานด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

     

    “รักนะ รักคนเดียว ปีใหม่นี้ก็ขอให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะอย่าเจ็บอีกเพราะนายเจ็บทีไรฉันเหมือนจะตายทุกที”

     

    “เวอร์”

     

    “ไม่ได้เวอร์สักหน่อยไปล้างตัวไหมหรือจะนอนก่อน”

     

    “ขอนอนต่อก่อนได้ไหมแล้วค่อยไปล้างตัว”

     

    “อื้ม”

     

    FIN

    HappyNew Year 2019

    เราลืมไปเลยว่าต้องมีฟิคสุขสันต์วันปีใหม่เอาเป็นว่าย้อนหลังแล้วกันนะคะ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in