ปีแรกของการบรรลุนิติภาวะของประเทศเกาหลีคือวันแห่งอิสระของเด็กหนุ่มที่กำลังยืนส่องกระจกหมุนไปมาเพื่อตรวจเช็คความเรียบร้อยว่าเสื้อผ้าของเขานั้นอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและมันเข้ากันกับรองเท้าคู่แพงที่นานครั้งจะหยิบมาใส่หรือไม่ผิดกับเด็กหนุ่มอีกคนที่สวมเสื้อผ้าที่สามารถหยิบได้ง่าย ๆ อย่างกางเกงยีนส์เสื้อยืดทับด้วยเสื้อกันหนาวตามด้วยหมวกใบใหม่ที่ซื้อมาทดแทนใบเก่าที่ทำหายไปก่อนหน้านี้
“จะยืนส่องกระจกอีกนานไหมแจมิน”
“ขี้บ่นเป็นลุงเลยนะเจโน่”
“ก็เร่งหน่อยสิ คนอื่นเค้าไปที่ตึกหมดแล้วนะ”
“รู้แล้ว ๆ” แจมินขานรับจากนั้นก็หยิบน้ำหอมกลิ่นพีชมาฉีดพรมไปทั่วตัวจนฉุนกึกไปหมด
“เร็ว ๆ”
“จ้ะลุง” สองสมาชิกเดินมาสมทบที่ห้องซ้อมในที่สุดพวกเขาใช้เวลาพอสมควรกว่าจะหลบหลีกบรรดาแฟนคลับที่มาป้วนเปี้ยนบริเวณหอพักเพื่อมาให้ถึงตึกได้ทันเวลาก่อนที่ครูสอนเต้นจะเข้ามา
“พวกพี่ช้ามาก”
“พี่สุดที่รักนายไงจีซองตื่นก็สายแล้วยังจะทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวอีก” เจโน่ว่าพลางทิ้งตัวนั่งบนโซฟาภายในห้องซ้อม
“อากาศแบบนี้ใครเค้าตื่นเช้ากันเล่า”
“ฉันไงตื่นเช้า”
“ไม่ล่ะ คนเยอะเดี๋ยวแฟน ๆเห็นจะวุ่นวายเอาเปล่า ๆ” แจมินตอบ
“ไม่ใช่ว่ากลัวคนอื่นรู้หรอกเหรอว่าไปเดตกัน”
“เดี๋ยวเหอะเฉินเล่อ”
“เอ้อ!เมื่อวานพวกพี่ได้นับถอยหลังเข้าปีใหม่บนเวทีด้วยนี่นา อิจฉาชะมัด”
“รีบโตสิจะได้อยู่หลังสี่ทุ่มได้”
แม้จะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้เนื่องในวันปีใหม่แต่ทั้งเจโน่และแจมินเองต่างก็ยังอยากใช้เวลาร่วมกันให้มากที่สุดแทนการกลับบ้านเมื่อซ้อมเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบห้าทุ่มแล้ว ตามปกติพวกเขาต้องกลับไปที่หอพักแต่ในเมื่อบรรลุนิติภาวะแล้วล่ะก็พวกเขาจึงมีอิสระมากขึ้นที่จะสามารถออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกได้โดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่ไปคุม
“พวกพี่ไปไหนกันต่อ”
“ที่ ๆ ผู้ใหญ่เค้าไปกัน”
“ร้านเหล้าเหรอ”
“ใช่ที่ไหนล่ะ ไม่ต้องรู้หรอกฝากดูน้องด้วยนะ”
“เออ ขอให้มีความสุข”
“อ้าวแล้วพี่เหรินจวิ้นไม่ไปด้วยกันหรอกเหรอ”
“ไม่ล่ะ ไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอ”
“อ้อ”
“ไปก่อนนะ”
“เออ”
ทั้งสองคนออกมาก่อนและเรียกแท็กซี่ที่ผ่านหน้าตึกพอดีให้จอดพวกเขาเปิดประตูรถด้านหนึ่งออกแล้วเข้าไปนั่งทีละคนแทนที่จะกลับหอแต่จุดมุ่งหมายของพวกเขาคือโรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เมื่อยื่นธนบัตรตามจำนวนที่มิเตอร์ขึ้นให้กับคนขับเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็พอกันเดินก้มหน้าหายเข้าไปด้านใน
สาเหตุที่ต้องทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆก็เพราะไม่อยากให้ใครมาเห็นว่าเด็กหนุ่มสองคนที่เพิ่งบรรลุนิติภาวะมาหมาด ๆพากันมายังสถานที่อโคจรแบบนี้และยิ่งพวกเขาเป็นคนดังด้วยล่ะก็จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษพนักงานที่อยู่ด้านในพยายามจ้องเข้าไปที่ใบหน้าซึ่งมีทั้งหน้ากากอนามัยและหมวกปกปิดไว้อย่างมิดชิด
“ห้องเดียวครับ”
“ชั่วโมงเดียวนะ”
“ครับ”
“เชิญ” เด็กหนุ่มสองคนดูเลขห้องตรงกุญแจก่อนจะตรงดิ่งไปยังห้องด้านในสุดฝั่งซ้ายมือเมื่อประตูปิดลงบรรยากาศภายในห้องก็ดูเปลี่ยนไป ความประหม่าเริ่มเข้ามาเล่นงานพวกเขาทั้งคู่อย่างห้ามไม่ได้เพราะจะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกสำหรับการลองทำอะไรที่เป็นผู้ใหญ่ดู
มือหนาเงอะ ๆ งะ ๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนออกก่อนจะตรงเข้าไปถอดชุดที่แจมินบรรจงเลือกมาอย่างดีตั้งแต่เช้าให้ลงไปกองกับพื้นห้องเขากุมใบหน้าหวานที่ติดหล่อนั้นเอาไว้จากนั้นก็เคลื่อนใบหน้าของตนเข้าไปใกล้จนสามารถรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่พร้อมแผดเผาร่างกายให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
“มันจะดีใช่ไหม”
“มันต้องดี” พวกเขาประกบริมฝีปากเข้าหากันราวกับเป็นแม่เหล็กต่างขั้วบดจูบกันไปมาแบบที่ชอบทำเวลาที่อยู่ในห้องกันสองคนมือซุกซนลูบไปตามแผ่นหลังกว้างก่อนจะจิกลงที่ลาดไหล่ยามเมื่ออีกฝ่ายดูดดึงผิวกายบริเวณซอกคอความร้อนของร่างกายค่อย ๆ บรรเทาอากาศหนาวจัดของคืนวันปีใหม่ได้เป็นอย่างดีปลายจมูกโด่งลากลงมาตามลำคอระหงและหยุดที่อกบาง
เด็กหนุ่มเซล้มลงไปนอนบนเตียงโดยมีเพื่อนคนสนิทล้มมาคร่อมทับเจลหล่อลื่นที่เตรียมมาถูกเปิดฝาออกและบีบชโลมที่เรียวนิ้วยาวอย่างรู้งาน
“ดูคลิปมา”
“เพื่อคืนนี้เหรอ”
“อืม” แจมินยิ้มอย่างพอใจที่อีกฝ่ายใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆอย่างการบรรเทาอาการเจ็บสำหรับครั้งแรกของพวกเขา
เจโน่สอดนิ้วเข้าไปในช่องทางของอีกฝ่ายอย่างใจเย็นก่อนจะเพิ่มจำนวนเรื่อยๆ จนคับแน่น “อื้อ”
“เจ็บไหม”
“ฉันไหว” คนด้านบนขยับนิ้วเป็นจังหวะเนิบนาบเพื่อให้อีกฝ่ายได้คุ้นชินกับสัมผัสก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นจนร่างบางบิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน
“ชอบไหม”
“อือ เร็ว ๆ” เขาขยับนิ้วถี่ก่อนจะดึงออกมาแล้วรีบสวมอุปกรณ์ป้องกันแล้วสอดสวนเข้าไปในทันที
“ของนายต่างหากที่แน่น”
พวกเขาค้างไว้อยู่แบบนั้นครู่หนึ่งจนเจโน่มั่นใจแล้วว่าแจมินพร้อมเขาจึงเริ่มขยับส่วนล่างต่อทันทีแท่งเอ็นที่แข็งชันอยู่ตรงหน้าก็ไม่ปล่อยให้ว่างเจโน่รูดรั้งมันขึ้นลงด้วยฝ่ามือพร้อมกับขยับสะโพกไปด้วย ส่งผลให้แจมินบิดเร่าร่างกายและครวญครางอย่างสุขสม
ฝ่ามือเล็กยกขึ้นมิดปากของตัวเองไว้เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองจะเสียงดังเกินไปแล้วส่วนมืออีกข้างก็หมุนวนที่ยอดอกของตนเองและนั่นยิ่งทำให้คนที่มองอยู่เร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วบริเวณซึ่งผนังห้องก็ไม่ได้หนามากเท่าไหร่พวกเขาจึงได้ยินเสียงของห้องข้างๆ เช่นกันบทรักเริ่มร้อนแรงขึ้นเมื่อเจโน่จับแจมินพลิกตัวให้คว่ำหน้าลงกับเตียงโดยที่ส่วนล่างยังคงเชื่อมติดกัน
เสียงครางหวานดังสลับกับเสียงครางต่ำในลำคอและไม่วายถูกกลบด้วยเสียงเนื้อกระทบกันซึ่งดังสนั่นกลบห้องอื่นๆ เขาเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้นโดยจับเอวบางเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้างส่วนกลางลำตัวของคนด้านล่างก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าตัวที่จะปรนเปรอตัวเองให้เสียวซ่านไปพร้อมๆ กัน
เมื่อใกล้ถึงจุดหมายพวกเขาก็ขยับสะโพกและมือเป็นจังหวะที่สอดคล้องกันจนกระทั่งทุกอย่างเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดหัวสมองขาวโพลนพร้อมกับร่างกายที่กระตุกเกร็ง เสียงพลุที่ถูกจุดขึ้นบนท้องฟ้าดังเป็นจังหวะเดียวกับที่สายธารพุ่งออกมาของทั้งคู่ร่างหนาโน้มกายเข้าไปจูบซับเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นตามกรอบหน้าอย่างรักใคร่เขาโอบกอดร่างคนตัวบางเอาไว้แน่นจูบย้ำซ้ำ ๆ ที่แก้มเนียนใสพร้อมกับพร่ำบอกคำหวานด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“รักนะ รักคนเดียว ปีใหม่นี้ก็ขอให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะอย่าเจ็บอีกเพราะนายเจ็บทีไรฉันเหมือนจะตายทุกที”
“เวอร์”
“ไม่ได้เวอร์สักหน่อยไปล้างตัวไหมหรือจะนอนก่อน”
“ขอนอนต่อก่อนได้ไหมแล้วค่อยไปล้างตัว”
“อื้ม”
เราลืมไปเลยว่าต้องมีฟิคสุขสันต์วันปีใหม่เอาเป็นว่าย้อนหลังแล้วกันนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in