………..
เช้าวันรุ่งขึ้น...
แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องนอนของพิชชา แสงแดดอ่อนๆ ส่องกระทบเปลือกตาเธอที่กำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างสบายกาย เธอขยี้ตาและลุกขึ้นมานั่งบิดตัวไปมา แล้วพิชชายกเท้าลงจากเตียงพลางยกมือสองข้างขึ้นเกล้าผมสูงก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป
…
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป…
เสร็จจากการอาบน้ำก็ออกมาประทินโฉม โบ๊ะหน้าอ่อนๆ สางผมให้เรียบร้อย ก่อนเลือกหาเสื้อตัวสวยกับกางเกงขายาวมาสวมใส่ เดินมาที่กระจกบานใหญ่และสำรวจดูความเรีียบร้อย แล้วจึงหยิบกระเป๋าเหวี่ยงพาดบ่า ก่อนเดินจ้วงๆ ออกไป
พิชชาเดินลงบันไดมาก็เจอสมพรกับจิ๋วกำลังทำความสะอาดอยู่ เลยเดินเข้ามาถามสมพร
“ป้าพรค่ะ…คุณพ่ออยู่ไหนเหรอคะ”
“คุณท่านมีงานด่วนเลยต้องกลับไร่ค่ะ...คุณผู้หญิงกับคุณหนูๆ ก็กลับไปพร้อมกันค่ะ”
“อืม ! ถ้างั้นขอตัวก่อนนะคะ”
สมพรพยักหน้าและยิ้มให้พิชชา แล้วเธอก็เดินมุ่งหน้าไปที่โรงรถเพื่อไปห้องเสื้อของเธอ
…
ห้องเสื้อพิชชา…
พิชชาจอดรถตรงข้างร้าน ดับเครื่องยนต์และปลดเข็มขัดนิรภัยออก เอื้อมมือหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเปิดประตูก้าวลงจากรถ ผลักปิดพลางกดรีโมตล็อครถ เดินฉับๆ บนส้นสูงสามนิ้วมุ่งหน้าเข้าไปเปิดประตูห้องเสื้อ จึงได้พบกับทิวากรที่นั่งรออยู่ข้างในร้าน
“คุณรอฉันนานรึเปล่าค่ะ”
“ไม่นานครับ”
“งั้นเรามาวัดตัวกันเลยดีกว่าค่ะ”
พิชชาจูงมือทิวากรเดินเข้ามาในห้องลองเสื้อและเธอเรียกมอลลี่กับเอบีเข้ามา แล้วจัดการวัดตัวทิวากรทันที มอลลี่เป็นคนวัดตัวและเอบีก็จดทุกสัดส่วนอย่างละเอียดถี่ถ้วน
“เรียบร้อยแล้วค่ะ…คุณน้อง”
“ขอบคุณนะครับ…พี่มอลลี่ พี่เอบี”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
มอลลี่กับเอบีก็ขอตัวไปทำงานต่อ ปล่อยให้ทั้งสองคนกระหนุงกระหนิงกัน ทิวากรเดินเข้าไปหาพิชชาและจับมือทั้งสองข้างของเธอ กดจมูกลงบนผิวแก้ม สองมือยกโอบเอวอ้อนแอ้นแล้วใช้แรงตวัดร่างเธอเข้ามาแนบชิด
“ผมจะรอนะครับ”
ทิวากรค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ เธอและกำลังจะจูบ แต่ทันใดนั้นใบเฟิร์นก็เดินพรวดพราดเข้ามา พิชชารีบออกห่างจากทิวากรแล้วหันหน้าไปถาม
“มีอะไรเหรอคะ”
“มีลูกค้าต้องการพบน้องพิ้งค์...ตอนนี้รออยู่ในห้องรับแขกค่ะ”
“เดี๋ยวพิ้งค์ตามไปนะคะ”
ใบเฟิร์นพยักหน้ารับทราบแล้วเดินออกไป หลังจากนั้นทิวากรหันหน้ามองพิชชา
“ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ค่ะ…บ๊ายบาย”
ทิวากรโบกมือบ๊ายบายและเดินออกไป
…
พิชชาเดินเข้ามาในห้องรับแขก เห็นมอลลี่ยืนถือสมุดบันทึกกับปากกาพร้อมที่จะจดงาน พอเข้าไปนั่งลงบนโซฟามอลลี่ก็แนะนำผู้หญิงทั้งสองคนให้พิชชารู้จัก
คนที่นั่งทางด้านซ้ายคือ คุณหญิงดวงมณี เป็นเจ้าของร้านเพชร&จิวเวลรี่และส่วนทางด้านขวาคือ คุณหญิงโสภิษนภาเป็นหุ้นส่วนกับคุณหญิงดวงมณีและผู้ถือหุ้นใน โรงแรมSkyhigh อีกด้วย พิชชายกมือไหว้ทำความเคารพคุณหญิงทั้งสองคน
“สวัสดีค่ะคุณหญิงดวงมณี สวัสดีค่ะคุณหญิงโสภิษนภา ทางห้องเสื้อของเรายินดีให้บริการค่ะ”
“ฉันฟังเรื่องของคุณมาเยอะมาก…ก็เลยอยากได้คุณมาร่วมงานของเรา”
“ใช่ค่ะ...แล้วฉันประทับใจผลงานของคุณในงานประมูลเครื่องเพชรของมาดามคริสต้าเลยอยากได้คุณมาร่วมงานด้วย”
คุณหญิงดวงมณีและคุณหญิงโสภิษนภาพูดชื่นชมในผลงานของพิชชากันใหญ่จนเธอเริ่มเขิน
“ขอบคุณนะคะ...แต่ถ้าไม่มีผู้ช่วยที่ดี ฉันก็คงทำผลงานออกมาได้ไม่ดีขนาดนี้หรอกค่ะ”
พิชชาหันข้างมามองมอลลี่แล้วยิ้มให้กับเขาก่อนที่จะหันกลับไปพูดคุยกับคุณหญิงทั้งสองคน แล้วมาพูดรายละเอียดของงานกัน
“แล้วคุณหญิงต้องการให้ฉันทำอะไรค่ะ”
“ฉันอยากให้พวกคุณออกแบบชุดฟินาเล่ให้เข้ากับชุดเครื่องเพชร Blue Diamond งานจะจัดขึ้นที่ โรงแรมSkyhigh ในเดือนหน้า”
“ได้ค่ะ…ทางเราจะทำให้สุดความสามารถค่ะ”
พอคุยงานเสร็จคุณหญิงทั้งสองก็ขอตัวไปทำธุระอีกทีหนึ่ง พิชชาเดินไปส่งคุณหญิงที่หน้าร้าน คุณหญิงโสภิษนภาหันหลังมาพูดกับพิชชาอย่างกันเอง
“ฉันจะรอดูผลงานของคุณนะคะ”
“ยินดีค่ะ”
พิชชาโค้งรับและยิ้มให้คุณหญิงทั้งสองอย่างอ่อน้อม ก่อนพวกเขาจะเดินออกไปจากร้านของเธอ
…
พิชชาคุยงานเกือบสองชั่วโมงพอรู้ตัวอีกทีก็เที่ยงครึ่งแล้ว เธอเลยจะไปอะไรรองท้องและแวะไปหามินตราสักหน่อย
“พวกพี่ค่ะ...พิ้งค์จะออกไปหาเพื่อนข้างนอกคงจะไม่กลับมาแล้ว ฝากพวกพี่ปิดร้านเสื้อด้วยนะคะ”
ใบเฟิร์นตอบกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ได้ค่ะ”
เอบีกับมอลลี่เงยหน้ามองมาที่พิชชาแล้วอมยิ้ม เธอเลยเดินออกไปที่รถและขึ้นรถ ขับมุ่งหน้าไปที่ร้านมินตรา
…
ร้านอาหราร&เบเกอรี่&เครื่องดื่ม…
พิชชาจอดรถไว้หน้าร้านและเดินเข้าไปข้างในร้านแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าเคาน์เตอร์บาร์ เห็นมินตรากำลังยืนชงเครื่องดื่มให้ลูกค้าอยู่
“เอ้า ! พิ้งค์...จะมาทำไมไม่โทรมาบอกก่อนล่ะ”
“บอกแกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ”
“จ้ะ ! นี่แกจะสั่งอะไรไหม...เดี๋ยวฉันทำให้”
“คลับแซนด์วิชกับลาเต้ร้อน”
“ได้เลย…แกไปนั่งก่อนเดี๋ยวฉันทำให้”
พิชชามานั่งที่ประจำของเธอ ทุกครั้งที่มาร้านของมินตราต้องนั้งตรงนี้ พิชชาวางกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมบนเก้าอี้ข้างๆ เธอและนั่งพิงอย่างสบายใจ รออาหารมาเสิร์ฟ
ผ่านไปสามนาที…
มินตราเดินยกอาหารมาวางไว้บนโต๊ะกลมที่พิชชานั่งอยู่ แล้วพอวางอาหารครบ มินตราก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกับพิชชาและพูดคุยกันตามประสาเพื่อนสาว
“เมื่อวานนี้ มีพนักงานบอกว่าแกมาหาฉัน…มีอะไรหรือเปล่า”
“เผอิญว่าบีน่ามาหาฉันที่ร้านและชวนพวกเราไปทานอาหารด้วยกันน่ะ”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง…ฉันคิดว่าแกคิดถึงฉันซะอีก” มินตรานั่งกอดอกและถอนหายใจ “แกไปเถอะ”
“ทำไมล่ะ”
“พิ้งค์ ! ฉันรู้ว่าพวกเราเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่ฉันรับไม่ได้ที่ต้องคบกับยัยนั่น แกรู้ไหม…ที่ยัยบีน่ากลับมาไทย ไม่ใช่ว่าหมดสัญญาแต่โดนทางโมเดลลิ่งปลดออก เพราะไปเล่นชู้กับผู้ว่าจ้าง ที่สำคัญคนๆ นั้นมีภรรยาอยู่แล้ว”
“…..” พิชชาเงียบกริบและครุ่นคิดเรื่องที่มินตราบอก
“ฉันไม่โกรธแกหรอกนะ ที่จะคบกับยัยบีน่า…แต่ฉันขอเตือนแกในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง แกควรอยู่ให้ห่างจากยัยนั่นซะ”
พิชชานั่งมองหน้ามินตราที่นั่งกอดอกและเบือนหน้าหนี ทำให้เธอรู้สึกผิดกับเพื่อนรัก
…
พิชชากำลังขับรถเข้ามาจอดที่โรงรถ ตอนนี้เธอจอดรถแล้วแต่ยังไม่ลงมาจากรถ ปลดเข็มขัดนิรภัยออกและนั่งเท้าข้อศอกเอาไว้กับประตูรถแล้วกุมขมับ นึกถึงคำพูดของมินตราที่บอกกับเธอเรื่องซาบีน่า
พอเธอนั่งคิดไปคิดมาอยู่บนรถ ในระหว่างนั้นจิ๋วเดินมาดูและเคาะกระจกรถเบาๆ เรียกพิชชาที่นั่งอยู่บนรถ
“คุณพิ้งค์ค่ะ”
พิชชาสะดุ้งและหันมามองข้างกระจกรถก็เห็นจิ๋วยืนอยู่ เธอเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสะพายก่อนจะก้าวลงจากรถ สั่งจิ๋วหยิบกระเป๋าเอกสารจากหลังรถไปไว้ที่ห้องทำงานด้วย เธอเดินเข้าบ้านตรงขึ้นไปบนห้องนอน พอเข้าไปก็โยนกระเป๋าสะพายไว้บนเตียงและจึงล้มตัวลงนอนแผ่บนเตียงนุ่มๆ พอหัวถึงหมอนเธอก็เผลอหลับไป
……….
นิยายเรื่องนี้สร้างเพื่อความบันเทิง ตัวละคร พฤติกรรมและเหตุการณ์ในนิยาย เป็นเหตุการณ์สมมุติ
ปล. นักเขียนอาจจะเขียนผิดหรือเขียนไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ......แล้วถ้าจะให้มีอรรถรสมากขึ้นก็ต้องอ่านและใช้จินตนาการไปด้วยนะคะคุณผู้อ่าน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in