เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เที่ยวเขมรด้วยงบเท่าไหร่ก็ได้โตแล้วอะCHOMVIEW
CAMBODIA นั้นดียังไงที่ทำให้คุณนั้นต้องอยากไป
  •     มา!! เริ่ม!!

          ตามธรรมดาที่ชีวิตมนุษย์เงินเดือน หรือมนุษย์คนอื่นๆเขาก็อยากจะออกไปเที่ยวหาประสบณ์การกันทั้งนั้น วิวก็เป็นคนนึงค่ะ ที่อยากจะออกไปพบเจอโลกใหม่ๆ อาจจะเป็นโลกใหม่ที่ใกล้หน่อย โลกนั้นเรียกว่า "โลกประเทศกัมพูชา"
        
         กัมพูชา เป็นประเทศที่ไม่เคยมีลิสอยู่ในหัวของวิวเลยซักนิด เพราะว่าเราเป็นคนไม่อินกับประวัติศาสตร์ของเขาด้วย บวกกับความไม่ได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประเทศนี้เลย ตัวเองเลยรู้สึกไม่ได้อยากไปท่องเที่ยวหรือค้นหาอยู่เเล้ว แต่ด้วยความที่มันใกล้ เดินทางง่าย งบที่พอใช้ได้ และหลากหลายประโยคบอกเล่า เลยทำให้ตัดสินใจ เอ่อ! เอาวะ ไปหน่อย เลยตัดสินใจเดินทาง

        เพื่อให้แคบลงเลยต้องหารายละเอียดเที่ยวหน่อย เพื่อนๆที่ทำงานที่จะร่วมทริปด้วยแนะนำให้ไปเสียมเรียบ หรือ เสียมราฐ เพื่อนๆหารายละเอียดกัน วางแผน วางตารางเที่ยวเรียบร้อย ตัวเราก็ได้แต่เออ ออ ตามเขาไป เพราะไม่มีความรู้หรือไม่ช่วยเขาหาอะไรเลย เลยต้องทำตามแผนที่เพื่อนๆวางไว้

        วันเดินทางคือ 28/04/2017 - 1/05/2017 
    เตรียมตัวไป คือ เสื้อผ้า กล้อง เงิน และใจ 

        เอ้า ไปไหนไปกันคุณ!!!
  • จองตั๋วง่าย จ่ายคล่อง เดินทางสะดวก นี้คือคอนเซป

        ในการไปทริปครั้งนี้ ขอยอมรับเลยว่า ไม่ได้หาพันทิป หรือว่ารีวิวอะไรเลยไปสดสุดๆ อาจจะมีมองหาโรงแรมบ้างเล็กน้อยถึงน้อยมาก แต่เพราะว่าผู้ร่วมทริปของเรา เคยไปมาเเล้ว ความไว้ใจเลยเต็ม 200%
    เขาคิดว่าอันไหนดี ก็เฮไป 

         เดี๋ยวนี้จองตั๋วรถง่ายมาก ถึงมากที่สุด โทรไปปุ๊ป จองเสร็จ โอนเงิน จบ หรือจะจองผ่านเว็ป โอนเงิน จบ หรืออีกวิธีคือไปเองที่ขายเลย จ่ายเงิน จบ โห้ยย!! ง่ายมาก ความสะดวกสบายมาเยือน จองปุ๊ปจ่ายปั๊ป ง่าย ตอนนี้ตัวครึ่งนึงนี้อยู่เขมรไปแล้ว

        โรงแรมก็ง่าย เว็ปที่คนทั้งโลกใบนี้ต้องรู้จัก Booking.com เปิดเข้าไป พิมพ์ Keyword ไม่กี่คำ จบ ตัดจากบัตรเครดิต เป็นอันจบจ่ายเงินให้เจ้าของบัตร 

        เอาจริงๆขั้นตอนพวกนี้ แทบทำให้เราไม่ต้องขยับออกจากหน้าคอมเลยด้วยซ้ำ นั้งคุยกันไปกันมา เอ้า ตอนนี้ตัวอยู่เขมรเรียบร้อยและ เคสบังคับให้ต้องไป เพราะจ่ายเงินค่าที่พัก ค่ารถไปหมดแล้ว

        การเดินทางไปขึ้นรถ อันนี้ง่ายกว่าจองตั๋วซะอีก เดินทางไปข้าวสาร เอากระเป๋าฝากบริษัทรถ เดินเล่น ถึงเวลาออกเดินทาง ประมาณ ตี1 กลับมาที่บริษัทรถ เดินตามคนนำทาง เป็นแบบทัวร์ลูกไก่ ถึงรถ นั้งเล่นนั้งคุยซักพักหลับ ตื่นอีกทีนึง ถึงตม. ที่สระแก้วแล้ว ถ้าหลอกใครว่าวาปมาได้ เขาคงจะเชื่อ ใช้เวลาถึงด้านจาก กรุงเทพ แค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

  • สามชั่วโมงผ่าน เจอซิตี้ทัวร์เข้าให้ 

          สามชั่วโมงหลังจากข้ามแดน หลับแล้วหลับอีก จนมาถึงจุกหมาย ยังไม่จบ ต้องนั้งรถไปโรงแรม แต่โรงแรมแสนดีเกินราคา มีรถมารับไปโรงแรมฟรีอีก พอถึงโรงแรม เช็คอินอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปเที่ยวซิตี้ทัวร์กัน

        ปกติแล้วที่เสียมเรียบ เขาจะใช้รถ ตุ๊กๆเดินทางกันค่ะ พวกเราได้จองรถตุ๊กๆกันไว้เเล้วจากกรุงเทพ เขาชื่อพี่ ดาราวิท เราเรียกสั้นว่า พี่เดวิท (เพื่อให้ฝรั่งเรียกง่าย) แต่เราเรียกเขาว่าพี่เดฟ (ย่อสั้นกว่าฝรั่งไปอีก) พี่เดฟ ผู้รักสีชมพู พี่เดฟคนโก้ของพวกเรา ภาษาไทยดี อังกฤษได้ นี้และจุดแข็งของคนกัมพูชา

        สิ่งที่ทำให้เกิดรักแรกพบเลย คือตึกราบ้านช่องของเค้าสวยมาก ดูทันสมัย ตกแต่งสวย และที่สำคัญ Wifi มีทุกที่ (ยกเว้นวัดเอาไว้ที่เเล้วกัน)

       พี่เดฟมารับไปกินข้าวกินปลา อาหารที่นี้เฉยๆนะไม่ได้อร่อยแตกต่างจากคนไทยเท่าไหร่ แต่ที่เป็นทีเด็ดที่วิวเองชอบคือ ข้าวสวย ข้าวสวยที่นี่อร่อย มีความเม็ดไม่เล็กไม่ใหญ่ ร่วน แต่ว่ามีความหนึบเหมือนข้าวญี่ปุ่น ถามพี่เดฟ พี่เดฟบอกว่า เป็นข้าวหอมมะลิ ทางคนไทยจึงคิดว่าน่าจะคนละสายพันธุ์กับบ้านเราอย่างแน่นอน

    เที่ยวเล่นที่แรก คือ Art gallery อันนี้ฉันเลือกเอง ( Theam's House)
       คงเป็นเพราะว่าวิวช่วยเพื่อนร่วมทริปน้อย เลยต้องหาซะหน่อย เจอที่นี่ rare item มากไม่อยากบอก
    เป็นบ้านของศิลปินที่อยู่ในเขมร เขาออกแบบให้ทางรัฐบาลมาเยอะ ตอนนี้เลยมี Art gallery เป็นของตัวเอง ชมภาพกันเถอะ บรรยายไปคงไม่เห็นภาพเท่าไหร่


    ที่ที่ 2 วัด Thmey ( Killing Field)
       เห็นคนไทยเรียกว่าวัดหัวกระโหลก มีคนจีนเข้ามายืนดูบ้างเป็นครั้งคราว พี่เดฟก็อธิบายเป็นภาษาไทย โดยใช้คำศัพท์ที่แปลกบ้าง เรียงไม่ถูกบ้าง น่ารักดี พอรุ้คร่าวๆได้ว่า จริงๆแล้ว Killing Field มันมีหลายที่นะคุณผู้ชม ที่นี่ก็เป็นอีกทีนึงเหมือนกัน พี่เดฟเล่าเรื่องประวัติเล็กน้อย เราเดินเรียนรู้กันในนั้น เดินไปไหว้พระ แล้วก็ไปที่อื่นกันต่อ (กล้องไอโฟนนะ อย่าว่ากันเลย)



    สามที่สุดท้ายอย่างรวดเร็ว Senteur D' Angkor / Sister Srey / Old market
     
          Senteur D' Angkor เหมือนศูนย์ OTOP บ้านเขานั้นเเละค่ะ มีขายของ Handmade ทุกอย่าง สบู่ ชา กาแฟ กระเป๋า เทียนหอม เรียกได้ว่าเดินทัวร์โรงงานกันไปเลย ที่นี่พี่เดฟเขาเคยทำงานมาก่อนเลยพามาซื้อของฝากจากที่นี่ ดีค่ะ ถือว่าเป็นที่ที่ดี อีกที่นึงของเสียมเรียบไปเลย


          Sister Srey ร้านนี้มีที่มาจากเพื่อนที่ไปหาในเน็ตบอกเป็นร้านที่ต้องไปนั้ง ใช่ มันต้องไปนั้งจริงๆค่ะ สำหรับคนที่ชอบกาแฟรสออกเปรี้ยว ท่านจะชอบใจแน่นอน แต่พวกกินกาแฟ แบบธรรมดาอย่างเรา พูดไปคำเดียวว่า ร้องไห้ค่ะ เพราะอาจจะไม่ถูกใจเราเท่าไหร่ แต่ว่า ตัวร้านการจัดแต่งน่ารักบรรยากาศดีมากเลยทีเดียว

          Old market ถัดออกไปจากร้าน Sister Srey  ของในตลาดสำหรับซื้อของฝากกลับบ้านกันทั้งนั้น ดูรวมๆแล้ว เหมือนของไทยเลย จะมีบ้างอย่างที่แปลกๆไปหน่อย เท่านั้นเอง เดินเลยได้ ต่อราคาได้ ถือว่าผ่าน

  • รีวิว Pub Street ทันใจ ภายใน  นาที 
         แวะมาเถอะค่ะ มาเดินเล่นหน่อย เหมือนข้าวสารบ้านเรา เบียร์ถูกค็อกเทลถูกถ้าหาร้านดีดี ฝรั่งดี ร้านนวดเยอะ แต่ไม่โดนจุดเลยกลับมานวดที่ไทยดีกว่าลองเเล้ว จบ

  • วันนี้ วันดี ไหว้พระสุขขี ร้อนนี้ตัวละลาย

            วันนี้วันดี ตื่นเช้ามาไหว้พระกันทั้งวัน อยากจะพิมพ์ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่พอลงรูปหน้านึงก็ยาวอยู่ดี -,,-
    กินข้าวเช้าที่โรมกันก่อน จากนั้น พี่เดฟก็พาเราไปส่ง ไปษณีย์ (เนื่องจากอยากส่งโปสการ์ด)  ไปทำบัตรเข้าวัด แล้วก็แวะกินน้ำอ้อยกันเล็กน้อย ก่อนออกเดินทาง จะขอบอกว่า น้ำอ้อยช่วยชีวิตได้จากความร้อน ไม่มากก็น้อย แต่เขาได้ช่วยชีวิตเราไว้ ขอบคุณน้ำอ้อย ขอบคุณจากใจ

            ส่วนค่าเข้าวัดทั้งหมด  37 $ ตรงนี้ที่ทำให้ยืนนิ่งไปพักนึง แต่เราต้องเดินต่อ (ยังขำตัวเองว่าจะตกใจกับความแพงนั้นทำไม) 



           จริงๆแล้วอยากรีวิววัดให้ยาวๆ บรรยายความสวย ความยิ่งใหญ่ทั้งหมดที่เห็น แต่เอาจริงๆแล้วทุกอย่างอยากให้ทุกคนที่ได้อ่านบทบันทึกอันนี้มาเห็นด้วยตาเปล่าจริงๆ ความยิ่งใหญ่ ความละเอียดอ่อนของงาน ประวัติต่างๆของวัด มันมีเรื่องราวให้น่าค้นหามากจริงๆ งั้นวิวจะรวมๆวัดไว้ด้วยกันแล้วกันนะคะ ลองดูลองชมรูปกันก่อนเลย
     
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเสียมเรียบ องค์เจก องค์จอม 
          สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เข้าถึงง่ายมาก เพราะตั้งอยู่โล่งๆ มองจากข้างนอกเห็นได้เลย เขาว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก แวะมาขอเรื่องความรัก เรื่องลูก คนมักจะสมหวัง

    จากนั้นเราก็ตะลอนหิ้วกระเตงกันไป 
    เรียงตามลำดับเป็น
    Ta phrom temple -- > Preah Khan temple -->
     Angkor Tom (Bayon temple) --> Angkor Wat 

    Ta phrom temple 
    วัด Tomb Raider เขานั้นเเละ ใครอยากจะเข้ามุมไปเป็นแบบ แม่ Angelina Jolie เอาเลยแวะไป แหวกว่ายทัวร์ลูกไก่เข้าไปให้จนได้ แต่เอาจริงๆ มุมอื่นๆของวัดนี้ก็สวยไม่แพ้กันเลยนะ

    มุมคุณแม่ Angelina Jolie อยู่ตรงนี้

    อันนี้คือรูปโดยรวม
       ความจริงแล้ว ความสถาปัตของเขา คล้ายๆกันหมดทุกวัดเลย ขึ้นอยู่กับความใหญ่ และความเก่าใหม่ของวัด วัดไหนสร้างก่อน-หลัง ความละเอียดอ่อนในการสร้างจะคล้ายๆกัน อย่างรูปด้านล่างที่เห็นจะรูปแรกสุดซ้ายมี จะมีพระแกะสลักซ่อนอยู่ด้านใน ถ้ามองด้วยตาเปล่าจะเป็นอะไรที่ประหลาดใจมาก งั้นเดี๋ยววิวจะซูมให้ดูนะคะ
    ซ่อนอยู่ตรงไหนลองหากันดูนะคะ
    Preah Khan temple

       วัดนี้เรียกเป็นว่าเป็น"วัดคุณพ่อ"ค่ะ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พระองค์สร้างในกับพระบิดา (แอบมีความรุ้ขึ้นมานิดนึง) พี่เดฟเรียกวัดนี้ว่าวัดคุณพ่อ

        อันนี้จะแปลกตาหน่อย เพราะจะมีความยาวมากกว่าความกว้าง วัดนี้ทอดยาวมาก สุดทางแล้วจะเป็นเหมือนจุดชมวิวที่เห็นทะเลสาปกว้างๆ สวยมากจริงๆ

    ด้านหน้าทางเข้าค่ะ
         อันนี้จะมองทอดยาวไป คือยาวมาก จริงๆ ตรงกลางเหมือนจะเป็นเจดีย์ เราสามารถถ่ายรูปแบบจับพระอาทิตย์บนเจดีย์ได้ค่ะ แต่ตอนนั้นร้อนจริงๆ อารมณ์ไม่ได้เลย คือร้อนจนตัวละลายแล้ว นี้แค่ที่ที่สองเอง 
    ทะลุออกมาก็จะเห็นทางออกแล้วค่ะ ปราสาทวัดนี้ มีน้ำล้อมรอบ เพื่อการใช้งานภายใน และป้องกันศัตรู (อันนี้เดาถูกด้วยตอนไกด์ถาม อ้างอิงมาจากกรุงรัตน์โกสินบ้านเรา) เดินตรงไปอีก(ไกล)หน่อย ก็จะเจอกับทะเลสาป

             หลังจากนั้นเปลี่ยนวัดกันค่ะ (รอบนี้ไม่ได้แวะกินข้าวกลางวันนะคะ เพราะไม่หิวเลย ร้อนจนไม่อยากกินอะไรนอกจากน้ำ ส่วนราคาอาหารที่แถวๆนั้น ก็ตามระเบียบค่ะ 7 เหรียญก็เห็นมาแล้ว // จริงๆแล้วเข้าไปนั้งเเล้วนะคะ แต่ด้วยความไม่หิว+ราคา ก็เลยเดินออกกันมา แม่ค้าเขาตามมาเลยค่ะ บอกว่าแพงเหรอ เดี๋ยวลดให้ เราปฎิเสธ เพราะว่าพวกเราไม่หิวจริงๆค่ะ)

    Angkor Tom (Bayon temple)
       วัดนี้ มีความใหญ่ยักเกินเรื่องเหมือนกันคะ ซึ่งอันนี้มีความรู้เล็กๆคือ เป็นปราสาทที่ใหม่กว่า นครวัด พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สร้างขึ้นมาใหม่ โดยรอบปราสาทมีแต่รูปแกะสลัก เป็นรูปหน้ายิ้ม (พี่เดฟบอกว่า หน้าแกะสลักนี้แทนสามอย่าง 1พระเจ้าชัยวรมันที่ 7/ 2.พระพุธท/ 3.พระพรม ซึ่งหน้ายิ้มๆ ก็มีแตกต่างกันเยอะเหมือนกันค่ะ รอยยิ้มก็แตกต่าง ความสวยของวัดนี้ คือเต็ม 10 ให้ 9 เลย คือสวยจริงๆ มันดูสมมาตรกันไปหมด ไ่ใหญ่ไป ไม่เล็กไป (ค่อนไปทางใหญ่มากด้วยซ้ำ) และที่ท่านต้องการให้รูปแกะสลักเป็นยิ้มเพราะว่า ท่านไม่ชอบเรื่องสงครามค่ะ อยากให้เป็นสถานที่ที่มีแต่ความสุข ท่านเลยแกะเป็นรูปหน้ายิ้มเกือบทั้งหมด

    มุมนี้น่าจะมองเห็นได้ทั้งหมด ซึ่งสวยมาก ตาเปล่าคือสวยมาก จากกล้องก็ยังสวย
    รูปแกะสลักภายใน 
    รูปแกะสลักหน้ายิ้ม

    และที่สุดท้ายของทริปวัดนี้ 
     -- Angkor Wat ---- 
         อันนี้คือตัวท็อปของงานนี้เลยค่ะ ถือว่าจุดเด่นของที่นี้จริงๆ และเอาจริงความสวยก็เหมาะสมเเล้วที่จะเป็นดาวเด่นที่สุดในระแวงนี้ เพราะสวยจริงๆค่ะ หลายๆคนมาเพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกดินกันนะคะ แต่เราไม่รอดูคะ รีบเดินกันใหญ่ จ้ำได้คือจ้ำเลย เพราะว่าร้อนมาก (ทีมไม่มีความอดทน ฮ่าฮ่า) 
        
        ที่นี่สร้างมากก่อน นครธมค่ะ ความใหญ่และความกว้างก็เช่นกัน คือมากจริงๆ มากจนไม่รุ้จะบรรยายยังไงหมด สวยมาก ทางเข้านี้เดินกันจนหน้าดำไปข้างนึง ผ่านสเตจหนึ่ง ไปเจอสเตจสองอีก กว่าจะได้เข้าไปชมจริงๆ ทัวร์ลูกไก่ก็ครองนครวัดไปจนหมดสิ้น 



         ด้านในพอผ่านเข้ามาเเล้วจะเจอสระน้ำก่อน อันนี้เพื่อนที่เคยมาเล่าให้ฟังว่า เป็นสระน้ำสำหรับใช้ทำพิธีต่างๆ เเละเป็นที่ที่ให้เรานั้งหลบแดดอย่างดีเลยทีเดียว

    อันนี้คือโถงทางเดินด้านข้าง จะมีพระพุทธรูปอยู่เยอะเรียงเป็นแถว
       ไฮไล้ท์ของที่นี้ต้องเป็น รูปปั้น นางอัปสรา เปือยอก ที่มีทรงผมที่แตกต่างกัน ที่นี้มีนางอัปสราเยอะมาก นับไม่ถ้วน และมีทรงผมที่แตกต่างกันจริงๆ 

    ส่วนอันนนี้เป็นวิวต่างๆที่เก็บตกมาค่ะ (ความจริงรูปในโทรศัพท์คือเยอะกว่านี้มาก)



    อันนี้เป็นรูปปราสาทที่อยู่ตรงกลางค่ะ ถ่ายย้อนแสงนิดหน่อยนะคะ

        การเที่ยววัดวันนี้ของพวกเรา เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการ รีบกลับโรงแรมเพราะร้อนมาก ขากลับแวะทาน KFC เพราะอยากรู้ความแตกต่าง เเละวิวจะอธิบายแบบ 1 นาทีให้ฟังค่ะ

    รีวิว KFC 1 นาที เริ่ม
      สูตรไก่เหมือนบ้านเราเลย ราคาพอๆกัน ข้าวอร่อยเพราะเป็นข้าวมัน และมีผักดองเป็นของแถม ส่วนสูตรพิเศษ รสชาติเหมือนข้าวคั่ว+รสดี+แม็กกี้อร่อยอีกแบบ โคลสลอจืด มันบดเหมือนบ้านเรา

    ด้านซ้ายอะ สูตรพิเศษ




  • อาหารเย็นมื้อสุดท้าย ขากลับแบบทุลัดทุเลกว่าจะถึงกรุงเทพร่างคล้ายศพ
     
       อาหารเย็นของเรามื้อนี้ ถูกและดี เป็นก๋วยเตี๋ยว แต่อยากกินข้าวด้วย เลยสั่งมาทั้งสองอย่างพร้อมกัน

          วันกลับบ้าน เรามานั้งรอที่ท่ารถกันในตอนเช้าตรู่ แต่รถทำให้เราผิดหวังนิดนึง คือ รถขามาสบายมาก หลับกันแบบลืมตื่น แต่รถขากลับ เหมือนมีคนซื้อทริปทัวร์เเล้วที่เหลือ ยัดให้เรามานั้งติดรถไปด้วย ทีมเราก็บูดแบบไม่ต้องคิดมาก แถมรถยังจอดแล้วจอดอีก กว่าจะถึงบ้าน เกือบทุ่ม ตามกำหนดการแล้วต้องถึง 6 โมงเย็น
    เข้าตม.แล้วโล่งใจ

  • สรุปส่งท้ายตามแบบฉบับรีวิว

          รายละเอียดข้างในทริปอาจจะไม่ลงเยอะมาก เพราะว่า อยากจะให้ไปสัมผัสกันเองมากกว่า จริงๆแล้ว กัมพูชามีอะไรมากกว่าที่เราเห็น เราจะมองเขาในมุมที่แปลกไปกว่าเดิม 
         จริงๆแล้ว มีเวลาน้อยก็ไปได้เพราะเดินทางสะดวก เพราะจากทริปนี้เราใช้เวลาเดินทาง เพียงแค่ 8 ชั่วโมงเท่านั้น เหมือนกรุงเทพ-เชียงใหม่เลย แต่อันนี้ได้ออกนอกประเทศอีกต่างหาก
        ภาษาก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะคนที่นั้นก็ใช้ภาษาอังกฤษกันทั้งนั้น สิ่งของส่วนมากก็จะมีภาษาอังกฤษ เมนูอาหาร เมนูนวด หรืออื่นๆ ล้วนเป็นภาษาอังกฤษ

            สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ หวังว่าทุกคนคงจะอยากไป กัมพูชากันมากขึ้นหลังจากอ่านผ่านๆบันทึกนี้ สนุกจริงๆค่ะ และทุกท่านจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆจากทริปนี้นะคะ





    ด้วยรักจากใจจริงแท้และมีความหมายเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม
    วิว

          

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in