BLOODSHOT : Rise of the Toretto - Sanook Review 2020

จากความสำเร็จของการนำการ์ตูน comic มาทำเป็นหนังอย่างค่าย Marvel และ DC จึงไม่ค่อยแปลกอะไรสักเท่าไหร่ ที่มีนายทุนคนอื่น ๆ รวมไปถึงเจ้าของค่ายการ์ตูน ที่มองเห็นถึงเม็ดเงิน และอยากนำการ์ตูนที่มี มาทำเป็นหนังบ้าง
.
ซึ่งหากย้อนไปในช่วงยุค 90-2000 การนำการ์ตูนมาทำเป็นหนังนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติมาก ๆ แถมยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จอีกด้วย ไล่มาตั้งแต่ Darkman (1990) , The Phantom (1996) , Spawn (1997) , Alien VS Predator (2004) , Sin City (2005) หรือ Constantine (2005) อะไรพวกนี้
.
นี่ขนาดยังไม่ได้รวมเอาพวกตัวการ์ตูนกระแสหลักอย่าง Superman , Batman , Spider-man ที่มีให้เห็นมาเรื่อย ๆ นะ
ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า พวกหนังที่มาจาก comic adaptation นั้น มันไม่ค่อยประสบความสำเร็จหรอก ซึ่งสาเหตหลัก ๆ ส่วนใหญ่ที่ทำให้ล้มเหลวก็คือ การที่ผู้สร้างหนัง ไม่รู้ ว่าจะหยิบจับเนื้อเรื่องส่วนไหนของการ์ตูนเรื่องนั้นมายัดลงในหนัง 1 เรื่อง (แล้วจะดี) เช่น เนื้อเรื่องกำเนิดฮีโร่ และการมาเจอกับศัตรูตัวสำคัญ การสูญเสีย แล้วก็บทสรุป จบ เป็นต้น ซึ่งพอทำออกมาแล้ว หนังเลยดูขาดน้ำหนัก ดูเป็นหนัง action ธรรมดา และได้ผลตอบรับที่ล้มเหลวไปในที่สุด
.
จนนั้นแหล่ะ เวลาได้ล่วงเลยมาสู่ยุคของ Marvel ที่มีการวางแนวทางไว้อย่างชัดเจนว่า หนังที่สร้างมาจากตัวการ์ตูนของเขา จะต้องมีการวางเนื้อเรื่อง และให้ผู้ชมค่อย ๆ ทำความรู้จักตัวละคร เข้าใจและผูกพันกับมัน โดยทุกอย่างไม่ได้ถูกยัดลงไปเพียงแค่หนังเพียง 1 เรื่อง หากแต่ว่าใช้โครงสร้างจากหนังหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวโยงกัน เป็นเวลามากกว่า 10 ปี
.
ความสำเร็จของ Marvel และ DC ทำให้ Columbia Picture ต้องการที่จะสร้างจักรวาลหนังจาก การ์ตูนกันบ้าง และนั่นทำให้หวยมาตกที่ตัวการ์ตูน Bloodshot จาก Variant Comics
.
Variant Comics เป็นสำนักพิมพ์การ์ตูน ที่ก่อตั้งโดยอดีตบรรนาธิการจาก Marvel Comic ที่ชื่อ Jim Shooter ที่ตัวสำนักพิมพ์เอง ก็มีการถูกซื้อลิขสิทธิ์ของตัวการ์ตูน เพื่อนำไปสร้างเป็นหนังหลายตัวอยู่เหมือนกัน เช่น Harbinger (Paramount ซื้อไปแล้ว) และ Faith Herbert (Sony ซื้อไปแล้ว) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องแรกที่ทำออกมาให้ดู ก็คือ Bloodshot จาก Sony Pictures นั่นเอง
.
เรื่องราวของ Bloodshot ได้เล่าถึง Ray (Vin Diesel) ได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลัง นาไนท์ ที่สามารถช่วยสมานแผลให้กับเขาได้ แถมยังมาพร้อมพลังเหนือคนโดยองค์กร RST ด้วยการนำของนักวิทยาศาสตร์ผู้ปราดเปรื่อง (แสดงโดย Guy Pierce) ที่ ๆ เขาได้รวบรวมเหล่านักรบผู้สูญเสียอวัยวะจากสงคราม มาอัพเกรดให้แข็งแกร่งขึ้น
.
แต่แน่นอนว่า สิ่งหนึ่งที่ยั่งติดตัว Ray มาด้วย นั่นก็คือความทรงจำของเขา ที่ยังคงเห็นคนรักของถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา พร้อมกับใบหน้าของฆาตกร
ทำให้เขาตัดสินใจ ที่จะออกตามล่าคนที่พรากคนรักของเขาไป และทำทุกอย่างเพื่อล้างแค้นให้กับเธอ
.
ตัวหนังมีการใช้ภาพที่ดูแล้วสามารถบอกได้ว่าอิงมาจาก comic ไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็คชั่นที่ทุกอย่างเป็นสีแดงแบบ red scale รวมไปถึงตัวละคร และการต่อสู้ต่าง ๆ ซึ่งถือว่าหนังทำได้ดีเลย ในการถ่ายทอดภาพต่าง ๆ ออกมา รวมไปถึงความล้ำของ CG ด้วย
.
การดำเนินเรื่องของหนัง จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ก็ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นจนถึงขนาดรู้สึก ว้าว ! กับสิ่งที่เกิดขึ้น
หนังได้ใช้เวลาในการปูเนื้อเรื่องพอสมควร ซึ่งก็ไม่ได้มีความซับซ้อน หรือ ดึงคนดูให้อินกับตัวละครมากมายอะไร แถมเอาเข้าจริง แก่นของเนื้อเรื่องของหนัง ยังมีเพียงนิดเดียว ซึ่งสุดท้ายแล้ว หนังก็มาถึงจุดไคลแม็กซ์ ที่ไม่มีอะไรเกินความคาดเดามากไปกว่านั้น แต่ก็ถือว่าไม่แย่หรอก หากมองว่านี่คืองานที่ Vin Diesel ตั้งใจมาก ๆ ที่จะสร้างตัวละครใหม่ที่สามารถต่อยอดได้ยาว ๆ กับนี่คืองานกำกับแรกของตัว ผู้กำกับ Dave Wilson ที่งานเก่า ๆ อยู่ฝ่าย CG ของ VDO Games เสียด้วยซ้ำ ทำให้ Bloodshot จึงถือเป็นภาพยนตร์ action mี่ภาพสวย และเนื้อเรื่องดำเนินได้เป็นทิศทางที่ถูกต้อง แล้วมีความหวังที่จะต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
.
ปล.หนังไม่มี End Credit นะ ... ถ้าไม่อยากดูรายชื่อทีมผู้สร้าง ก็สามารถเดินออกมาได้เลย
.
.
.
.
.
Ad : Cat on a crossroad x โคนิญโญ่

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น