อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าคนโสดและความเหงานั้นเป็นของคู่กัน แต่ถ้ามองดีๆความเหงาก็สามารถแบ่งย่อยได้หลายรูปแบบ อาจจะเหงาเพราะสถานการณ์รอบข้างพาไป เหงาเพราะคิดถึงอดีตที่หอมหวานเหงาเพราะไม่มีคนอยู่ข้างๆในวันที่ต้องการใครสักคน หรือเหงาเพราะกระแสความเหงากำลังมา(มีด้วยหรอ) แต่ขอจบประเด็นความเหงาไว้เพียงเท่านี้ก่อน

มาถึงเรื่องคนโสดกันบ้าง คนโสดก็มีหลายประเภทอีกเหมือนกัน ที่ยังโสดอาจจะเป็นเพราะไม่มีใครเอา โสดเพราะไม่อยากเปิดรับใครเข้ามา หรือที่น่าสงสารที่สุดคือโสดเพราะอดีตที่เลวร้ายสร้างบาดแผลไว้ลึกจนเกินเยียวยา แต่ทุกคนก็เลือกที่จะโสด เพราะความโสดไม่ได้สร้างภาระให้ใคร มันก็แค่สร้างความเหงาให้ไม่น้อยก็เท่านั้นเอง

สิ่งที่ทำให้ฉันต้องมานั่งพิมพ์เรื่องนี้เกิดจากการที่ฉันเพิ่งได้อ่าน "Giraffe" - นิตยสารรายสองสัปดาห์ของสำนักพิมพ์แซลมอนที่เล่าถึงความเหงาไว้หลายแง่มุม พอได้เปิดอ่านก็ไม่วายให้ต้องมานั่งพิมพ์เรื่องนี้พร้อมกับการเรียบเรียงความคิดในหัวของตัวเองไปด้วย issue 31 นี้กล่าวถึงความเหงาไว้พอให้คนโสดขี้เหงารับรู้ถึงความเหงาของตนเองได้ในระดับนึง

1.

"เราไม่ได้อยู่คนเดียว อยู่คนเดียว" ชื่อเรื่องแรกของส่วน core เป็นชื่อเดียวกับหนังสือของนักเขียนผู้ซึ่งเขียนถึงความเหงาได้อบอุ่นที่สุดอย่าง jirabell อ่านไปอ่านมาก็รู้ว่า เออจริง เราไม่ได้อยู่คนเดียวอยู่คนเดียวจริงๆนะ แต่อะไรคือเหตุผลที่ทำให้หลายคนอยากอยู่คนเดียวละ หลายคนก็หลายเหตุผลเพราะแต่ละคนมีอดีตที่ผ่านมาต่างกัน สิ่งเดียวที่เราทุกคนมีร่วมกันคือความเหงาที่แทรกซึมผ่านทุกอณูของอากาศเข้ามาสัมผัสหัวใจที่เหี่ยวแห้งของเรานั่นเอง คนโสดกับความเหงาจึงเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน

2.

"การอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลก"

ไม่แปลก-ในประเทศอื่น แต่ทำไมต้องมาแปลกในประเทศของเรา ด้วยความที่บ้านเมืองเราเป็นสังคมเกษตรกรรมที่ทุกคนต่างต้องพึ่งพาอาศัยกัน การอยู่คนเดียวจึงมองดูว่าแปลก สังเกตง่ายๆจากสเตตัส     ทวิตเตอร์ หรือโซเชี่ยลต่างๆที่บอกได้ชัดเจน จนทำให้สังคมสร้างกรอบความคิดแปลกๆให้คนสมัยนี้อยู่คนเดียวไม่ค่อยเป็น แต่โลกนี้มีคนอยู่สองประเภทคือคนที่อยู่คนเดียวไม่เป็นและคนที่เลือกที่จะอยู่           คนเดียว

ฉันว่าคนประเภทหลังนี้ช่างเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญยิ่งนัก

3.

การอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป– เพราะปัจจุบันมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คนเราเลือกและเต็มใจที่จะอยู่คนเดียวมากกว่า เราเลือกที่จะนั่งกินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ไปไหนมาไหนคนเดียวทุกอย่างดูมีอิสระ อยากทำอะไรก็ทำได้โดยไม่ต้องรอการตัดสินใจของใครนอกจากตัวเราเอง และนอกจากนี้ก็ทำให้เราเข้าใจความคิดตัวเองมากขึ้นด้วย

" เพราะคนโสดและความเหงาเป็นของคู่กัน แต่ความเหงาก็ไม่เคยทำร้ายใคร และการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ขอแค่ลองมองมันเป็นเหมือนเพื่อนอีกคนที่พร้อมเดินไปกับเราตลอดเส้นทางที่ยังเหลือ แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว "