เป็นหนังภาพยนตร์แนว horror filme เรื่องราวของผู้บริหารหนุ่มที่ถูกส่งตัวไปตามซีอีโอของบริษัทกลับจาก “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ” ที่ดูสวยงามแต่ลึกลับ ในสถานที่ไกลห่างอย่างเทือกเขาสวิสแอลป์ กระทั่งเกิดอุบัติเหตุทำให้เขาต้องอยู่พักฟื้นร่างกายที่นี่ด้วยเช่นกัน ระหว่างนั้นเขาก็พยายามเกลี้ยกล่องซีอีโอคนนี้กลับบริษัท ทว่าเรื่องราวที่ไม่ชอบมาพากลในศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพแห่งนี้กลับทำให้เขารู้สึกสงสัยใคร่รู้มากขึ้น และนั่นนำมาซึ่งอันตรายที่เขาคาดไม่ถึง จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คงหนีจะไม่พ้นการนำเสนองานด้านภาพไว้ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยความที่ภาพยนตร์เป็นภาพยนตร์แนวลึกลับระทึกขวัญด้วยแล้ว การเดินเรื่องภาพยนตร์ด้วยถ่ายให้เห็นฉากต่าง ๆ ที่ชวนให้รู้สึกแปลกตา ดูขนลุก และดูน่าลึกลับ ได้ส่งอารมณ์ความตื่นเต้นตั้งแต่ฉากแรกของภาพยนตร์เลยทีเดียว ขณะเดียวกันหลายฉากที่พระเอกเดินไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพแห่งนี้ ความเงียบที่มีเพียงเสียงของลั่นของไม้ค้ำยันก็ทำให้ได้อารมณ์ และสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายจากเกมระทึกขวัญอย่าง Outlast ได้หอมปากหอมคอ จากตัวอย่างหรือคลิปที่ปล่อยออกมาให้ชมก่อนหน้าที่ภาพยนตร์จะเข้าฉาย ก็ทำให้เชื่อได้ว่าในตัวภาพยนตร์จะได้เห็นฉากระทึกขวัญชวนเสียวสันหลังวาบแน่ ๆ ซึ่งในภาพยนตร์จริง ๆ นั้นฉากที่ชวนหวาดเสียวหรือชวนคลื่นเหียนนั้นกลับมีน้อยกว่าที่คิด แต่ถึงกระนั้นสำหรับคนที่ไม่ชอบฉากในลักษณะนี้อาจจะต้องมีเอามือมาปิดหน้าปิดตากันบ้าง โดยเฉพาะคนที่กลัวปลาไหลด้วยแล้วนั้น…ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะสร้างความขนพองสยองเกล้าได้มากกว่าผู้ที่ไม่กลัวปลาไหลอย่างแน่นอน นักแสดงคนสำคัญของเรื่องอย่าง เดน เดอฮาน เป็นตัวละครสำคัญที่เป็นเสาหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ และทำหน้าที่ออกมาได้เป็นอย่างดี ในหลาย ๆ ฉากสามารถสร้างอารมณ์และความกดดันได้อย่างเป็นธรรมชาติ ขณะเดียวกันนักแสดงสาว มีอา ก็อธ (Mia Goth) รับบทเป็น ฮันนาห์ สาวปริศนาที่มีบทบาทในเรื่องพอสมควร ด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูไม่ปกติเท่าไรนั้นสามารถสร้างความตื่นตระหนกและชวนหลอนได้เป็นอย่างดีเช่นกัน หากพูดในแง่นักแสดงแล้วถือว่าเข้าคู่กันได้อย่างลงตัว ความที่ภาพยนตร์มีความยาวประมาณสองชั่วโมงครึ่ง ซึ่งนั่นอาจจะกลายเป็นข้อเสียสำคัญสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยส่วนตัวมองว่าภาพยนตร์ระทึกขวัญอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องมีเรื่องราวซับซ้อนหรือเล่ายาวนานจนเกินไป หากมองเป็นสัดส่วนแล้วน่าจะเน้นความลุ้นระทึกมากกว่าการเล่าเรื่อง แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับเน้นไปที่เนื้อเรื่องมากกว่า จึงลดสัดส่วนความระทึกขวัญลงไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนตัวมองว่าการที่ภาพยนตร์ปูให้เห็นถึงความลึกลับซับซ้อนชวนขนลุกของศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพแห่งนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว น่าจะเล่นกับความน่ากลัวในสถานที่แห่งนี้ได้มากกว่านี้