เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Other Universeheymistermean
Story : Forget me not
  • Winter 

    Somewhere in atlanta

    ' The hardest thing for me is to say good bye to you because I don’t wanna be separated from you. So can I say be right back instead?

    I will come home soon. '

    ลมหนาวโชยมาแล้ว..

    [ 'รายชื่อทหารประจำกองทัพที่ศูนย์หายในการปฏิบัติหน้าที่' ]

    [ 'อาคิราห์ เมอร์ฟี' ]

    เกล็ดหิมะสีขาวร่วงโรยลงมาจากท้องฟ้า อากาศเย็นลงจนมีไอควันจากริมฝีปากเมื่อพ่นลมหายใจอุ่นๆออกมา

    บรรยากาศสีขาวหม่นที่ยาวนานของมีน

    เทศกาลคริสต์มาสต์เป็นเทศกาลหรรษา การกินเลี้ยงและสังสรรค์ แสงสีจากต้นสนต้นใหญ่ใจกลางเมืองถูกประดับประดาด้วยของตกแต่งที่เหมาะกับเทศกาลที่กำลังเข้ามาถึง

    แต่มีนกลับรู้สึกว่าบรรยากาศตอนนี้มันแห้งเหี่ยว ไม่มีสีสัน และดูจืดชืดเหมือนต้นไม้ที่ขาดน้ำ

    เหมือนกับเขาตอนนี้

    เสียงของโทรทัศน์ดูเบาลงในทันที คล้ายหูดับ มีนนั่งอยู่ที่เดิม ใบหน้าเรียบนิ่ง สิ่งที่เขาได้ยินเมื่อครู่ทำลายโลกของเขาลงในพริบตา ไม่มีเสียงสะอื้น ไม่มีแม้แต่เสียงพูด มีเพียงแค่เสียงของไฟที่โหมกับไม้แห้งในเตาผิงดังขึ้นมาแทรกความคิดที่ยุ่งเหยิงของคนตัวเล็ก



    'ไว้เจอกันนะครับ'

    'ต้องกลับมานะ'

    'ผมให้คำสัญญาเลย'

    'ถ้าไม่กลับมาผมโกรธจริงๆด้วย'



    คำพูดของคนรักที่ก้องอยู่ในหัว วนเหมือนกับเปิดเครื่องเล่นเสียงซ้ำๆ

    มีนไม่ได้ร้องไห้ แต่มันไม่ได้แปลว่าเขาไม่เจ็บปวดกับเรื่องที่ได้เจอ

    มีนฝืนยิ้ม สู้แข่งกับหัวใจที่บอบช้ำ ไม่คิดโทษคนรักหรือใครทั้งนั้น ไม่แม้แต่จะคิดโทษพระเจ้าที่พรากคนรักของเขาไป

    ภายใต้ความเจ็บปวดยังมีความหวังเล็กๆที่น้อยนิด มีนเชื่อว่าอีกคนไม่ได้หายไป เขายังอยู่

    อยู่ตรงข้างในใจของเขา

    แม้ความคิดนั่น จะทำให้เจ็บเจียนตายก็ตาม




    2 year
    Winter Chrismas has been coming


    กลิ่นดอก Forget me notโชยคลุ้งมา มันช่างหอมล้ำชวนฝัน กลิ่นของมันทำให้หวนนึกย้อนไปเมื่อคืนวันเก่าๆ กลีบดอกที่แสนเปราะบางทำให้คิดถึงช่วงเวลาที่เคยมีคุณอยู่เคียงข้างกาย

    ฝ่ามือบางๆที่คอยโอบอุ้มดูแลดอกไม้เหล่านั้น คือมือคู่เดียวที่คอยดูแลผมเช่นกัน ยังคงจำสัมผัสแสนนุ่มนวลจากมือคู่นั้นได้เป็นอย่างดี ไม่เคยลืมเลือน ปลายนิ้วของคุณมักเย็นอยู่เล็กน้อย เนื่องจากสุขภาพของคุณนั้นอ่อนแอจนผมมักเป็นห่วงคุณบ่อยๆ

    ผมชอบกอบกุมมือของคุณเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นยามไหน มันทั้งนิ่ม ทั้งอบอุ่นในคราวเดียวกัน

    หากผมลืมทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจแน่ๆ ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามผมก็จะไม่มีวันลืม สัมผัสของคุณเด็ดขาด

    ทุกสัมผัส ทุกการกระทำ มันตราตรึงหัวใจของผมอยู่เสมอ

    'พรึ่บ'

    มือคู่ขาว ๆ ของคุณสอดลอดใต้วงแขนของผมขึ้นมา สายตาของคุณก็เอาแต่จ้องมองที่กระจกบานเท่าตัวคนตรงหน้าผม

    ริมฝีปากบางซีด ๆ เม้มเข้าหากันเหมือนเวลาที่คุณกำลังมีสมาธิกับอะไรสักอย่าง

    ชักจะไม่ชอบใจแล้วสิ คุณสนใจอย่างอื่นมากกว่าผมเสียอีก

    “ ขอโทษที่รบกวนคุณอยู่เรื่อยนะแต่ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ถูกโรคกับเนคไทอยู่ดี”

    ในตอนที่คุณละมือออกไปผมก็กลับหันหลังไปกล่าวขอโทษคุณ

    แต่คุณก็ยังคงน่ารักเหมือนเดิมนอกจากจะไม่ต่อว่าผมแล้วคุณยังมอบรอยยิ้มให้ผมเสียอีก

    ยิ้มที่เป็นยิ้มในเชิงขำขันเสียด้วยตาคู่สวยของคุณเรียวลงจากการยิ้มอันที่จริงตอนแรกผมก็หงุดหงิดนะแต่เพราะคุณยิ้มได้ ผมเลยโอเค

    แต่แล้วสัมผัสเย็น ๆ ที่ข้าง ๆ แก้มกลับทำให้ผมยิ้มได้ คุณน่ะชอบเอามือมาลูบแก้มผมนี่เนอะ

    น่ารักที่หนึ่งเลย

    ....


    “ผมว่าน่าจะโอเคแล้วนะ”

    ผมว่าหลังจากที่ลองเขย่าประตูบ้าน หลังจากล็อกแล้วแต่คุณกลับเล่นซนกระโดดลงบันได มีบางจังหวะที่คุณทำท่าคล้ายกลับจะลื่นหิมะที่จับตัวกันเป็นน้ำแข็งที่ขอบบันไดทำเอาผมใจหายใจคว่ำไปหมด 

    จนสุดท้ายแล้วผมก็ต้องคว้ามือของคุณมากุมไว้คอยดูแลไม่ให้คุณเล่นซนอีก

    คุณเบะปากเล็กน้อยอย่างไม่พอใจ

    “ ไม่เอาอย่าดื้อสิครับ เดี๋ยวผมพาไปซื้อดอกไม้นะ”

    เท่านั้นแหละ คุณก็ยิ้มออกมาอย่างสดใสสดใสเสียยิ่งกว่าพระอาทิตย์ในยามเช้าเสียอีก

    ผมเดินจูงมือคุณมาร้านขายดอกไม้ร้านประจำ

    "คุณชอบฟอร์เก็ทมีย์น็อตนี่ ปีนี้อยากได้หรือเปล่าครับ"

    ผมถามคุณ แต่ไม่ได้หันไปมองคุณหรอกนะเพราะผมกำลังสาละวนอยู่กับการหาดอกไม้สวย ๆ ที่จะให้คุณ

    แต่แรงกระตุกที่เสื้อโค้ททำให้ผมหันกลับไปมองคุณ

    คุณยิ้มอีกแล้วยิ้มแบบที่ผมชอบ แถมทำมันไปพร้อม ๆ กับพยักหน้าหงิกๆไปด้วย

    ใจผมเต้นแรงจนจะพังอยู่แล้ว

    ในขณะที่ผมกำลังจะหันไปสั่งดอกไม้ที่คุณชอบนั้นผมกลับถูกดึงดูดความสนใจจากเจ้าดอกลิลลี่สีขาวสวยใกล้เคาน์เตอร์คิดเงินทำให้ผมนึกถึงช่วงเวลาที่ผมพบคุณครั้งแรกขึ้นมาเอาละผมตัดสินใจได้แล้ว

    ปีนี้ ผมจะไม่ตามใจคุณหรอกเพราะผมมีดอกไม้ที่อยากซื้อให้คุณอยู่

    "ไม่ครับ ปีนี้ผมจะเลือกดอกไม้ให้คุณเอง"

    มีนทำหน้ามุ่ยอย่างคนถูกขัดใจใส่ผมก่อนจะก้าวเดินฉับ ๆ แบบไม่รอใครออกจากร้านไปทำให้ผมต้องรีบจ่ายเงินรีบรับช่อดอกไม้ที่สั่งเอาไว้มาแล้วรีบก้าวเดินให้ทันคุณ

    แต่สุดท้ายแล้วคุณก็เดินทอดน่องรอผมอยู่ดีถึงจะแสนงอนอย่างไรก็น่ารักที่หนึ่งเลย

    เราสองคนกลับมาจับมือกันอีกครั้งในตอนที่ผมก้าวขึ้นบันไดตรงตีนเขา บันไดสูงเรื่อยไปจนสุดสายตา

    นั่นเป็นสิ่งที่ผมเกลียดมาก แต่คุณกลับชอบเพราะว่าคุณน่ะชอบที่จะก้าวมันขึ้นไปพร้อม ๆ กับนับตัวเลขไปด้วย

    โอเคถ้าคุณชอบ

    ผมก็ชอบมันเหมือนกัน

    “ อากาศบนเขายังดีเหมือนเดิมเลยนะ"

    ผมพูดขึ้นหลังจากที่ถึงยอดเขาแล้วบิดตัวไปไล่ความเมื่อยล้ามองคุณที่พยักหน้ารับก่อนจะทำท่าสูดอากาศเข้าไปเฮือกใหญ่นั่น ทำให้ผมส่ายหัวไปยิ้มไปด้วย

    ผมเดินนำคุณออกมาก่อนปล่อยให้คนชอบอากาศบริสุทธิ์ได้ดื่มต่ำกับธรรมชาติไป

    ก่อนใช้สายตาควานหาสิ่งที่คุ้นเคยก่อนจะเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยหลังจากเจอสิ่งที่ต้องการผมวางช่อดอกลิลลี่สีขาวบริสุทธิ์ลงบนพื้นหญ้าที่ดูก็รู้ว่าได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี

    ย่อตัวลงนั่งยอง ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบแท่งหินอ่อนสลักสีขาวสวยเบาๆอย่างทะนุถนอม

    THANAKORN PATTHANANWORRAKUL

    REST IN PEACE

    สัมผัสเปียกชื้นที่ข้างแก้มทำให้ผมรู้สึกตัวน้ำตาของผมไหลอีกแล้ว

    น่าตลกทั้ง ๆ ที่สัญญากับคุณไว้แล้วแท้ ๆ ว่าจะไม่ร้องอีกแต่ก็ไม่เคยรักษาสัญญาข้อนี้ได้เลย

    สองปีที่ไม่มีคุณน่ะมันช่างทรมาณเหลือเกินแม้แต่หายใจในครั้งต่อ ๆ ไปก็ยากเสียยิ่งกว่าการก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างเราเพื่อไปหาคุณเสียอีกสัมผัสเย็น ๆ ที่ข้างแก้มเกิดขึ้นอีกครั้ง

    ฝ่ามือคู่นั้นคู่ที่ผมโปรดปรานเหลือเกินกำลังไล้วนอยู่บนแก้มของผม คุณเช็ดน้ำตาให้ผมในที่ตรงนี้ทุก ๆ ปีคุณจะอยู่ที่เดิมคอยอยู่เคียงข้างผมเสมอ


    แต่ตอนนี้คุณไม่ยิ้มอีกแล้ว

    รอยยิ้มสวย ๆ ของคุณมันไม่มีอีกแล้วริมฝีปากของคุณปิดสนิทเรียบนิ่งเหมือนที่เป็นมาตลอดสองปีแววตาของคุณเศร้าเหลือเกินคนดี

    ถ้าหากผมขอพรได้สักหนึ่งประการ

    ผมน่ะอยากได้ยินเสียงคุณอีกสักครั้งจัง แต่แล้วผมกลับต้องหัวเราะให้กับความคิดของตนเองลืมไปได้อย่างไรกันนะ

    ว่าวิญญาณน่ะ พูดไม่ได้หรอก

    ร่างบอบบางที่ผมเฝ้าถะนุถนอมของคุณค่อย ๆ เลือนไปก่อนจะหายไปกับอากาศในที่สุด ในช่วงเวลาสุดท้ายผมพยายามไขว่คว้าคุณเอาไว้อยากจะจับมือของคุณเป็นครั้งสุดท้ายเหลือเกิน

    แต่มันกลับสายเกินไป นอกจากอากาศแล้วผมก็ไม่สามารถคว้าอะไรเอาไว้ในฝ่ามือคู่นี้ได้เลย

    ขนาดคุณที่เป็นทั้งชีวิตของผม ผมยังเหนี่ยวรั้งให้คุณอยู่กับผมไม่ได้เลย

    อาจจะถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องตื่นจากฝัน

    เหมือนกับที่เพื่อนของผมบอกว่าผมหลอกตัวเองว่าคุณยังอยู่กับผมแต่ผมน่ะรู้ดีที่สุดว่าคุณเองยังคงไม่ไปไหนยังคงอยู่รอบ ๆ ตัวผมเพียงแต่ผมไม่เคยได้เห็นคุณก็เท่านั้นเอง

    ผมใช้ฝ่ามือข้างซ้ายที่นิ้วนางมีแหวนสีเงินเกลี้ยงใส่เอาไว้ยกขึ้นลูบป้ายสลักหินอ่อนเป็นครั้งสุดท้าย

    "ความรักของผม จะอยู่กับคุณตลอดไป"




    Fin
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in