สวัสดีค่า ต้องบอกก่อนเลยว่าดีใจมากที่มีแท็กเล่นสนุกๆ เกี่ยวกับซีรีส์ที่ดูจนตาเปียกตาแฉะ 

          

เราเชื่อว่าหลายคนมีซีรีส์โปรดในใจ และแน่นอนว่ามากกว่าหนึ่งเรื่อง 

เราเองก็เช่นกัน ในวันนี้อยากจะมาทั้งแนะนำซีรีส์โปรด อยากเขียนถึงซีรีส์โปรด อยากเก็บเอาไว้ว่านี่แกเลือกไม่ได้จริงๆ สินะ เอ้อ งั้นก็เขียนให้หมดเลยละกัน และชักชวนให้มาดูซีรีส์ (หาภาระเพิ่มให้กับตัวเอง) ที่คุณอาจจะมองข้ามไป แต่ลองเปิดใจ (และเพิ่มภาระ) คุณจะหยุดไม่ได้แบบเรา

_________________________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________________________

เห็นแท็กแล้วอยากเขียนมาก แต่จะเขียนเรื่องอะไรดีล่ะก็ซีรีส์โปรดมีเพียบ ให้พูดถึงแต่ละเรื่องก็คงต้องนั่งคุยกันนานหน่อย ขอเขียนถึงอย่างละสั้นๆ ไม่เชิงรีวิวแต่เป็นการพูดถึงเชิงชักชวนให้มาดูกัน 

อย่างเรื่องแรกขอเปิดด้วยเรื่องที่นำพาเราเข้าสู่การเป็น Series Addict อย่าง Prison Break ที่ทำเราดูจบซีซั่นแรกในเวลาเพียงข้ามคืน เป็นประสบการณ์การไม่ได้นอนแล้วก็อาบน้ำไปเรียนเลย

เรื่องการไม่ได้นอนเนี่ย อีกเรื่องต้องยกให้เรื่องนี้ 24 ที่คุณลุงแจ็ค บาวเออร์ต้องวิ่ง วิ่ง วิ่งแล้วก็หลบ แล้วก็ล่า แล้วก็ยิง แล้วก็ไม่ได้กินอะไรตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ใจหายใจคว่ำกันไปเป็นแถบๆ หนึ่งซีซั่นมี 24 ตอน หรือหนึ่งวันของคุณลุงนั่นแหละ

คิดว่าจะหยุดดูได้มั้ย ? ตอบเลยว่าตาเปียกตาแฉะตาโบ๋มากช่วงนั้น 

ความติดหนึบระดับ 90 หรืออาจจะร้อยเต็ม แล้วแต่คน แต่เรื่องนี้พักได้ บางทีก็หิวข้าวแทนคุณลุง 5555

หรือจะเป็น Lost ผู้โดยสารที่ดวงซวยเครื่องบินตกแล้วต้องมาอยู่ร่วมกันบนเกาะที่ซึ่งไม่มีแม้แต่สัญญาณความช่วยเหลือจากโลกภายนอก แถมยังต้องเจออะไรแปลกๆ อีก ทั้งคนด้วยกันเอง ทั้งสัตว์ป่า ทั้งปรากฏการณ์อะไรก็ไม่รู้ ต้องสตรองแค่ไหนกันเชียวคะซิส ความติดหนึบระดับ 80 

มาเปลี่ยนแนวกันที่ซีรีส์ตลกๆ เบาๆ รู้ตัวอีกที อ้าว ! จบซีซั่นไปเลย 55555 ซีรีส์แนวครอบครัวที่ฮาสุดๆ อย่าง Modern Family นี่รักมากกกก เชื่อว่าใครได้ดูเป็นอันต้องหลงรักตัวละครทุกตัว ขาดใครไป ก็ไม่อร่อยเท่านี้จริงๆ ขอบอก       

                

สิ่งหนึ่งที่ชอบมากและเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์คือมุกตลกที่ใช้และการไม่ใช้ซาวด์หัวเราะค่ะ คือมุกมันตลกด้วยตัวของมันเอง เป็นมุกแบบ daily life และขำจริงขำจัง ไม่มีการใช้ซาวด์ช่วย ซีรีส์บางเรื่อง ตัวละครเล่นมุกจบแล้วก็มีซาวด์หัวเราะขึ้นมาเลย บางทีเรายังฟังไม่ทันจบ แปลภาษาอังกฤษไม่ทันจะครบ ซาวด์มาซะแล้ว บางทีไม่ขำอีก 

เรื่องนี้ดูเพลินได้ดีมาก ใครอยากคลายเครียดมาดูเรื่องนี้เลย รับรองไม่ผิดหวังนะเออ ความติดหนึบระดับ 70 แล้วแต่ว่าใครอยากกดดูตอนต่อไป เพราะตอนนึงก็ประมาณยี่สิบกว่านาที อาจจะกดดูได้เรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีอ้าวจบซีซั่นแล้ว 

หรือจะเป็น 2 Broke Girls ที่หลายๆ คนบอกว่าเฉยๆ แต่เราแบบรักเลยยยยย รักสองสาวมาก (เรื่องนี้มีซาวด์หัวเราะนะ มุกไม่ได้ขำมาก แต่ความเล่นใหญ่ต้องยกให้เค้า) ภารกิจการเปิดร้านคัพเค้กที่เริ่มจากการเจอกันโดยเป็นเด็กเสิร์ฟด้วยกันทั้งคู่ เป็นซีรีส์แนวน่ารักๆ เบาๆ ด้วยความที่ซีรีส์มีตัวเอกเป็นผู้หญิง ความ Girlish เลยสูงมาก สาวๆ น่าจะชอบกัน มีความเป็นเพื่อนสาว ซัพพอร์ตเรื่องหนุ่มๆ กัน มีความโก๊ะเปิ่น ดูแล้วก็อมยิ้ม ไม่ได้เป็นระดับขำก๊าก

ความคิดหนึบระดับ 60 แล้วแต่คนอีกนั่นแหละท่านผู้อ่าน คือความฮา ฮาไม่เท่า Modern Family หรอก เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ชวนติดตามขนาดนั้น แต่ถ้าใครติดใจในความน่ารักของสาวๆ ก็อาจจะติดหนึบมากกว่านี้ก็ได้

มากันที่แนวสืบสวนสอบสวนที่ดูจะเข้าทางเรามาก ยกให้สองเรื่องนี้แบบขึ้นหิ้งไปเลย ไม่มีใครน้อยกว่าใคร ใครอยากดูซีรีส์ที่มีความจริงอยู่มาก ตัวเอกไม่ได้ปราดเปรื่องอะไร มีทั้งหาคนร้ายไม่ได้ มีทั้งพลาดอะไรบางอย่างในการสอบสวนไป แต่เข้มข้นและดาร์กได้ใจ ต้อง True Detective และ The Killing เลยค่ะ 

True Dectective สำหรับเราแค่ซีซั่นแรกนะคะ ใครอยากดูพี่ Matthew McConaughey เป็นนักสืบที่ดูมีอะไรเก็บงำ ปกปิด แต่ไม่บกพร่องในหน้าที่ การแสดงของพี่นี่มันดีจริงๆ ส่วน The Killing พูดเลยว่าตอนดูซีซั่นสุดท้ายจบ เราใจหายมาก คือผูกพันธ์กับตัวละครเอกทั้งสองคนอย่างไม่น่าเชื่อ ใจหายไปเลยจริงๆ ซีรีส์เข้มข้นมากค่ะ ทั้งบท ทั้งนักแสดงดีงามมาก สองเรื่องนี้ยกไว้ท็อปลิสต์เลย มันดีไปหมดทุกอย่าง

ถามถึงความดาร์ก ดาร์กนะคะ ดาร์กพอสมควร ในส่วนของเนื้อเรื่องที่เค้าใส่เข้าไป ไม่ใช่สิ่งปกติเลย เป็นความดิบเถื่อน ความมืดมนในจิตใจมนุษย์ สะท้อนอีกด้านของสังคมได้ดีมากค่ะ เป็นความจริงที่ไม่ได้เกินจริง ทุกสิ่งล้วนไม่ได้มาจากความคาดหวัง เพราะสุดท้ายแล้วโลกนี้ก็ไม่ได้สวยงามดั่งฝัน

ระดับความติดหนึบของทั้งสอง ให้ 90 ค่ะ บางทีมันหนักเกินไป เราก็ต้องพักบ้าง กลัวใจตัวเองเหมือนกัน ต้องออกมาหาอะไรสดใสๆ ทำ 555555

Grey's Anatomy ใครจะคิดว่าซีรีส์หมอๆ ผ่าตัดๆ จะทำให้เรารักเมเรดิธ คริสติน่า หยาง จอร์ช อิซซี่และอีกมากมายได้ขนาดนี้ แถมน้ำตาซึมทุกตอนเลยสิน่า เป็นคนเซนซิทิฟอยู่ด้วย ตอนไหนทำซึ้งก็ซึ้งแบบเออ ก็รู้นะบางทีก็บิวท์มากไป แต่ยอมให้บิวท์ เรื่องนี้ครบรสมาก ด้วยความที่เป็นเรื่องของหมอๆ มีทั้งรัก แอบรัก แอบกิ๊ก แอบจีบ จีบตรงๆ มีเศร้า มีซึ้ง และมีหัวเราะแบบขำออกมาเลย

ทีแรกเห็นโปสเตอร์ เรานึกว่า คริสติน่า หยางเป็นตัวร้ายซะอีก ก็แหม คุณเธอเล่นทำหน้าบึ้ง แต่ในเรื่องน่ารักมากกก มีความตีมึนหลายที คริสติน่า หยางคือความสว่างของซีรีส์ ไม่ได้แบบตัวฮาประจำเรื่อง แต่ถ้าไม่มีเธอ ซีรีส์จะดูดร็อปๆ ดูเน่าๆ ด้วยซ้ำบางทีก็รู้สึก 55555

ด้วยความที่เห็นมีหลายซีซั่นก็อะ ดูหน่อยนึงละกัน อยากรู้ว่าเป็นยังไง จำได้ว่าครั้งแรกที่ดูคือคืนเดียวจะจบไปแล้วหนึ่งซีซั่น 55555 ระดับความติดหนึบ ให้ 80-90 แต่ไม่ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องรักๆ นะคะ จะมีเคสของผู้ป่วยเข้ามาเรื่ิอยๆ แล้วแต่ละเคสก็สนุก แต่เส้นเรื่องที่คนดูต้องติดตามเป็นเกี่ยวกับความรัก ชีวิตส่วนตัวของคุณหมอแต่ละคน ปมดราม่าพัวพันอะไรประมาณนี้ 

มีใครรู้จัก Idris Elba มั้ยคะ ขอเสียงหน่อยยยย ซีรีส์ที่เค้าแสดงนำคือเรื่อง Luther แนวสืบสวนสอบสวนแต่ก็รวมประเด็นดราม่าชีวิตส่วนตัวของพี่แกด้วย จะบอกว่ารักผู้ชายคนนี้ก็เพราะเรื่องนี้ เชียร์ให้เป็นเจมส์ บอนด์คนต่อไปก็เพราะดูเรื่องนี้ แถมพี่ยังตอกย้ำความเท่ห์ ความคูลของผู้ชายอังกฤษไปอี๊กกกก บรรยากาศในเรื่องก็ลอนดอนอันสวยงามเลยค่ะ คือเรื่องนี้ดีมากจริงๆ ซีรีส์เข้มข้น มีหักมุม มีเซอร์ไพรส์ มีความฟินเพราะพระเอก (อันนี้ส่วนตัวไป) แถมฝั่งตรงข้ามพระเอกที่ไม่รู้จะเรียกว่าตัวร้ายดีมั้ย เพราะนางเป็นผู้หญิงแปลกๆ คิดแปลกๆ ทำอะไรแปลกๆ แต่เอ๊ะ ไปๆ มาๆ ทำไมนางก็ดูเป็นแค่ตัวร้ายที่รักเธอแค่นั้นล่ะ ยังดูไม่จบเลยค่ะ เปิดเทอมซะก่อน เน็ตหอช้ามากกกก ไม่ได้ดูอะไรเลย (บ่น) 

ระดับความติดหนึบ เราให้ 80 ค่ะ จะมีความมึนอึนของพี่ Idris อยู่ค่อนข้างมากเรื่องชีวิตรัก ทำให้บางทีเราอยากให้เทไปที่ตอนสืบคดีมากกว่า (เท่ห์กว่า หล่อกว่า น่าเครียดๆ ยิ่งหล่อ แต่ยิ้มทีนี่ละลายตายเลยนะคะ)

         

ถ้าพูดถึงฉากหลังเป็นลอนดอน ขอพูดถึงสามเรื่องนี้แบบสั้นๆ (จะทำได้มั้ย ทำได้รึเปล่า) เรื่องแรก ผู้ชายอังกฤษในฝันของอิฉันเองค่ะ (จริงๆ ผู้ชายในอุดมคตินี่เป็นผู้ชายอังกฤษทั้งนั้นเลย 5555) Sherlock Holmes สิคะรออัลไลลลลล 

มายเบเนดิกต์ มายมาร์ติน ฟรีแมน ซีรีส์เชอร์ล็อคยุคปัจจุบัน ความสนุกระดับมากกกก สามตอนต่อซีซั่น ซีซั่นละสิบปีมีหน (ล้อเล่น) ก็มันนานนนนน แฟนๆ ก็ได้แต่ลงแดงรอกันต่อไป บอกเลยว่าไม่ดูอาจจะพลาดความดีงามของบท การแสดงหรือแม้แต่รายละเอียดเล็กน้อย อย่างฉาก อย่างพร็อพในเรื่อง ผู้สร้างเค้าก็ให้ความสำคัญมาก 

อีกเรื่องคือ London Spy ค่ะ พี่ Ben Wishaw เป็นตัวเอก แบกทั้งเรื่องไว้อย่างไม่เกินความสามารถขุ่นพี่เลย เรื่องนี้ขุ่นพี่รับบทเป็นเกย์หนุ่มเหงาหงอยเบื่อชีวิต บังเอิญเจอหนุ่มหล่อกำลังวิ่งออกกำลังกาย หลังจากนั้นความเป็น spy ในตัวพี่ก็เริ่มขึ้น ฉากหลังเป็นลอนดอนที่งามมากค่ะ ลอนดอนแบบเย็นๆ เงียบๆ หนาวๆ บทดีมาก มีแค่สามตอนนะคะถ้าจำไม่ผิด เป็นมินิซีรีส์ที่สร้างความดีงามเอาไว้มาก ได้ความเป็นสืบสวนสอบสวนด้วยตัวคนเดียวฉายเดี่ยวมากๆ ค่ะ เก่งค่ะ สวยค่ะ 

เรื่องสุดท้าย Misfits ที่หาดูยากมากกกกก ก็ไปหามาดูจนได้ แบบไม่มีซับก็จะดู ไหนใครอยากฝึกสำเนียงอังกฤษ เราขอแนะนำเรื่องนี้แบบสุดตัว จะได้สำเนียงอังกฤษอันหลากหลายจนเราก็เพิ่มสกิลการฟังสำเนียงอังกฤษไปได้ดีเหมือนกัน เนื้อเรื่องสนุุก หลายคนดูแค่สองซีซั่นแรก แต่เราดูหมดเลย จะเปลี่ยนตัวละคร จะเพิ่มจะยังไงก็ดูต่อ เพราะสนุกจริงๆ ถึงซีซั่นหลังๆ จะสนุกน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่สนุกนะคะ ยังสนุกอยู่ ทุกตัวละครดีหมดเลย เป็นซีรีส์ที่มีความวัยรุ่นสูงมาก ทั้งเพี้ยนๆ บ้าๆ บอๆ มีความกวน ยียวน ความแสบ ความอยากลอง ความทุกสิ่งอย่าง 

ขยับมาแนวผู้ใหญ่ๆ แต่ไม่น่าเบื่อกันบ้าง The Good Wife คุณแม่ลูกสอง สามีมีข่าวฉาว ตัวเองเป็นทนาย แฟนเก่าเป็นเจ้านาย ทำไมมันดูไม่ค่อยสนุกจังเลย แต่สนุกมากกกก ถึงจะเป็นแนววัยทำงาน แต่ไม่มีตอนเอื่อยเลย แต่ละตอนนี่เต็มที่มาก การว่าความแต่ละทีนี่แบบ ได้มุมมองของการเป็นทนายเลยค่ะ คือถ้าเราดูซีรีส์สืบสวนสอบสวนมาจะอินกับนักสืบ กับตำรวจ กับการหาพยาน แต่เรื่องนี้ทำให้เราอินกับทนายมาก คือใช่ว่าจับคนร้ายมาแล้วจะเป็นคนร้ายตัวจริง ทนายเองก็ต้องสืบ ต้องหาหลักฐานมาแย้งมาตอกกลับฝ่ายตรงข้าม ถ้าเอาแนวสืบสวนกับแนวทนายมารวมกัน โอ๊ย ไม่ต้องหลับต้องนอน ดูกันยาวไปเลยค่ะ 55555

บางตอนก็เหมือนตบหน้าเราไปแรงๆ ดูจบละหน้าชา เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคม อีกเรื่องที่เป็นทนายเหมือนกัน จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก How To Get Away With Murder ที่ชื่อเรื่องก็ได้ใจเราไปเลย 

ตัวแม่ต้องยกให้แอนนาลีส ขุ่นแม่ผู้จะแบกรับอะไรในชีวิตไว้เยอะขนาดนั้นคะ เรื่องนี้ติดหนึบมาก ระดับ 90 ดูจบแล้วต้องกดตอนต่อไปแทบจะทันที แถมซีซั่นสองยังเล่นการเล่าเรื่องแบบไม่ได้นับหนึ่ง สอง สามตามลำดับ แต่เล่าสลับไปมา ให้คนดูเขว ให้คนดูงง จบด้วยความค้างคา ปริศนาเต็มไปหมดดดด ตัวละครมีหลายคาแรคเตอร์ เข้ากันได้ดีสุดๆ มีทั้งฮา ทั้งเครียดและหงุดหงิดตาม 5555

มีนักโทษชายไปแล้ว มาดูที่นักโทษฝั่งสาวๆ กันบ้าง เปิดด้วยซีรีส์คุก ขอปิดด้วยซีรีส์คุก เรื่อง Orange Is The New Black ที่แบบ เฮ้ย ทำไมสนุก ทำไมรักตัวละคร ทำไมบทดีจังเลย ถ้าฝั่งผู้ชายมี Prison Break 

ที่เนื้อเรื่องเกี่ยวกับแผนการการแหกคุก แต่นี่เป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวันของสาวๆ ค่ะ ใครที่ดูแล้วคงหลงรักความเป็นธรรมชาติของตัวละคนที่เค้าแคสนักแสดงมาได้ดีมากๆ เรื่องนี้สนุกค่ะ

          

จบแล้ววววว ใครที่อ่านถึงตรงนี้หรืออ่านข้ามมาถึงตรงนี้ 55555 อยากจะเขียนแค่เรื่องเดียวปาไปสิบกว่าเรื่องเลย ไม่ใช่การรีวิวแต่อย่างใด เป็นแค่การอยากมีที่ที่เก็บความบ้าซีรีส์ของตัวเองไว้แล้วก็อยากแชร์ให้คนอื่นๆ ด้วย จริงๆ มีอีกหลายเรื่องเหมือนกันที่อยากเขียนถึง แต่คัดมาเฉพาะที่ติดจริงๆ ชอบจริงๆ รักจริงๆ ยังไงก็ถ้าใครว่างๆ ลองหามาดูก็ได้นะคะ เป็นยังไงแล้วมาเม้าท์กันได้เน้อออออ