เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เสริมคางเพิ่มความมั่นใจ เพื่อเปลี่ยนรูปหน้าให้สวยสมดุลwriter_subpost
เสริมคางเพิ่มความมั่นใจ เพื่อเปลี่ยนรูปหน้าให้สวยสมดุล
  • เสริมคาง คืออะไร

    การเสริมคาง คือ การผ่าตัดตกแต่งรูปทรงคางให้ดูสวยงามและเข้ากับรูปหน้ามากขึ้น โดยศัลยแพทย์จะใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ หรือการผ่าตัดใส่ซิลิโคน เพื่อปรับโครงสร้างคางให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ


    ในปัจจุบันการศัลยกรรมความงามได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจสำหรับพบปะผู้คน โดยเฉพาะการเสริมคาง ซึ่งสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น เข้ารูปมากขึ้น เสริมสร้างมิติให้กับใบหน้า และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้รับบริการ

    ดาราคนไหนบ้างที่เสริมคาง

    การพูดถึงดาราที่เสริมคางนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัวและอาจส่งผลต่อชื่อเสียงของบุคคลนั้น ๆ โดยมีดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงที่เปิดเผยต่อสาธารณะเองว่าได้ทำการเสริมคาง เช่น แพรรี่ ไพรวัลย์ หนิง ปณิตา ต้นหอม ศกุนตลา บุ๊คโกะ

    คางแบบไหนที่เหมาะกับการศัลยกรรมคาง

    กาเสริมคางขึ้นอยู่กับรูปหน้าเดิม โครงสร้างกระดูกใบหน้า และความต้องการของบุคคลนั้น ๆ โดยทั่วไปแล้ว ศัลยแพทย์จะพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

    • รูปหน้า: สำหรับคนที่มีรูปหน้ากลม เหลี่ยม หรือหัวใจ การเสริมคางจะช่วยให้ใบหน้าดูยาวขึ้น เรียวขึ้น และสมส่วนมากขึ้น

    • โครงสร้างกระดูกใบหน้า: สำหรับคนที่มีคางสั้น คางถอย คางยื่น หรือคางเบี้ยว การเสริมคางจะช่วยปรับโครงสร้างกระดูกใบหน้าให้สมดุล และดูสวยงามมากขึ้น

    • ความต้องการของบุคคล: บุคคลนั้น ๆ ต้องการคางทรงแบบไหน ยาวแค่ไหน แหลมแค่ไหน ศัลยแพทย์จะพิจารณาจากความต้องการของบุคคลนั้น ๆ ร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ

    โดยทั่วไปแล้ว คางทรงที่นิยมใช้สำหรับเสริมคางมีดังนี้

    • คางทรงหยดน้ำ: เป็นทรงคางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะกับคนที่มีทุกรูปหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูเรียว ยาว และมีมิติ

    • คางทรงเหลี่ยม: เหมาะกับคนที่มีรูปหน้ากลม ช่วยให้ใบหน้าดูยาวขึ้น เรียวขึ้น และมีมิติ

    • คางทรงปลายแหลม: เหมาะกับคนที่มีรูปหน้ายาว ช่วยให้ใบหน้าดูสมส่วน และมีมิติ

    • คางทรงธรรมชาติ: เหมาะกับคนที่มีรูปหน้ารูปไข่ ต้องการปรับโครงสร้างคางให้ดูสมดุล โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงรูปทรงคางมากนัก

    ขั้นตอนการเสริมคาง

    กาเสริมคาง เป็นการผ่าตัดตกแต่งเพื่อปรับรูปทรงคางให้ดูสวยงาม สมส่วน และเพิ่มความมั่นใจ โดยทั่วไปแล้ว ขั้นตอนการเสริมคางมีดังนี้

    • ปรึกษาศัลยแพทย์ เพื่อประเมินรูปหน้า โครงสร้างกระดูกใบหน้า และความต้องการของบุคคลนั้น ๆ โดยศัลยแพทย์จะแนะนำทรงคางที่เหมาะสม อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการผ่าตัด ผลข้างเคียง และการดูแลหลังผ่าตัด ซึ่งบุคคลที่ต้องการเสริมคางควรสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน และแจ้งข้อมูลส่วนตัว ประวัติการเจ็บป่วย ยาที่ทาน และโรคประจำตัว ให้กับศัลยแพทย์ทราบ

    • เตรียมตัวก่อนผ่าตัด โดยงดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เป็นเวลา 2 อาทิตย์ก่อนผ่าตัด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย หลวม ๆ สะดวกต่อการถอดใส่ แจ้งให้ญาติหรือเพื่อนทราบ เผื่อกรณีฉุกเฉิน

    • ในวันผ่าตัด บุคคลที่ต้องการเสริมคางควรมาถึงคลินิกหรือโรงพยาบาลก่อนเวลาที่นัดหมาย ศัลยแพทย์จะทำความสะอาดผิวบริเวณคาง และฉีดยาชา ทำการผ่าตัด โดยศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณใต้คางหรือภายในปาก ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัด ใส่ซิลิโคนคาง ปรับแต่งตำแหน่ง และเย็บปิดแผล

    • จากนั้นเป็นการดูแลหลังผ่าตัด

    การปฏิบัติตัวหลังเสริมคาง


    การปฏิบัติตัวหลังเสริมคาง สามารถทำได้ดังนี้

    • ประคบเย็นบริเวณคางเพื่อลดอาการบวม

    • ทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง

    • งดอาหารแข็ง ทานอาหารอ่อน ๆ เช่น โจ๊ก ซุป

    • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ

    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกระทบกระเทือนบริเวณคาง

    • งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เป็นเวลา 1 เดือนหลังผ่าตัด

    • มาพบแพทย์เพื่อติดตามผลและตัดไหมตามนัด

    ระยะเวลาสำหรับพักฟื้น โดยทั่วไปแล้ว บุคคลที่เสริมคางสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติภายใน 1-2 อาทิตย์ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่อาจกระทบกระเทือนบริเวณคาง เป็นเวลา 1 เดือนหลังผ่าตัด

    หลังเสริมคางมีผลข้างเคียงไหม

    การเสริมคาง เป็นการผ่าตัดตกแต่ง เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่น ๆ ย่อมมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังเสริมคาง มีดังนี้

    • อาการบวม: เป็นอาการปกติหลังผ่าตัด โดยอาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 1-2 อาทิตย์

    • อาการปวด: สามารถบรรเทาอาการปวดได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง

    • รอยช้ำ: เป็นอาการปกติหลังผ่าตัด โดยรอยช้ำจะค่อย ๆ จางลงภายใน 1-2 อาทิตย์

    • ชาบริเวณคาง: อาการชาจะค่อย ๆ หายไปภายใน 1-2 เดือน

    • การติดเชื้อ: เป็นผลข้างเคียงที่ร้ายแรง อาจเกิดขึ้นได้หากไม่ดูแลแผลตามคำแนะนำของแพทย์

    • ซิลิโคนเบี้ยวหรือเอียง: อาจเกิดขึ้นได้หากเลือกคลินิกหรือศัลยแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

    • ซิลิโคนทะลุ: อาจเกิดขึ้นได้หากใส่ซิลิโคนขนาดใหญ่เกินไป หรือดูแลแผลไม่ดี

    • ผลลัพธ์ไม่เป็นที่พอใจ: อาจเกิดขึ้นได้หากไม่สื่อสารความต้องการกับศัลยแพทย์ให้ชัดเจน

    นอกจากนี้ ยังอาจมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับสุขภาพและสภาพร่างกายของบุคคลนั้นๆ

    วิธีการเลือกคลินิกศัลยกรรมคาง

    ารเสริมคางเป็นการผ่าตัด ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาสำหรับเลือกคลินิกศัลยกรรมคาง ดังนี้

    • ควรเลือกคลินิกที่มีชื่อเสียง ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และมีประสบการณ์สำหรับเสริมคางมานาน สามารถตรวจสอบรีวิวจากคนไข้จริง เพื่อดูผลลัพธ์หลังผ่าตัด และความพึงพอใจของคนไข้

    • ควรเลือกศัลยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผ่านการอบรมหลักสูตรศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าโดยเฉพาะ และมีประสบการณ์สำหรับเสริมคาง สามารถปรึกษาศัลยแพทย์โดยตรง เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการผ่าตัด ผลข้างเคียง และการดูแลหลังผ่าตัด

    • ควรเลือกคลินิกที่มีเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัย สะอาด ปลอดภัย ศัลยแพทย์ควรอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเทคนิคการผ่าตัด และวัสดุที่ใช้เสริมคาง

    • ควรเปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ คลินิก ราคาที่ถูกเกินไปอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี เพราะอาจใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือศัลยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์

    • ควรเลือกคลินิกที่มีบริการที่ดี พนักงานสุภาพ ให้คำปรึกษาอย่างละเอียด และใส่ใจคนไข้ คลินิกควรมีระบบติดตามผลหลังผ่าตัด เพื่อดูแลและตอบคำถามของคนไข้

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in