เราจะมาเริ่มบันทึกเรื่องราวแบบจริงจังแล้วซะที ตอนที่ทำบล็อกเล็กๆนี้ขึ้นมาส่วนนึงก็อยากเขียนเรื่องราวเอาไว้ให้ตัวเองยังจำได้ว่าครั้งนึงเราเคยทำอะไรบ้าง วันนี้มาเขียนเรื่องการตรวจร่างกายแหละ ถามว่าตรวจไปทำไม? จริงๆแล้วตรวจไปยื่นศึกษาต่อค่ะ เอาจริงๆเห็นว่าเดี๋ยวไปตรวจที่จีนก็ได้ แต่ก็คงจะsurvivalเกินไป? โพสต์แรกขอพูดยาวหน่อยอย่ารำคาญกันนะคะ ด้วยความเป็นเด็กต่างจังหวัดก็เลยจะเขียนเหตุการณ์ของเราเองกับประสบการณ์ตรวจสุขภาพ(โรงพยาบาลต่างจังหวัด) ถ้าในกทม.ก็แนะนำให้ตรวจที่ร.พ.จุฬากับร.พ.ตำรวจเลยค่ะเพราะสะดวกและคุณหมอคุณพยาบาลก็คุ้นเคยและรู้ว่าต้องตรวจอะไรยังไงบ้างอยู่แล้ว
เอาล่ะ! อารัมบทกันมามากแล้วมาเริ่มกันเลยดีกว่า สำหรับการตรวจร่างกายเข้าประเทศจีนเค้ามีแบบฟอร์มเป็นของตัวเอง เราตรวจปี2016 ไม่รู้ว่าปีต่อๆไปเค้าจะเปลี่ยนฟอร์มรึเปล่า หาฟอร์มจากอากู๋รอบรู้เสิร์ชได้เลยว่า 'แบบฟอร์มการตรวจร่างกายเข้าประเทศจีน'
มา! คราวนี้จะเขียนจริงจังแล้ว เอาเป็นว่าเราไปร.พ.แต่เช้าเลยค่ะ ติดต่อที่เคาท์เตอร์สอบถามด้านหน้าก่อนเลย บอกพี่พยาบาลว่ามาตรวจร่างกายไปเรียนต่อต่างประเทศให้คุณหมอเขียนผลการตรวจเป็นภาษาอังกฤษให้ จากนั้นนั่งฟังคำแนะนำแล้วก็ทำตามที่พยาบาลเค้าบอกนั่นแหละค่ะ อันดับแรกก็เขียนข้อมูลส่วนตัวคร่าวๆและติดรูปในฟอร์มรอค่ะเซ็นยินยอมตรวจHIVด้วยนะ พี่พยาบาลจะบอกว่าให้ทำอะไรไปห้องตรวจไหนบ้าง เราตรวจตามฟอร์มทุกอย่างดังนี้เลยค่ะ
>ตรวจเลือด(HIV+ซิฟิลิส)
>ตาบอดสี ตรวจวัดสายตา
>ตรวจการได้ยิน
>ตรวจEKG(คลื่นไฟฟ้า)
>เอกซ์เรย์ (ปล.มหาลัยที่จีน รีเควสฟิล์มด้วย อย่าลืมย้ำกับพยาบาลด้วยนะคะว่าเราขอฟิล์มกลับด้วย บอกไปว่ามหาลัยต้องการค่ะ)
เอาจริงๆก็มีเท่านี้แหละไม่ได้เยอะอะไร ทำแปปๆก็เสร็จค่ะ เราไปถึงร.พ.9โมงตรง ตรวจทุกอย่างเสร็จประมาณ10โมงครึ่ง แล้วก็รอผลเลือดในวันนั้นเลยรวมๆแล้วเสร็จประมาณบ่าย2ค่ะ พี่พยาบาลใจดีมากๆ ให้คำแนะนำดีด้วย ค่าเสียหายประมาณ 1000 บาทค่ะ
รวมๆแล้วผ่านไปได้ด้วยดี(เกินคาดมาก)ค่ะ บางขั้นตอนก็รีบๆไปบ้างเลยไม่ได้แชะรูปมาฝาก จริงๆที่เห็นไม่มีรูปไม่ใช่ไม่ถ่ายเลยนะคะ ถ่ายจากโทรศัพท์นี่แหละค่ะ แต่ไฟล์ใหญ่เกินไปอัพโหลดไม่ได้ TT.TT ปรับก็ไม่เป็นอีกด้วย ???? จบไปเท่านี้ดีกว่า เดี๋ยวจะเวิ่นเว้อเกินไป วันนี้สวัสดีค่ะ ?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in