เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Fictober2019pampamgirl
Day 16 : Blood
  • มือเรียวขาววางถาดสำรับลงบนโต๊ะกลมขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก

    ค่ำวันนี้... เจิ้งเยี่ยนตั้งใจทำอาหารสุดฝีมือ บนถาดที่ยกมามีทั้งน้ำแกงเอ็นลูกวัวตุ๋นยาจีน ซี่โครงหมูอบราดด้วยน้ำจิ้มหม่าล่าหวานๆ เผ็ดๆ น่องไก่ยัดไส้สมุนไพรทอดกรอบ เคียงน้ำจิ้มบ๊วยหวานเปรี้ยว ตบท้ายด้วยข้าวสวยที่หุงด้วยฟืน ควันฉุยหอมกรุ่น...

    แค่เพียงได้กลิ่น... เด็กๆ ก็น้ำลายยืด นั่งมองเจิ้งเยี่ยนค่อยๆ วางอาหารทีละจานๆ ลงบนโต๊ะจนตาละห้อย

    "เชิญ!"

    เหมือนเสียงสวรรค์ทรงโปรด... เมื่อเจิ้งเยี่ยนผายมือ เด็กๆ ก็จับตะเกียบตะลุยคีบอาหารจานที่หมายตาไว้ ฝีมือว่องไว... รวดเร็วจนแทบมองตามไม่ทัน

    มีเพียงหลี่เยี่ยนชิวที่ยังคงยั้งพระหัตถ์ ค่อยๆ วางชามข้าวที่เจิ้งเยี่ยนตักให้ลงบนโต๊ะอาหารในตำแหน่งที่ว่างอยู่ข้างกายเขา จากนั้นจึงรับข้าวอีกชามหนึ่งมาวางหน้าตนเอง ตรัส "เจ้าก็นั่งลง กินข้าวด้วยกัน"

    เจิ้งเยี่ยนแย้มยิ้ม... คิดในใจว่า ฝ่าบาทของข้าสุภาพนุ่มนวล... น้ำพระทัยกว้างขวาง เชื้อเชิญข้าร่วมโต๊ะเสวยทุกวันมิเคยขาดจริงๆ จากนั้นจึงนั่งลงข้างกายจักรพรรดิ แต่เมื่อเริ่มยกชามข้าวจับตะเกียบขึ้น กลับได้ยินกระแสเสียงหนึ่งเรียกนามตน... เป็นสุรเสียงที่เยียบเย็นเสียจนมือเรียวที่กำลังจะส่งซี่โครงหมูเข้าปากต้องหยุดชะงัก

    "เจิ้งเยี่ยน..."

    เจ้าของนามหันหน้ามองพระพักตร์เรียบเฉย สองคิ้วเรียวงามยกขึ้นน้อยๆ เป็นเชิงไถ่ถาม

    สายพระเนตรหลี่เยี่ยนชิวลดลงจดจ้องนิ้วมือเรียวขาว สุรเสียงทุ้มต่ำตรัสถามเพียงคำเดียว "เลือด...?"

    เจิ้งเยี่ยนมองตามสายพระเนตร เห็นบาดแผลที่ยังมีหยาดโลหิตสีแดงเข้มไหลลงย้อมนิ้วมือตน จากนั้นร้อง อ๋อๆๆๆ โบกไม้โบกมือพัลวัน พลางตอบกลั้วเสียงหัวเราะ "เป็นธรรมดาของพ่อครัวพะย่ะค่ะ ข้าเสียเลือดให้มีดทำครัวมากกว่าให้คมกระบี่เสียอี--"

    คำพูดของเจิ้งเยี่ยนชะงักกึก จากนั้นคนร้องเสียงหลง เมื่อหลี่เยี่ยนชิวกระตุกข้อมือเรียวขาวเข้าหาพระองค์ พลางโน้มกายลงฝากจุมพิตเหนือบาดแผล

    "อ๊ะ ฝ่าบาท! เด็กๆ ก็อยู่ที่นี่นะพะย่ะค่ะ!"

    "ที่นี่มีเพียงข้ากับเจ้า" หลี่เยี่ยนชิวเชิดริมโอษฐ์

    "ฝ่าบาท!!!" ใบหูเจิ้งเยี่ยนเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม

    "..." องค์ชายสี่ใบหน้าเขียวครึ้ม

    "งั่ม!" เยี่ยนเอ๋อร์งับน่องไก่ทอดอย่างเต็มปากเต็มคำ หาได้สนใจสิ่งใดไม่

    "ผมปล้อง! เจ้ายังนิ่งนอนใจ มัวแต่กินอยู่ได้ยังไง!"

    "อะ..." ปากเล็กๆ ที่กำลังจะกัดน่องไก่อีกคำหนึ่งอ้าค้าง ใบหน้าจิ้มลิ้มมองไปรอบๆ อย่างตื่นตระหนก

    หลี่เยี่ยนชิวทอดพระเนตรใบหน้าเจิ้งเยี่ยนที่ประเดี๋ยวแดงประเดี๋ยวซีดขาว ไล่ไปยังสีหน้าเข้มครึ้มไม่สบอารมณ์ขององค์ชายสี่ และสุดท้ายจึงเชิดมุมปากเล็กน้อยส่งให้ใบหน้าเหลอหลาน่าเอ็นดูของเยี่ยนเอ๋อร์ จากนั้นส่งชิวหาออกมาแลบเลียปลอบประโลมนิ้วเรียวนั้นอีกหลายอึดใจ จนกระทั่งผิวบริเวณนั้นดูขาวหมดจดไร้คราบโลหิต...

    องค์ชายสี่ส่งสายตาตำหนิไปทางองค์จักรพรรดิ ถอดความได้ว่า... ประเจิดประเจ้อ! จากนั้นจึงยกมือขึ้นปิดตากลมโตของเยี่ยนเอ๋อร์...

    เจ้าตัวเล็กตกใจร้อง เอ๋~ เมื่อการมองเห็นถูกรบกวน มือเล็กยกไก่ทอดที่กำไว้แน่นตีหลังมือเล็กๆ ของอีกฝ่ายที่บดบังดวงตาของตนเบาๆ ร้องเตือนซ้ำๆ ว่า "ปล่อยน้า~ เยี่ยนเอ๋อร์มองไม่เห็น"

    "ฉากนี้เจ้าไม่ต้องมองแล้ว!" องค์ชายสี่ตัวน้อยฮึดฮัดขัดใจ จึงยกมือดึงผมหางม้าของเยี่ยนเอ๋อร์ตัวน้อยไปคราหนึ่ง

    หลี่เยี่ยนชิวเลิกขนง กรีดยิ้มส่งให้ตนเองในร่างเด็ก พลางยกพระหัตถ์ขึ้นปิดตาขององค์ชายสี่เอาไว้แน่น จากนั้นยืดพระองค์ขึ้น ขบกัดริมฝีปากของเจิ้งเยี่ยนเบาๆ เพื่อมิให้ประท้วงอันใดได้ ก่อนตรัสสั้นๆ ว่า

    "ฉากต่อไปเจ้าเองก็มิควรมองเช่นกัน"

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Pderingring (@Pderingring)
แงงงงงงงงง ฝ่าบาทร้ายนัก!! มีการยิ้มเย้ยใส่องค์ชายสี่ด้วย
เอาจริงๆ ฝ่าบาทนี่แอบนิสัยเด็กนะคะ 55555555 น่ารักกกกกกก
องค์ชายสี่ก็น่ารัก ปิดตาให้เยี่ยนเอ๋อร์ด้วย ส่วนเยี่ยนเอ๋อร์ แงงงงง หนูลูกกกกกกกก
พี่เจิ้งก็...เลิกลั่กแน้ววววว จู่ๆ ก็โดนปิดปากซะงั้น วี้ดดดดดดดด