เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ห้องทดลองเขียนลอยละล่องจะเป็นวาฬ 52Hz
อุดมการณ์?
  • "อุดมการณ์ล้วนๆเลยน้อง" 

    หากใครเคยได้อ่านหรือได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับการทำงานของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือ อุทยานมาบ้างก็คงจะรู้สึกคุ้นเคยกับประโยคนี้ไม่มากก็น้อย แต่การที่ได้มารับรู้ด้วยตัวเองโดยตรงนั้นความรู้สึกช่างแตกต่างกับตอนที่ได้รับรู้ผ่านตัวหนังสือหรือจอโทรทัศน์เหลือเกิน เมื่อได้ฟังจากปากของนายสิทธิชัย  วรรณทอง หรือ พี่ต้าหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ที่พูดด้วยน้ำเสียงราวกับเป็นเรื่องตลกที่แสนจะตลกร้ายเหลือเกิน

     

              แสงแดดรำไรในยามเช้าเจ้าหน้าที่ได้ทำการแบ่งกลุ่มให้นิสิตที่ได้มาเข้าร่วมค่ายวรรณกรรมสัญจร แบ่งกลุ่มตามความสนใจของนิสิตได้แก่ ข่าว  เรื่องสั้น  กวี เพลง  และ สารคดี ค่ายวรรณกรรมสัญจรในครั้งที่25 นี้ จัดขึ้นในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อนิสิตแบ่งกลุ่มได้แล้วการเดินป่าก็ได้เริ่มต้นขึ้น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรักมีเขตชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาและยังเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่เป็นสถานที่สำหรับการเก็บรักษาไม้ที่มีมูลค่าที่ประเมินได้สูงถึงเกือบสองพันล้านบาทอย่างไม้พยุง ไม้ที่มีการลักลอบตัดป็นจำนวนมากเนื่องจากความต้องการของตลาดที่สูงการแปรรูปจากไม้เป็นเงินที่งอกออกมาอย่างงดงาม

     

    “เงิน!”

    เป็นปัจจัหลักที่ทำให้เกิดขบวนการลักลอบค้าไม้ไม้พยุงหนึ่งท่อนมีราคาสูงถึงท่อนละ 7 หมื่นบาทและหากว่าเนื้อไม้มีคุณภาพดีราคาอาจจะสูงถึงหนึ่งแสนบาทต่อท่อน จึงเกิดประโยค

    “ใครมีต้นพยุงในบ้านเหมือนถูกหวย”เพราะราคาที่ได้นั้นสามารถทำให้ใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้นแต่นั้นคงหมายถึงพ่อค้าที่สามารถขายไม้ได้ไม่ใช่ลูกจ้างที่ถูกจ้างให้เข้ามาตัดไม้ในป่า

             

    พี่ต้าเล่าให้ฟังว่ากลุ่มตัดไม้สามารถแบ่งแยกได้เป็นสองกลุ่มคือกลุ่มไทย และ กลุ่มกัมพูชา

    แบ่งแยกได้ง่ายๆโดยลักษณะการตัดไม้โดยกลุ่มกัมพูชา จะตัดไม้เป็นท่อนขนาดใหญ่ หรือเรียกว่า ไม้เหลี่ยม ส่วนกลุ่มของคนไทยนั้นตัดแค่ต้นนั้นไม่พอยังขุดถึงรากเพื่อนำไปขายปัจจุบันไม้พยุงเริ่มขาดแคลนทำให้กลุ่มกัมพูชาเริ่มมีการขุดรากเพื่อนำขายคล้ายกับกลุ่มไทยบ้างแล้ว

             

    การจับกุมกลุ่มลักลอบตัดไม้นั้นเป็นเรื่องที่พี่ต้าพูดว่าบางทีพี่ก็ไม่เข้าใจกลุ่มของชาวกัมพูชานั้นมักจะโดยนายทุนหลอกว่าในป่าส่วนที่ให้ไปตัดนั้นไม่ใช่เขตพื้นที่ทับซ้อนสามารถเข้าไปตัดได้ไม่ผิดกฏหมาย บางคนแม้ว่ารู้ว่าผิดแต่ก็ยังลักลอบตัดไม้เพื่อแลกกับรายได้ที่ดีแม้เสี่ยงต่อชีวิตก็ตาม ถึงถูกจับครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ยังมีคนมาประกันตัวอยู่ดีพี่ต้าได้เล่าว่าก่อนหน้าที่พวกฉันจะมาเข้าค่ายสามวันนั้นเกิดการปะทะกันในส่วนที่เก็บไม้ เนื่องจากมีคนลักลอบเข้ามาเพื่อแอบนำไม้ออกไปเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนโจรเสียชีวิตไปหนึ่งรายพี่ต้าพูดติดตลกว่าดีนะที่พวกฉันไม่ได้มาวันนั้นไม่อย่างนั้นคงได้มีคนเจ็บกันเพิ่มแน่นอน

    หากจะถามถึงการปะทะกันพี่ต้าได้บอกว่าเกือบจะทุกวันที่มีการปะทะบางครั้งก็เจอกับคนเก่าที่เคยจับกุมไปแล้ว แต่ก็ยังกลับมาทำอีกระยะเวลาการล่าตระเวณเพื่อสำรวจป่านั้นจะมีระยะการเดินสำรวจอยู่ที่ 60 ถึง 70กิโลเมตรต่อครั้ง และ มีจำนวนเจ้าหน้าที่ 3 ถึง 4 คนต่อการล่าตระเวณหนึ่งครั้งที่ไม่ใช้คนเยอะเพราะจะได้ลดการใช้เสียงหากอ่านปากโดยไม่ต้องออกเสียงกันได้จะยิ่งเป็นการดีป้องกันการรู้ตัวก่อนของผู้ลักลอบตัดไม้ การเดินป่าจำเป็นต้องใช้ GPS  แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเนื่องด้วยราคาต่อหนึ่งเครื่องก็เกือบจะเท่าเงินเดือนแล้วนอกจากจะขาดอุปกรณ์นำทางแล้วยังขาดอาวุธสำหรับป้องกันตัวเองอย่างเช่น ปืน อีกด้วย เจ้าหน้าที่100 คนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีปืนเพียงแค่ 40 กระบอกเท่านั้น การล่าตระเวณการปะทะกันแทบทุบวัน เสี่ยงชีวิตเพื่อปกปเองผืนป่าของไทยนั้นมีแต่ความยากลำบากในการทำงาน

    แม้น้ำเสียงของพี่ต้าในขณะที่กำลังเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฉันได้ฟังนั้นจะสดใสและติดตลกอยู่ในที แต่คนนอกที่ไม่เคยรับรู้เรื่องราวเลยอย่างตัวฉันกลับรู้สึกหนักอยู่ในอก และ เกิดคำถามว่าทำไมนะถึงได้ยอมเสี่ยงอยู่ทุกวันค่าตอบแทนที่แทบไม่ได้เลยกับความเสี่ยงที่ต้องเผชิญอยู่ทุกวัน

    การที่ได้ฟังประสบการณ์ที่พี่ต้าได้เล่าให้ฟังนั้นทำให้ตัวฉันเกิดความสนใจในระบบการทำงานของเจ้าหน้าที่พี่ต้าก็ใจดียอมเล่ารายละเอียดให้ฉันฟังว่า เจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมงรักแบ่งเป็น พนักงานราชการ และ พนักงานบุคคลภายนอกฐานเงินเดือนของพนักงานราชการอยู่ที่10,000 บาทถึง 30,000บาทเดือน พนักงานบุคคลภายนอก 7,500 บาท ถึง 9,000 บาทต่อเดือนตำแหน่งของพี่ต้าคือพนักงานบุคคลภายนอก ฉันจึงได้ถามไปว่าเงินเดือนเท่านี้มันไม่น้อยไปหรือมันพอสำหรับค่าครองชีพหรือไม่ฉันก็ได้รับคำตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “ถ้าถามว่าอยู่ได้ไหมพี่ก็พออยู่ได้นะมันลำบากจนชินแล้ว” และได้มีอีกมากมายหลายเรื่องที่พี่ต้าได้เล่าให้ฉันได้ฟัง

    เป็นครั้งแรกของตัวฉันที่ได้มารับฟังประสบการณ์โดยตรงของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้มาสัมผัสกับความรู้สึกที่ฉันไม่เคยได้รับเวลาที่ฉันเพียงแค่อ่านเรื่องราวจากบทความความยากลำบาก ความเสียสละ และความรักในผืนป่าของเจ้าหน้าที่ป่าไม้  เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเล็ก ๆที่หน้าที่ความรับผิดชอบนั้นมีมากมายเหลือเกิน และยังแทบไม่ได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานระดับสูงความรู้สึกของฉันจากการได้รับฟังเรื่องราวมีมากมายเกินจะบรรยายออกมาได้หมด จนคำถามสุดท้ายที่ได้ถามพี่ต้าว่าทำไมถึงยอมมาอยู่ตรงนี้

     “อุดมการณ์ล้วนๆเลยน้อง”

    “พี่อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็กที่นี่เป็นบ้านของพี่ พี่เคยทำงานมาเยอะมาก สบายกายแต่เหนื่อยใจอยู่ที่นี่พี่เหนื่อยกายแต่พี่สบายใจ” นี่คงเป็นประโยคแรกของพี่ต้าหลังจากที่เล่าประสบการณ์มากมายที่ตัวของฉันสัมผัสได้ถึงความสุขจริง ๆ จากน้ำเสียงของ พี่ต้า นายสิทธิชัย วรรณทองเจ้าหน้าที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก



    เป็นการพยายามเขียนสารคดีครั้งแรก การลำดับเรื่องราว การใช้คำอาจจะอ่านไม่ลื่นและขัดตาไปบ้าง เป็นการเริ่มต้นการพยายามเขียนอะไรสักอย่างครั้งแรก 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in