เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
MARVEL [THORKI] HIDDLESWORTHhyeriqx
[SF] MANHATTAN #1



  •           Manhattan          
              Chapter 1

              แสงสีเสียงยามค่ำคืนของไนท์คลับชื่อดังแห่งนี้ เปี่ยมล้นไปด้วยผู้คนมากมายที่ต้องการมาเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน บ้างก็มาสังสรรค์กับคนในบริษัทเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี คลับแห่งนี้ใหญ่พอที่จะจุแขกที่ต้องการมาดื่มได้เป็นร้อยๆ ทุกคนในเมืองแมนฮัตตันต่างรู้จักสถานที่นี้กันเป็นอย่างดี 

              ไม่เว้นแม้แต่กับเขา 

            ทอม ฮิดเดิลสตัน 

              นักธุรกิจหนุ่มผู้ล้มละลาย เขาได้สมัครเข้าทำงานที่ไนท์คลับแห่งนี้ในตำแหน่ง บาเทนเดอร์ เขาทำมาได้ร่วมสามเดือนเศษ ทอมไม่รู้ว่าเขาตกต่ำถึงขั้นนี้ตอนไหน รู้แต่ว่าหลังจากที่ความมั่นคงทางการเงินของครอบครัวมีปัญหาเขาก็นิ่งนอนใจไม่ได้ 

              ถึงแม้ทอมจะเป็นแค่ลูกบุญธรรมของครอบครัวก็ตาม แต่คุณฮิดเดิลสตันและภรรยาก็เลี้ยงดูเขามาราวกับลูกชายแท้ๆเขาจำเป็นต้องตอบแทนบุญคุณท่านทั้งสอง งานสมัยนี้สมัครง่ายแต่บริษัทที่จะเรียกเขาเข้าทำงานได้นั้นหายาก ทอมไม่มีประสบการณ์การทำงานที่อื่นยกเว้นธุรกิจของครอบครัว แถมพอถามถึงชื่อบริษัทเดิมทุกที่ก็ล้วนส่ายหน้าให้กับบริษัทที่ถูกปิดตัวลง 

              ทอมจึงตัดใจในที่สุด

              ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจในโชคชะตาของตัวเอง บางทีความสุขตลอดเวลาที่ได้รับจากการอยู่กับครอบครัวอุปถัมป์นี้อาจมากเพียงพอแล้วและหมดโควต้าของตัวมันเอง อดีตเด็กจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างเขามาได้ไกลขนาดนี้ก็ดีมากแล้ว

              "ทอม , ผมขอเหมือนเดิม" ลูกค้าประจำของร้านที่เดินมานั่งที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์เอ่ยปากสั่งเมนูประจำของตัวเอง

              เขาส่งยิ้มหวานให้ทอม 

              "เมื่อไหร่นะทอม , คุณถึงจะยอมใจอ่อนกับผมสักที" เขาว่า

              ทอมมองชายวัยกลางคนตรงหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายแต่เพียงไม่นานปากเรียวก็ส่งยิ้มตอบกลับไป ผู้ชายคนนี้แต่งตัวดีทุกครั้งที่มาที่นี่ แม้จะไม่ได้ถึงขั้นใส่สูทผูกเนคไทแต่การใส่เสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงสแลคที่เข้ากันทำให้ผู้ชายตรงหน้านี้ดูดีไม่หยอก 

              ดวงตาสีเขียวของทอมไม่มีแววล้อเล่นต่อสิ่งที่กำลังจะตอบอีกคน 

              "ไม่มีทางครับ" 

              หมอนี่มาที่ไนท์คลับนี้แทบจะทุกวันแต่ไม่ได้มาเพื่อดื่ม แต่มาเพื่อคะยั้นคะยอให้เขายอมนอนด้วย แล้วคิดหรอว่าคนที่หยิ่งทะยงตัวอย่างเขาจะยอม ถึงชีวิตทอมจะตกต่ำขั้นสุดแค่ไหนเขาก็ไม่เคยคิดขายเรือนร่างหรือความบริสุทธิ์ของตัวเองเด็ดขาดโดยเฉพาะกับพวกนักธุรกิจที่หวังจะมากอบโกยความสุขจากเขาและใช้เงินจ่ายจากนั้นก็แยกทางกันไป แต่เหตุผลสำคัญจริงๆไม่ใช่แค่นั้นหรอก 

              เพราะเขาไม่ใช่เกย์!

              "ผมมาที่นี่ทุกวันก็เพราะคุณนะ , คุณก็รู้ดีใช่มั้ยทอม?" ทอมยกยิ้มเมื่อได้ฟัง

              "ขอบคุณที่มาอุดหนุนครับ นั่นแสดงให้เห็นว่าบริการของทางร้านเราดีเยี่ยมเลยใช่มั้ยล่ะครับ" เขาเลือกตอบไปแบบเป็นทางการ ไม่อยากจะตอบแบบภาษาปกติที่คนทั่วไปใช้คุยกัน ถ้าให้ตอบแบบที่ใจเขาคิดคงจะตอบไปว่า

              'ถึงจะมาที่นี่ทุกวัน ยังไงซะ นายก็ไม่มีวันได้เห็นขาอ่อนฉันหรอก!' อาจจะดูเป็นการบริการที่โคตรห่วยแตกไปเลยก็ได้ถ้าหากหมอนั่นได้ยินมัน

              "ขอวอดก้าแก้วนึง" เสียงที่ดังขัดความคิดในหัวของเขา ทำให้ทอมต้องหันไปมองคนมาใหม่

              ลูกค้าหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หุ่นหมีแต่หน้าหล่อแบบพระเอกหนังฮอลลีวู้ดยังเทียบไม่ได้ นั่งลงที่เก้าอี้เคาน์เตอร์ตรงหน้าเขา ดวงตาสีฟ้าของชายคนนี้เข้ากับใบหน้าอันสมบูรณ์แบบของเจ้าตัวได้ดี เขามองทอมอย่างรอคอยว่าบาเทนเดอร์หนุ่มจะตอบอะไรกลับไป

              "สักครู่นะครับ" ทอมว่า 

              เขาพยายามมากที่จะไม่ให้เสียงของตัวเองสั่นจนคนตรงหน้าจับได้ เขาคนนี้ทำให้ทอมรู้สึกประหม่าเล็กน้อยทั้งที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน ดวงตาสีฟ้าครามจ้องมองดูการกระทำของร่างบางในทุกอิริยาบท ทอมรู้ตัวดีว่าตอนนี้เขาตกเป็นเป้าสายตาของอีกคนเข้าให้แล้ว

              ทั้งรูปร่าง หน้าตา และท่าทางอันคล่องแคล่วของทอม คริส เฮมส์เวิร์ธ มองมันอย่างไม่รู้เบื่อ

             "ได้แล้วครับ" ทอมส่งแก้วเหล้าให้เขา พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะไม่ให้มือไม้สั่น

              "คุณมีฝีมือในการชงดีนี่ ทำงานที่นี่มานานเท่าไหร่?" เขาถามร่างบางด้วยน้ำเสียงราบเรียบหลังจากกระดกเหล้าในแก้วเข้าลำคออย่างไม่รู้สึกระคาย 

              เหล้านี่ทำอะไรเขาไม่ได้

             "สามเดือนครับ" ทอมว่า "นี่เป็นครั้งแรกสินะครับที่คุณมาที่นี่?" เขาถามร่างสูงกลับไป
             "ใช่" คริสวางแก้วลงพลางจ้องหน้าทอมด้วยสายตาที่อ่านยาก 

             "ผมมาตามหาคนๆนึง ที่นี่"

             "อ้อ , ขอให้ได้กับเจอเขาคนนั้นเร็วๆนะครับ" ทอมบอกเขาแค่นั้น ก่อนจะหันไปสนใจลูกค้าท่านอื่นๆ จะว่าร่างบางตั้งใจทำแบบนี้ก็คงจะถูก ทอมรู้สึกว่ายิ่งพูดคุยกับคนตรงหน้า เขาก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ รู้สึกใจสั่น หวั่นไหว รู้สึกคุ้นหน้าคนๆนี้อย่างประหลาด ความรู้สึกต่างๆชัดเจนขึ้นจนน่ากลัว

             'ข้าเจอเจ้าแล้วโลกิ' 

             เกิดเสียงแวบเข้ามาในหัวของทอม มันเป็นเสียงที่เหมือนกับเสียงกระซิบ คล้ายกันกับเสียงของคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แต่แล้วทอมก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไป บางทีเขาอาจจะหูแว่วไปเองก็ได้ จากที่เห็นชายคนนี้ก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกมาเลย 

             เขาจึงสะบัดหัวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสนใจลูกค้าสาวที่มาใหม่

             "มาทีหลังก็อย่าคิดนะว่าจะแย่งเขาไปได้" 

             ลูกค้าประจำที่นั่งข้างๆคริสเอ่ยขึ้น เขาจ้องหน้าคริสอย่างไม่พอใจสักเท่าไหร่ เขาสังเกตมานานแล้วตอนที่ทั้งคู่คุยกัน ชายคนนี้จ้องมองทอมของเขาอย่างไม่วางตาและไม่ปิดบัง สายตาที่ใช้มองนั้นผู้ชายด้วยกันย่อมรู้ว่าคิดอะไร 

             "ผมมาก่อนคุณและทอมเป็นของผม" เขาว่า

             คริสเหลือบมองทอมที่มัวแต่ให้ความสนใจกับลูกค้าผู้หญิงคนนั้นอยู่ จึงเป็นไปได้ว่าทอมอาจไม่ได้ยินสิ่งที่ชายคนนี้พูดกับเขา และคงจะไม่ได้ยินหากว่าเขาตอบอะไรกลับไปด้วยเหมือนกัน 

             "ขอโทษด้วยครับ, ที่ผมคงต้องบอกคุณว่า เขาเป็นของผมก่อนที่คุณจะเจอเขาเสียอีก" คิ้วหนาของชายลูกค้าประจำเลิกขึ้นอย่างมีคำถามทันทีที่ได้ฟัง 

             "เป็นมานานเกินกว่าที่คุณจะคาดคิด" คริสเสริม

             "งั้นคุณคงต้องการเปิดศึกกับผมสินะใช่มั้ย?" คนฟังถามอย่างเอาเรื่อง แต่คริสส่ายหน้ากลับไป เขาไม่อยากมีเรื่องกับคนๆนี้จริงๆหรอก เพราะสิ่งที่เขาพูดไปเป็นความจริงทั้งนั้น เขาไม่ได้ปรุงแต่งอะไรเลย

             "หากจะทำศึกกันจริงๆ ยังไงคุณคงไม่ชนะผมหรอกครับ หรือแม้แต่เทียบอายุของคุณกับผม คุณคงเทียบมันไม่ได้แน่ๆ" ไม่ได้จะอวดอ้างสรรพคุณ แต่เขาบอกได้เลยว่าถ้าได้มีเรื่องกันแล้วล่ะก็คนเจ็บคงไม่ใช่เขา

             "นี่ขู่กันเหรอ?" 

             คริสยกยิ้มที่มุมปาก แต่ไม่ได้ตอบอะไรอีกคนกลับไป ชายตรงหน้าควันออกหู หน้าแดงซ่านเพราะว่าความโกรธ แต่ก็ไม่กล้าที่จะมีโทสะกับร่างกำยำตรงหน้า เขาเลยเลือกที่จะลุกหนีไปพร้อมกับความพ่ายแพ้ เถียงคืนไม่ได้ก็ไม่อยากจะอยู่หรอก! แต่อย่าคิดว่าเขาจะยอมแพ้เรื่องของทอม ไม่มีวัน! เขาจะกลับมาอีกในวันพรุ่งนี้

             คริสสัมผัสได้ถึงความไม่ยอมแพ้นั้น แต่เขาไม่ยี่หระ ในเมื่อยังไงเสีย บาเทนเดอร์ร่างบางคนนี้ก็ต้องเป็นของเขาคนเดียวอยู่แล้ว

             'เสน่ห์แรงเหลือเกินนะยอดรัก แม้ในยามที่เจ้าจดจำข้าไม่ได้ก็ยังมีแต่บุรุษมากมายมาเกาะแกะ เห็นทีข้าคงจะปล่อยเจ้าใช้ชีวิตตามลำพังไม่ได้อีกแล้วโลกิ'




                               #MANHATTAN♡




             เข็มนาฬิกาบอกเวลา 'ตีสามสี่สิบห้านาที' ทอมยังคงกลับไม่ถึงบ้าน เขาเลิกงานตอนตีสองสามสิบนาที รถประจำทางหมดแล้วและถึงจะมีแต่เขาก็เลือกที่จะใช้การเดินเท้าแทนการนั่งรอมันอยู่กับที่ตรงป้ายรถเมล์ เดินไปเรื่อยๆตามถนนอย่างที่ชอบทำ ติดอยู่ตรงที่ถนนนี้เงียบสงัด ไร้ผู้คน ไร้แม้กระทั่งรถที่สันจรไปมา ถ้าเป็นผู้หญิงเดินคนเดียวคงอันตรายน่าดู

             เมื่อเดินผ่านตรอกอันมืดสนิทเมื่อกี้มาได้หางตาเขาดันเหลือบไปเห็นสิ่งแปลกปลอมเข้าให้ ร่างบางหยุดเดินก่อนจะถอยหลังกลับสามก้าวด้วยความสงสัย 'ให้ตาย! ทำไมความขี้สงสัยถึงไม่หายไปจากตัวเขาสักที เป็นแบบนี้บ่อยๆไม่ดีแน่' ทอมบ่นตัวเองในใจ

             "หวัดดี!" เขาร้องทัก แต่ในตรอกนั้นกลับไม่มีใคร แล้วเมื่อตะกี้ที่เขาเห็นมันคืออะไร? สาบานได้ว่าเห็นอะไรสักอย่างที่เหมือนกับคนหรือว่าเขาจะตาฝาดไปเอง?!

             "สายตาคุณยังดีอยู่"

             !!!

             "ตกใจหมด! คุณนั่นเอง" ทอมยกมือขึ้นทาบอกตัวเอง เมื่อกี้แอบสะดุ้งแรงตอนที่หันมาเจอกับอีกคนเข้า คนที่จู่ๆก็โผล่มาอยู่ข้างหลังแถมโพล่งขึ้นมาทำเอาตกอกตกใจ 

             "คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ! คุณลูกค้า" ทอมถามออกไปพร้อมกับจ้องหน้าคริสเขม็ง ถ้าเขาหัวใจวายตายขึ้นมาจะทำยังไง

             'ดึกป่านนี้ มาทำลับๆล่อๆอะไรแถวนี้' 

             ทอมอยากสบถดังๆใส่หน้าเขา แต่ทว่าเกรงใจ

             "ผมมารอพบคุณ" คริสตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มน้อยๆ 

             "ผมอยากคุยอะไรกับคุณสักหน่อย แต่เกรงว่าคุณจะไม่สะดวกตอนอยู่ที่ไนท์คลับ นั่นเป็นเวลางานของคุณ" เขาให้เหตุผล

             เกิดมารยาทดีอะไรตอนนี้! ก่อนหน้านี้นึกจะลุกก็ลุกออกไปจากเก้าอี้ที่เคาน์เตอร์เฉยเลย! 

             หลังจากที่ทอมบริการลูกค้าสาวที่มาในชุดเดรสสั้นสีแดงรัดรูปคนนั้นเสร็จ เขาก็หันกลับมาหานายคนนี้ แต่ดันพบเพียงแค่ธนบัตรค่าเครื่องดื่มที่ถูกวางทับไว้ด้วยแก้วเปล่า ไม่ใช่แค่คนๆนี้ ลูกค้าประจำจอมขี้ตื้อก็หายไปด้วยเช่นกัน ตอนนั้นทอมรู้สึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก 

             จนกระทั่งตอนนี้

             "คุยกับผม? เรื่องอะไรครับ" นิ้วเรียวยาวชี้เข้าหาตัวเองและทำสีหน้างงงวยใส่อีกฝ่าย อย่าบอกเชียวนะว่าจะชวนเขาไปนอนด้วยเหมือนลูกค้าขี้ตื้อคนนั้น พ่อจะต่อยให้คว่ำ!

             แต่ประโยคต่อมาที่ได้รับฟังทำเอาความคิดนั้นของทอมถูกพับเก็บไปในทันที

             "ชื่อเดิมของคุณคือ โลกิ ลอฟีย์ซัน ใช่มั้ย?"  

             เกิดความเงียบขึ้นทันทีที่ร่างสูงเอ่ยถามคำถามนี้

              เขารู้ได้ยังไง

             โลกิคือชื่อเดิมของทอมตอนที่เขาอาศัยอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าก่อนจะถูกคุณฮิดเดิลสตันรับมาเลี้ยงดูและตั้งชื่อให้เขาใหม่ว่า ทอม แต่ไม่รู้นามสกุลเดิม ... ลอฟีย์ซัน

             เขานามสกุลนี้เหรอ?

             "คุณรู้มาจากไหน?" คริสไม่ตอบคำถามนั้น เขาเลือกที่จะพูดต่อไป

             "คุณเคยอาศัยอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าบาฮามาสจนกระทั่งอายุได้สิบขวบ ภายหลังคุณถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวอดีตมหาเศรษฐีตระกูลฮิดเดิลสตัน และคุณเป็นเด็กพิเศษที่มีสองเพศ คุณโลกิ... คุณตั้งท้องได้"

             เขารู้!!

             นี่เป็นสิ่งอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับตัวเขา เป็นความลับที่เขาไม่ได้เปิดเผยกับใคร เขารับรู้มันตอนสิบขวบ ตอนที่ครอบครัวฮิดเดิลสตันรับเขาไปเลี้ยง คุณทั้งสองพาเขาไปตรวจสุขภาพและจึงได้พบกับความผิดปกตินี้ เขาในวัยสิบขวบต้องมารับรู้ว่าตัวเองมีสองเพศ สามารถตั้งครรภ์ได้หากมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม ทอมถึงหวงเนื้อหวงตัว และเฝ้ารักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองนัก 

             เพราะถ้าหากเขาเกิดพลาดขึ้นมา อาจได้เดินใส่ชุดคลุมท้องไปไหนต่อไหนให้อายสายตาคนทั้งแมนฮัตตัน

             "คุณเป็นใครกันแน่!"

             "ผมชื่อคริส เฮมส์เวิร์ธ" เขาตอบด้วยท่าทางสบายๆ แต่คนฟังอย่างทอมนี่สิไม่ได้รู้สึกสบายใจขึ้นเลยสักนิด เล่นตอบมาแค่ชื่อ จะรู้เรื่องกันมั้ย!

             "อ้อ , คุณเฮมส์เวิร์ธ คุณรู้เรื่องของผมดีจริงๆ คุณรู้ทั้งหมดนี้ได้ยังไงกัน เรื่องนี้เป็นความลับส่วนตัวของผม มีแค่ผมกับคุณท่านฮิดเดิลสตันทั้งสองเท่านั้นที่รู้ แล้วคุณ - -" ยังไม่ทันที่ร่างบางจะพูดจบ คริสก็เอามือหนามาปิดปากเขาและดันร่างบางเข้าไปยังตรอกมืด ก่อนจะโถมร่างใส่จนหลังบอบบางปะทะเข้ากับข้างกำแพง

             จุก!          

             ทอมบอกได้คำเดียวเลยว่าจุก

             "คุณถามเยอะไปแล้ว" เสียงทุ้มกระซิบชิดกับใบหูของทอมก่อนจะผละออกมาและทำหน้าดุใส่ร่างเล็ก มือหนายังคงทำหน้าที่ปิดปากน้อยๆเอาไว้เหมือนเดิม ทอมไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดจนกว่าเขาจะพูดจบ 

             "ผมตามดูคุณมานานแล้วโลกิ คุณไม่รู้หรอกว่าเรารู้จักกันมาทั้งชีวิต และตราบใดที่คุณยังจดจำผมไม่ได้ ผมจะไม่เล่าอะไรให้คุณฟังทั้งนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผมบอกคุณได้ ณ ตอนนี้ก็คือ คุณต้องทำบางสิ่งให้ผม" มือหนาคลายออก แต่ไม่วายเปลี่ยนมารั้งเอวบางเข้าหาตัว

             ด้านทอมที่พอปากเป็นอิสระ ก็ทำท่าขึงขังใส่คริสทันที มันเรื่องบ้าอะไรที่เขาโดนกระทำใส่แบบนี้ จากคนแปลกหน้าที่รู้จักแค่ในฐานะลูกค้าขาจร

             ผู้ชายคนนี้รู้เรื่องเกี่ยวกับเขาหมดยังไม่พอเขายังทำท่าคุกคามใส่ทอมอีก 

             แบบนี้เขาสามารถฟ้องร้องได้มั้ยนะ! 

             "คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับผมนะ!" ทอมว่าอย่างโกรธๆ 

             "ได้ยินหรือเปล่าคุณ! ผมกำลังถามคุอยู่นะ คุณเป็นคะ..."

             ฟรึ่บบ

             "โลกิ..."

             ร่างบอบบางหมดสติลงทั้งที่ยังพูดไม่จบ          ดีที่ได้แขนแกร่งของคริสรั้งเอวเล็กเอาไว้ ไม่งั้นคงได้ไปกองอยู่ที่พื้น

             "โลกิ" คริสส่งเสียงเรียกร่างไร้สติของทอมอีกครั้ง มีบางอย่างเกิดขึ้นกับคนตัวเล็กแน่ๆ แต่คริสก็สงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นกับทอมได้ไม่นาน เมื่อร่างของสตรีผู้สูงศักดิ์แห่งแอสการ์ดปรากฎกายลงต่อหน้าเขาพร้อมๆกันกับผู้เป็นสวามี

             "ท่านแม่!" 

             ฟริกก้ายิ้มรับคำทักทายของบุตรชาย

             "ธอร์ เจ้ากำลังทำน้องตกใจนะ" พระนางฟริกก้ากล่าวต่อว่าอย่างไม่จริงจังต่อบุตรชาย

             "ท่านแม่ทำอะไรกับโลกิ ทำไมชายาข้าจึงได้สลบไปเช่นนี้?" คริส เฮมเวิร์ธ หรือนามจริงคือ ธอร์ โอดินสัน กล่าวถามพระมารดา มือหนากกกอดร่างเล็กตรงหน้าเอาไว้แนบอก

             "เจ้าทำให้โลกิตกใจ เจ้ากำลังทำให้กระต่ายน้อยๆตื่นกลัวรู้หรือไม่? เจ้าเฝ้าอดทนมองคนรักของเจ้าอยู่ห่างๆมานานแต่ตอนนี้กลับจะทำให้ทุกอย่างที่เจ้าสร้างไว้พังหมด" ฟริกก้าส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายกับความใจร้อนของบุตรชาย

             "แผนการจะได้อุ้มหลานของแม่จะสำเร็จหรือไม่? หากเจ้าใจร้อนเช่นนี้ธอร์" 

             ธอร์ยิ้มเผล่

             "ขออภัยท่านแม่ ลูกแค่ทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว มีบุรุษผู้อื่นมาเกาะแกะเมียลูกท่านแม่จะให้ลูกนิ่งดูดายได้อย่างไร?" ฟริกก้าหัวเราะเบาๆ

             "แม่รู้ว่าเจ้าไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้นหากบุรุษมิดการ์ดผู้นั้นจะทำอะไรกับชายาของลูก ลูกจะปกป้องน้องด้วยชีวิต" ฟริกก้ากล่าวอย่างรู้ถึงจิตใจบุตรชาย

             "จงทำตามแผนเดิมซะธอร์ ให้โลกิมีบุตรกับเจ้า โลกิถึงจะสามารถกลับแอสการ์ดกับเจ้าได้ ทันทีที่ชายาเจ้ากลับถึงที่นั่น พลังแห่งแอสการ์ดจะนำพาความทรงจำของเขากลับมาเอง" โอดินกล่าวเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปรากฎกายต่อหน้าบุตรชาย 

            "เจ้าจะได้รีบกลับแอสการ์ดเสียทีลูกข้า"

            "ลูกจะพยายามท่านพ่อ" ธอร์รับคำ

            "โทษของโลกิครั้งนี้นับว่าเบามาก เทียบกับสิ่งที่ทำหนักหนาสาหัสยิ่งกว่า" โอดินกล่าว

            ธอร์รับรู้ถึงสิ่งที่บิดากล่าวเกี่ยวกับความผิดของชายาตนเอง เดิมทีโลกิคือชายา ของธอร์ บุตรแห่งโอดิน และมีตำแหน่งเป็นบุตรบุญธรรมของท่านพ่อของเขา 

            ธอร์และโลกิรักกันมาก 

            มากเสียจนไม่คิดว่าจะมีวันที่ต้องพรากจากกัน แต่โชคชะตากลับเล่นตลก วันหนึ่งโลกิค้นพบความจริงว่าตนเองเป็นบุตรของราชายักษ์น้ำแข็งแห่งโยธันไฮม์ เขาจึงโกรธโอดินที่ปิดบังเขามาโดยตลอด โลกิลักลอบพบกับพ่อของตนก่อนจะช่วยวางแผนให้พ่อที่แท้จริง เข้ามาช่วงชิงเทสเซอแรคต์จากแอสการ์ด แต่เขาทำไม่สำเร็จ เดสทรอยเยอร์หยุดผู้ลักลอบเข้ามาได้ โอดินรู้เข้าจึงโกรธมาก ส่งโลกิลงมาเกิดเป็นชาวมิดการ์ดโดยกำพร้าพ่อแม่ และให้ธอร์ตามหาโลกิใหม่อีกครั้ง เมื่อพบเจอโลกิเขาจะจดจำธอร์ไม่ได้

            แต่ทว่า การลงโทษครั้งนี้โอดินกลับคิดผิดเพราะคนที่ทรมานนั้นไม่ใช่โลกิ กลับเป็นบุตรชายของตน ธอร์ทุกข์ทรมานใจเพราะความคิดถึงโลกิชายารักเสียจนไม่เป็นอันทำอะไร 

            โอดินเกิดความสงสารจึงบอกกับธอร์ว่า ... จนกว่าธอร์จะมีบุตรกับโลกิในดินแดนมิดการ์ด โอดินถึงจะอนุญาตให้ธอร์พาโลกิกลับมาที่แอสการ์ดได้ และจะคืนความทรงจำให้ด้วย 

           เทพแห่งสายฟ้าจึงเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมา ธอร์ลงมาตามหาโลกิทันที แต่กว่าที่โอดินจะยอมให้ได้ลงมาพบ โลกิก็มีชีวิตใหม่โดยที่ไม่รู้จักเขาไปแล้ว ธอร์จึงคอยตามดูอยู่ห่างๆ จนกระทั่งเขาเริ่มทนไม่ไหวกับการที่ร่างบางต้องมาทำงานที่ไนท์คลับ บุรุษมิดการ์ดมากมายต่างหมายปองคนรักของเขา 

           จากเหตุการณ์การที่บ้านฮิดเดิลสตันล้มละลายโลกิจำเป็นต้องขายรถที่เขาใช้เพื่อซื้อบ้านใหม่ที่เป็นที่อาศัยของเขากับพ่อแม่บุญธรรม เขาต้องเดินกลับบ้านดึกๆหลังเลิกงานทุกวัน ดีที่ธอร์คอยแอบตามดูจนกระทั่งโลกิกลับถึงบ้านอย่างเป็นห่วง

            "ธอร์... ลูกจงพาโลกิไปยังที่พักในมิดการ์ดของลูก แม่เตรียมทุกอย่างไว้ให้เจ้าหมดแล้ว รวมทั้งทรัพย์สมบัติต่างๆแม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลาลูกต้องใช้มัน"
            "ลำบากท่านแม่แล้ว"

            "ไม่เป็นไรลุกรัก เพื่อลูกชายและลูกสะใภ้ของแม่ แค่นี้นับว่าเล็กน้อย เจ้าจงใช้มันให้เกิดประโยชน์ที่สุดนะธอร์" ฟริกก้ากล่าวกับบุตรชาย "แล้วอย่าลืมรีบมีหลานให้แม่" นางย้ำ

            ธอร์พยักหน้ารับคำมารดา

            จากนั้นกษัตริย์โอดินและพระนางฟริกก้าก็อันตธานหายไป เหลือเพียงแค่ธอร์กับโลกิ ชายาของเขาที่นอนแน่นิ่งอยู่ตรงอกของเขา

           "โลกิ..." 

           ธอร์ครางเรียกชื่อคนรักเบาๆ ก่อนจะลูบไล้ใบหน้าสวยหวานที่เขาแสนรัก 

           "ข้าจะพาเจ้าไปยังที่พักของเรา เมื่อเจ้าฟื้นขึ้นมาเจ้าจะพบกับข้าเป็นคนแรก"

           'ข้าจะทำให้เจ้ายอมมีบุตรกับข้าในร่างของ คริส เฮมเวิร์ธนี้ให้ได้ยอดรัก... จากนั้นเราจะได้กลับแอสการ์ดของเรากันเสียที'



    To be continue...

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in