เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Reviewsนอวอรอรอตอพอลอ
The Fall - Movie Review
  • เจ็บสินะ เวลาร่วงหล่นจากที่สูง

    อาจจะเป็นความสูงเชิงกายภาพ แบบตกต้นไม้ ตกบันได ตกจากสะพาน ฯลฯ หรืออาจเป็นความสูงทางอารมณ์ ความรักและความสัมพันธ์เป็นตัวอย่างยอดนิยมที่ใช้กันบ่อย  

    ด้วยเหตุผลบางอย่าง ความเจ็บจึงมักแปรผันตามความสูงเสมอ แผลจากการตกจากระเบียงชั้นสองย่อมไม่อาจสู้กระดูกและกายเนื้อที่แหลกเหลวจากการตกตึกยี่สิบห้าชั้น 

    ความรักก็เช่นกัน ยิ่งรักมาก ย่อมช้ำมากในยามที่ตกลงมา 

    เพิ่งเปิดดู The Fall (2006) หนังสวยๆ จากผู้กำกับ Tarsem Singh ถ้าจำไม่ผิด นี่น่าจะเป็นการดูรอบที่สามในรอบสิบปี รอบแรกที่ดูจากแผ่น VCD ร้านเช่า มัวแต่ตื่นตะลึงในกำกับศิลป์ที่สวยงาม รอบที่สอง สนุกกับการทำความเข้าใจเรื่องเล่าซ้อนเรื่องเล่า

    มารอบนี้ เสียน้ำตาให้กับ "การตก" ของตัวละคร 

    สตั๊นท์แมนอาชีพนามว่า Roy ในบทบาท "ตัวแทนตัวตาย" ของพระเอกยุคหนังใบ้ขาว-ดำ ต้องทำหน้าที่กระโดดจากสะพานสูงลงมาในแม่น้ำเชี่ยวกราก เรื่องราวจริงๆ ของหนังเริ่มขึ้นตอนที่เขานอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ประสาทสัมผัสในส่วนลำตัวท่อนล่างตายด้าน ในทางอาชีพ เขาก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่ตายทั้งเป็น หมดหวังจะหางานใหม่ในโลกเซลลูลอยด์ 

    ในทางอารมณ์ กระโดดสะพานของ Roy เป็นการพิสูจน์อะไรบางอย่างกับคนพิเศษบางคน ในแง่นี้ก็เช่นกัน ความสูญเสียที่เกินจะทำใจ แต่ครั้นอยากตายกลับไม่สามารถช่วยตัวเองได้ "No woman is worth committing a suicide over" เพื่อนร่วมอาชีพเตือนรอยด้วยความหวังดี

    ในโรงพยาบาล มีเด็กหญิงตัวเล็กๆ ชื่อ Alexandria วัยกำลังช่างจินตนาการ ใส่เฝือกแขนที่หักเพราะตกจากต้นส้มในสวน Roy กุเรื่องมาเล่าให้เด็กหญิงฟัง เป็นตำนานมหากาพย์สุดอลังการ ตื่นเต้นลุ้นระทึกของจอมโจรสวมหน้ากากและสหาย มิตรภาพ ความรัก และ ความแค้นต่อ Governor Odius ผู้อำมหิตและต่ำทราม

    Alexandria เป็นเด็กหญิงที่กำพร้าพ่อ ต้องการ Father figure ในชีวิต นิทานมุขปาฐะของ Roy เปิดให้เธอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง ส่วน Roy ที่หมดอาลัยตายอยาก สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือหลับไปตลอดกาล และ Alexandria อาจเป็นประตูไปสู่ความตั้งใจนี้ 

    จนถึงวันที่ทั้งเขาและเธอ "ตก" อีกครั้ง ทั้งทางกายภาพและทั้งทางอารมณ์ ผลของมันขยี้ให้คนดูที่อ่อนไหวเสียน้ำตาได้ง่ายๆ

    แน่นอน ขี้แยอย่างผมเละตุ้มเป๊ะทีเดียวกับการดูในรอบนี้

    ในแง่หนึ่ง หนัง The Fall เป็นภาพยนตร์ที่ผู้กำกับแสดงความคารวะต่อศิลปะการเล่าเรื่องและศิลปะของการทำภาพยนตร์ เขาเล่าเรื่องที่ซ้อนอยู่ในเรื่องเล่าที่ซ้อนอยู่ในเรื่องเล่า (ซ้ำสามครั้งจริงๆ ครับ อ่านไม่ผิดหรอก) ได้อย่างสวยงาม ทั้งในแง่ภาษาภาพและการถ่ายทำ 

    ผมยกให้ The Fall เป็นหนังที่ "สวย" ที่สุดเท่าที่เรื่องหนึ่งที่คนเรามีโอกาสได้ดู ถ้าเทียบเฉพาะความสวยของภาพ ผมยกให้สูงกว่า Pan's Labyrinth เสียอีก และในแง่ข้อความของหนังแล้ว หนังไม่ได้จบหดหู่ขนาด Pan's Labyrinth ที่มีความตายเป็นประตูระหว่างโลกแห่งความฝันและโลกแห่งจินตนาการ 

    แต่ The Fall ชวนให้คนดูตั้งคำถาม ว่าในความโศกเศร้ารันทดนั้น เรามีประตูทางออกอยู่บานเดียวจริงหรือ...

    Movie Credit -  Director: Tarsem Singh | Cast: Lee Pace, Catinca Untaru | DP: Colin Watkinson | Production Design Ged Clarke
    photo cr: DeviantArt  

    เล่าครั้งแรก STL ตค 59
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in