เมื่อเราเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของเรื่องราวของเรา จุดพล็อตที่กว้างขึ้นของเราก็ได้รับการสรุป และเราได้รับบทสรุปที่ดีสำหรับตัวละครข้างเคียงและเรื่องราวของเราด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่ตอนจบของเราทำได้ดีที่สุดคือการเชื่อมโยงธีมและอารมณ์ของเรื่องราว และมอบบางสิ่งให้เรานำติดตัวไปหลังจากละครจบลง



ฤดูใบไม้ผลิ You Are My Spring มักจะดูกระจัดกระจายไปเล็กน้อยด้วยโทนเสียงและโครงเรื่องรอง — เราเคยถูกฆาตกรรมและจิตวิปริตข้างกับการรักษาทางอารมณ์และความโรแมนติกของไอดอล — แต่นั่นเป็นเสน่ห์เพียงครึ่งเดียวใช่ไหม

ในสัปดาห์สุดท้ายของเรา สิ่งต่างๆ ลงตัวในทุกด้าน และมีความรู้สึกถึงตอนจบสำหรับโครงเรื่องและความสัมพันธ์แต่ละรายการ วิธีที่น่าสนใจของเรื่องราวความรักและการฆาตกรรมที่ตัดกันตลอดทั้งละครยังคงดำเนินต่อไปจนถึงจุดจบอันขมขื่น และฉันเหลือความรู้สึกที่ขัดแย้งกันสองอย่าง หนึ่ง ความโรแมนติก + การฆาตกรรมนั้นไม่เข้ากันเลย และทั้งสองแผนก็ขนานกันมากกว่าสิ่งใด และประการที่สอง เนื่องจากพวกมันแตกต่างกันมากและถักทอเข้าด้วยกันอย่างคลุมเครือเท่านั้น พวกเขาจึงกลายเป็นสิ่งที่มีความหมายมากยิ่งขึ้น




ดาจุงและยองโดปีนขึ้นไปบนภูเขาแล้ว และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็หวานและมั่นคง พวกเขาทั้งคู่เป็นผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ใหญ่ แต่ความรักของพวกเขาก็มีความบริสุทธิ์ของเขาด้วยที่มีเสน่ห์จริงๆ สิ่งที่เหลือสำหรับพวกเขาในสัปดาห์นี้คือการขจัดรอยยับเล็กๆ น้อยๆ กับแม่ของดาจุง

แม่ของ Da-jung คุยกับ Young-do ได้น่ารักมาก โดยพื้นฐานแล้วเธอให้ตราประทับการอนุมัติ (ที่สอง) แก่เขา แม้ว่าเขาจะถูกมองว่าไม่ใช่เพื่อนที่แข็งแรง กำลังใจของเธอที่มีต่อเขา และการหัวเราะแบบอาจุมม่านั้นค่อนข้างหวาน แต่ฉันคิดว่าสิ่งที่น่าสะเทือนใจที่สุดน่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนกับลูกสาวของเธอ พวกเขารู้สึกดิบอย่างไม่น่าเชื่อ ละครเรื่องนี้จับอารมณ์ของแม่ที่ต้องยอมรับว่าตอนนี้คนอื่นจะกลายเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตลูกสาวของเธอได้อย่างไร *น้ำตาหยดเดียว*



มันไปโดยไม่บอก แต่ฉันจะพูดต่อไป: You Are My Spring เก่งในฉากที่เขียนอย่างสวยงามและค่อนข้างละเอียดอ่อน (เพราะไม่มีคำที่ดีกว่า) ระหว่างตัวละคร ฉันรู้สึกสนุกที่ตัวละครของเราแต่ละคนมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในแบบที่เราไม่คาดคิด และจริงๆ แล้ว วิธีการที่ไม่สำคัญขนาดนั้น (ในแง่ของโครงเรื่อง) มันสุ่มหรือเหมือนชีวิตมาก? ฉันคิดว่ามันเป็นอย่างหลัง


อันที่จริงแล้ว นั่นคือสิ่งที่เรามาถึงเมื่อละครเชื่อมโยงข้อความสุดท้าย: อย่าใช้ชีวิตโดยเปล่าประโยชน์ เพื่อจดจำว่าคนสำคัญแค่ไหน การตระหนักว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ เพียงอย่างเดียวอาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตของใครบางคน ไม่แน่ใจว่าละครเรื่องนี้สร้างซีเควนซ์ของคนแปลกหน้าแบบสุ่มๆ ที่มีพลังมากพอที่จะทำให้ฉันอยากจะร้องไห้ออกมาได้อย่างไร แต่มันก็เป็นเช่นนั้น


แม้ว่าในสัปดาห์สุดท้ายจะมีพล็อตเรื่องไม่มากนัก แต่การผูกสัมพันธ์ที่สำคัญก็เกิดขึ้น เช่น ดาจอง (โอ้ ตลกมาก) ที่รู้ว่าอึนฮากำลังออกเดทกับน้องชายคนเล็กของเธอ หรือความรักที่แท้จริงของแพทริกที่มีต่อกายองทำให้เขา เพื่อเปิดเผยและเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อสาธารณะ (หมายเหตุด้านข้าง: ฉันรักคู่นี้มากฉันต้องการละครรองเกี่ยวกับพวกเขา)

แล้วก็มีเอียน เชส และเรื่องราวด้านฆาตกรรมทั้งหมดของเรา ละครเรื่องนี้วาดด้วยจังหวะที่ค่อนข้างกว้าง ฉันคิดว่าเรื่องราวเกี่ยวกับองค์ประกอบทางจิตวิทยาและอารมณ์มากกว่าข้อเท็จจริงที่ยากของคู่แฝดซึ่งอยู่ที่ใด และในฉากใด อย่างไรก็ตาม ฉันปล่อยให้เนื้อเรื่องนี้ค่อนข้างพอใจเช่นกัน



Ian ได้แจ้งความกับตำรวจในทุกเรื่อง และถึงแม้เขาจะไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาก่ออาชญากรรม แต่การเดินทางภายในของเขาดูมีความหมายมากขึ้นสำหรับเรื่องนี้ เอียน เชสเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับแจชิกและยุยงให้มีการฆาตกรรม เขายังเป็นคนที่กลับมาเกาหลีและพบน้องชายของเขา ซึ่งเป็นช่วงที่การคอสเพลย์ของพวกเขาเริ่มต้นขึ้น


ได้รับการยืนยันแล้วว่าชเวจองมินผู้น่ารักตั้งแต่แรกเริ่มที่เราอยากจะไว้วางใจนั้นน่าจะคุ้มค่าที่จะไว้วางใจ ฉากที่มืดและน่าขนลุกที่เขาเผชิญหน้ากับ Young-do เช่น Ian Chase คอสเพลย์น้องชายของเขา ความยุติธรรมอาจไม่พบเขา แต่เขาค้นพบความจริงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นสำหรับตัวเขาเองในขณะที่เขาทำงานผ่านความชอกช้ำของเขา เขาบอกน้องชายของเขาด้วยเสียงพากย์ว่า “ฉันเป็นเงา ไม่ใช่คุณ."


ในขณะที่ฉันอาจจะวิพากษ์วิจารณ์ในสัปดาห์สุดท้ายได้มากขึ้น ซึ่งเหมือนคนส่วนใหญ่ รู้สึกเหมือนเป็นปาร์ตี้ PPL แบบปิดท้ายครึ่งทาง แต่ฉันกลับพบว่าตัวเองกำลังลังเล ฉันเคารพในสิ่งที่ละครเรื่องนี้สามารถทำได้ทั้งในเชิงเทคนิคและทางอารมณ์ อันที่จริงฉันไม่แน่ใจว่าเคยมีละครที่นำความเข้าใจทางอารมณ์และหัวใจในระดับนี้มาไม่ใช่แค่ตัวละครรองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวละครข้างเคียงอีกมากมายด้วย

และแน่นอนว่ายังมีบทพูดคนเดียวที่สวยงามของ Young-do ที่เราทิ้งไว้ในตอนท้าย เขาปิดการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในรายการวิทยุและมีคำพูดที่น่ารักสำหรับผู้ที่ดิ้นรนและผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก บทของเขาดำเนินไปอย่างช้าๆ เมื่อเราเห็นพวกเขาแสดงออกมาในเรื่องราวต่างๆ ของเรา และดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบในการยุติการรายงานข่าวของละครเรื่องนี้เช่นกัน