เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
the showki universtaxxn
eye contact [ rmc ]
  • " เขาว่ากันว่าดวงตาของคุณเป็นคำสาป " 





    ผมไม่ชอบสบตาใคร - หมายถึงผมไม่ค่อยชอบการที่ถูกจ้องหรือจ้องเองต่างหาก มันรู้สึกอึดอัด ทำตัวไม่ถูก จนสึกรู้ถึงเหงื่อที่ไหลตามมือ บางที่มันก็น่ารำคาญน่ะ ..ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงใช้ชีวิตแบบปกติได้ก็แล้วกัน 

    แต่อาการนี้ผมไม่ได้เป็นกับทุกคนไปเสมอหรอกกับเพื่อนมันก็ปกติดี ยกเว้นคนแปลกหน้ามากๆหรือคนที่ดูน่ากลัว อ่า จริงสิ ผมมีอีกคนที่เป็นข้อยกเว้นแหล่ะ 



    ซน ฮยอนอู 




    หมอนี่เป็นเพื่อนร่วมห้องของผมแท้ๆ เขามีลักษณะที่ตัวสูงใหญ่ ไหล่กว้างอย่างกับนักเลง มันคงดูดีไม่น้อยจนคนต้องหันมองใช่มั้ยล่ะแต่มันไม่ใช่กับผมเลย ผมไม่ชอบมองหน้าฮยอนอูเสียเท่าไหร่ ครั้งสุดท้ายที่ผมมองหน้าเขาคงจะเป็นตอนที่ผมออกมาแนะนำตัวตอนมอสี่มั้ง 

    ตอนนั้นมันเปรี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นและเขินอายที่ผสมกันไป ผมพยามสบตากับเพื่อนทุกคนในห้อง พยายามทำความรู้จักผ่านทางสายตา แต่ครั้นตอนเผลอไปสบตากับฮยอนอูที่เขานั่งอยู่หลังห้อง หัวใจกลับเต้นสั่นจนผิดปกติ เหงื่อไหลตามขมับและซอกนิ้วของผม  

    ผมคิดว่ามันก็แค่อาการของคนที่ตื่นเต้น แต่มันไม่ใช่อย่างที่ผมคิดเอาไว้เลย เพราะผมสามารถสบตากับเพื่อนในห้องได้เห็นอย่างดีและเป็นปกติทุกอย่าง ยกเว้นแค่ผู้ชายที่ชื่อ ซน ฮยอนอู  

    เขาชอบทำให้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ จนน่ารำคาญ  






    " เฮ้ย ชื่อกีฮยอนปะ "  อ่า ให้ตายสิใครกันที่กล้ารบกวนเวลานอนกลางวันของผมกันนะ " เปี๊ยกตื่น " เสียงที่ผมค่อนข้างคุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง หวังว่าไม่ใช่อย่างที่ผมคิด  ผมเงยหน้าจากการซุกแขนตัวเอง ก่อนจะเลื่อนสายตามองเจ้าของเสียงนั่น   

    ตึก ตัก ตึก ตัก  

    ผมเผลอไปสบตาฮยอนอูเข้า 

    ผมจะตายมั้ยนะ


    " กูถามว่าชื่อ กีฮยอน ใช่ปะ " เขาที่ยื่นอยู่เหนือโต๊เรียนยื่นหน้าเข้ามาใกล้กว่าเดิม " อ่า .. ระ เราเอง " เสียงของผมสั่นคลอนความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าจนรู้สึกถึงความชื้นเหงื่อใต้ไรผม เมื่อฮยอนอูได้คำตอบที่พึ่งพอใจ เขาผละใบหน้าออกไป ก่อนจะลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างผม  

    " ฮยอนอู.. มี มีธุระอะไรกับเรา" ผมเสหน้ามองออกนอกหน้าต่างทางจะมองใบหน้าและดวงตาของอีกคน 

    " ' เรา ' อ่อ ? " 

    " .. " 

    " หน่อมแน้ม สัด " 

    " มีธุระอะไรก็ว่ามาดีกว่านะ " ผมทำใจตอบโต้เขาโดยพยามไม่ทำให้เสียงตัวเองสั่น เสียงมันไม่สั่นหรอก แต่ใจผมเนี่ย 

    "  โหดจังวะ - อ่ะๆ อาจารย์เขาให้จับคู่ทำงานฟิสิกส์" 

    " .. อือ "  จริงสิผมลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงกัน ถึงอย่างงั้นเถอะผมยังไม่มีคู่เลยนิ อย่างงี้ไม่ได้ดิกีฮยอน  ในระหว่างที่ผมกำลังคิดกับตัวเองอยู่ เสียงหัวเราะแผ่วดังขึ้น เดี๋ยว ฮยอนอูต้องรู็แน่เลยว่าผมยังไม่มีคู่ ให้ตายสิๆๆๆ 

    " คู่กับกูดิ "  

    " อะ .. เอ่อ.. " ผมอำอึ้ง  ตัวเลือกที่อีกคนเสนอมาผมทำใจไม่ถูก อยู่ดีๆความร้อนก็เริ่มแผ่ซ่านไปทั่วตัวอีกครั้ง ผมมั่นใจนะว่านี่เป็นฤดูใบไม้ผลิ และมั่นใจได้ว่าเหตุผลท่ี่ผมเป็นเช่นนี้มันไม่ใช่อากาศหรอก 

    เพราะฮยอนอูล้วนๆเลย 

    " ว่าไง ? จะคู่กับกูมั้ย ์? "  ไม่หรอก มันคงมีคนที่ยังไม่มีคู่อยู่แน่ๆ 

    " เพื่อนได้คู่กันหมดแล้ว " ฮยอนอูต้องอ่านใจผมได้แน่ๆเลย ถึงงั้นเถอะ ตอนนี้ผมอยากร้องไห้ ทำไมผมต้องมาคู่กับคนที่ผมไม่อยากคู่ด้วยล่ะเนี่ย 

    " ถ้างั้นมันคงไม่มีทางเลือกแล้วล่ะ " สุดท้ายผมต้องยอมจำนนเขา เหมือนฮยอนอูจะยิ้ม ผมไม่รู้หรอกจนถึงตอนนี้ผมยังไม่ได้มองหน้าเขาสักนิด ได้แต่มองกุมมือตัวเองที่ประสานกันวางอยู่บนตัก 

    " เออดีมาก" เขาทำเสียงอย่างพึงพอใจ ทั้งห้องกลับมาเงียบอีกครั้ง จะว่าไงผมก็เพิ่งรู้ว่นี่มันบ่ายโมงและผมเองได้ทำการโดดคาบแรกในภาคบ่ายไปแล้ว 

    เฮ้อ 

    ผมถอนหายใจออกมา ความเงียบที่เป็นเครื่องมั่นใจได้ว่าอีกคนน่าจะลุกออกไปแล้ว แต่เพื่อความแน่ใจผมจึงหันกลับไปมอง  

    ใจผมมันเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว ..  ผมต้องตายแน่ๆ 

    ฮยอนอูยังคงอยู่ที่เดิม และเขามองมาทางผม ผมทำสิ่งที่ต้องห้ามกับผู้ชายคนนี้คือการ สบตา .. 

    ราวกับโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ ผมหายใจไม่ออก เหงื่อเริ่มผุดขึ้นมาอีกครั้ง แต่เขายังคงจ้องมาที่ผมอย่างพิจารณา แต่แล้วเสียงทุ้มของเขาทำให้ผมพ้นจากความคิดตัวเอง 

    " ถามจริง เป็นอะไรรึเปล่าทำไมถึงไม่ชอบสบตากู ..ไม่ดิ มึงไม่มองกูเลยด้วยซ้ำ " ไม่มีคำตอบให้คนอย่างนายหรอกนะฮยอนอู 

    " ป่าว.. " ผมโกหกออกไป ขื่นให้ผมบอกไปว่าผมมักใจสั่นเสมอเมื่อเจอหน้าเขา หมอนนี่คงหัวเราะแนาอนอน 

    " โกหก" เขาทำน้ำเสียงคาดโทษ ส่วนผมน่ะหรอทำได้แค่มองไปทางอื่นอีกนั้นแหล่ะ จะอะไรก็ตามแต่ผมไม่อยากหัวใจวายโอเคนะ 

    " เราป่าวจริงๆนะ " ผมปฏิเสธเสียงอ่อน 

    " ถ้างั้นมองหน้ากูดิ " เฮ้ย  เดี๋ยว - 

    ฮยอนอูลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ ก่อนจะเดินตรงและมาหยุดตรงหน้าของผม ด้วยส่วนสูงของเขาทำให้อีกคนต้องโน้มตัวลงมา ใบหน้าของเขาเริ่มเข้าใกล้ลมหายใจอุ่นเป่ารดใบหน้า เสี้ยววินาทีที่ีผมรู้สึกตัวมันกลับไม่ทัน ปลายจมูกของเราสัมผัสกันแล้ว 


    มืือไม้มันเริ่มชา ผมไม่รู้เลยว่าตอนนี้ผมทำหน้าแบบไหน  ส่วนไหนของร่างกายขยับบ้างรึเปล่า ส่วน
    ฮยอนอูน่ะหมอนี่ยังคงจ้องเขามาในแววตาของผม 

    " เขินกูอ่ะดิ ถึงไม่กล้ามองหน้า " เขาพูดก่อนจะผละตัวออกไป ผมได้แตาทำตาปริบๆพยามเรียกสติคืนกลับมา เมื่อกี้เขาพูดว่าอะรไนะผมไม่ได้ฟังมันเลย 

    " เห้ย ได้ยินปะ " 

    " อะ.. ห๊ะ ว่าอะไรนะ?.." 

    " กูถามว่าเขินกูหรอ " 

    " ไม่ๆ .. " 

    " หรือมึงชอบกู " 

    ห๊ะ..? .... ไร้สาระน่าหมอนนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ อยู่ๆดีก็พูดอะไรออกมา ผมนี่นะจะชอบฮยอนอู  บ้า หมอนี่ก็แค่คนที่ทำให้ผมใจเ้ตนไม่เป็นจังหวะเท่านั้นเอง 



    ว่าไป .. หัวใจบ้า!! เป็นอะไรอีกแล้วเนี่ย! 


    " ใครจะไปชอบนายกัน " 

    " มึงไง ไม่ชอบมองหน้ากู แถมยังหน้าแดงขนาดนี้ .. หัวใจคงเต้นไม่เป็นจังหวะอ่ะดิ " 

    " .. " ผมว่าหมอนี่เข้าใจผิดกันไปใหญ่เล้วล่ะ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบสิ ใครบ้าจะไปชอบคนที่ทำให้ตัวเองเกือบใจวายน่ะ ไม่มีหรอก

    " อ่ะๆ โอเค เอางี้ดีกว่า กูไม่กวนล่ะ แต่กูมีคำถาม "

    " ว่ามาสิ " 

    " มึงเป็นไรรึเปล่า ทำไมมึงไม่เคยมองหน้ากูสักครั้งเลยวะ นี้จะจบมอห้าล่ะ เพิ่งได้มาคุยกันครั้งแรก "

    " .. "  แล้วอยากได้คำตอบแบบไหนล่ะพ่อคุณ ถึงงั้นก็เถอะ เฮ้! ช่วยเอาหน้าออกสักทีได้ปะเนี่ย !! ฮือออ 

    " กูไปทำอะไรให้มึงไม่ชอบเปล่า " ไม่รู้ๆๆๆ แต่ออกไปสักทีเถ๊อะะะ 

    "ก็เปล่า .. " 

    " เหตุผล?" 

    " .. " 

    " โอเค ไม่เป็นไร " ดูเหมือนว่าฮยอนอูที่ไม่ได้คำตอบความจริงจากปากผมทำท่าทีจะลุกออกไปอย่างผิดหวัง เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างน่าเสียดาย 

    " เดี๋ยว! คือ.. " ในช่วงที่ีเขาจะลุกออกไปกลับกลายเป็นว่ามือของผมไปรั้งชายเสื้อนักเรียนเข้า 

    " คือ?" ฮยอนอูหันกลับมามองผม ไม่ๆ ผมไม่ได้มองเขาหรอกนะ แต่เสียงที่ดังขึ้นมันทำให้รู้ว่าเขาอยู่ตำแหน่งใด 

    ผมถอนหายใจออกมา พยายามรวบรวมสติที่มีประมวลผลคำพูดที่จะสารภาพกับคนตัวสูง โอเค - ผมจะพยายามไม่ตื่นเต้น 

    " วะ เวลาเราสบตานายแล้วหัวใจเรามันเต้นผิดปกติมากๆ เหงื่อมันเริ่ม .. เริ่มไหล เรา.. " 

    " .. "

    " เราไม่ชอบที่มันเป็นแบบนี้ความรู้สึกมันเหมือนโดนสาป ก็เลย ตัดสินใจว่าจะไม่มองหรือสบตานาย" 

    " ที่ทำไปเพราะไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไรใช่ปะ " หมอนี่ถามอะไรแปลกๆ ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้ฟังกันเลยรึยังไง 

    " ก็นายไง " 

    " อ่า .. " 

    " อะไร?" 

    " ที่ไม่กล้าสบตากู เพราะว่ามึงชอบกู" 

    " อยากหายปะล่ะ ? คบกับกูสิ "

    " ห๊ะ.. " 

    " แต่ไม่เป็นไรหรอก กูก็ชอบมึงเหมือนกัน "



    เดี๋ยวดิ - หมอนี่มันพูดบ้าไรวะ!! 







    // พล๊อตหลุดโลกมากค่ะ 5555 นั่งเคลียร์ไฟล์อยู่ดีๆ ก็เจอไฟล์นี้เข้า 555 บังเอิญมาก ภาษาเขียนก็คือแบบ ฮือออออออ อาย ทำไมตอนนั้นถึงเขียนแนวrmcได้อ่ะ ตอนนี้แต่งอะไรหวานๆๆไม่ได้แล้ว บาปฮือ  
    รู้สึกว่าจะแต่งไว้เมื่อประมาณสองปีที่แล้วนะคะะ 

    อ่า! สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณรีดเดอร์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ รักส์ : ) 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in