เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryBlack_wire
ผีใน ม.วลัยลักษณ์ เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริง

  • โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


    1.ผียายแก่ที่อาคารเรียนรวมหนึ่ง : อาคารเรียนรวมหนึ่งเป็นอาคารที่ใช้การเรียนการสอนไม่ได้ ต้องปิดตายทั้งอาคารมาเป็นเวลานานแล้ว เนื่องจากสาเหตุใดก็ไม่ทราบ นักศึกษาหลายรุ่นไม่ทราบ รุ่นน้องถามว่าทำไมเค้าไม่มีเรียนที่รวม 1 บ้าง กลางคืนจะไม่มี รปภ.เฝ้า แม่บ้านก็ไม่ไปทำความสะอาด จนสืบสาวราวเรื่องจากบุคลากรมหาวิทยาลัย พีๆ รุ่นแรกๆๆ ให้คำตอบว่า เมื่อก่อนที่ดินตรงนี้ที่สร้างรวมหนึ่งนั้น เป็นบ้านของยายคนหนึ่งอายุ ก็มากแล้ว เจ้าหน้าที่มาเวนคืนที่ดินเพื่อใช้สร้างมหาลัย แต่ยายแก่บอกว่าไม่ได้ เพราะแกอยู่มานานแล้ว ไม่ให้ จนยายแกตายไปด้วยโรคชรา ก่อนตายแก สาปแช่งไว้ว่าที่ดินตรงนี้ของบรรพบุรุษ ใครจะเอาไปทำอะไรไม่ได้ ขอให้ใช้การใช้งานไม่ได้ แล้ว ม.วลัยลักษณ์ก็สร้างอาคารเรียนรวม 1 แต่เมื่อเปิดใช้สอนนักศึกษา ปรากฏว่า สอนไม่ได้ เนื่องจาก คอมพิวเตอร์เสีย แอร์ไม่ทำงาน พัดลมระบายอากาศหมุนเองโดยไม่ได้เปิด ไฟฟ้าตกและดับบ่อยเวลาสอน เรียกว่าสื่อการเรียนการสอนใช้งานไม่ได้เลย และเมื่อเข้าห้องน้ำเปิดก๊อกน้ำล้างหน้าก๊อกที่ 2 แต่ปรากฎว่าก๊อกที่5 ก็มีนำไหลออกมาด้วย มีเสียงร้องไห้ และลมพัดเย็นมากในเวลากลางคืนใกล้อาคารรวมหนึ่ง ปัจจุบันยังคงปิดตาย ไม่มีนักศึกษาเข้าใกล้ สภาพเก่าแก่ลงมาก

    2.โค้งผีดุ : เรื่องมีอยู่ว่ามีนักศึกษารุ่นที่ 2 ของ มวล.แหกโค้งตาย ขับรถชนกับต้นไม้เมื่อหลายปีก่อน กับเพื่อนกลับมาจากเลี้ยงฉลองกันหลังจากสอบเสร็จ และเมามาเต็มที่ คนขับตายแต่คนนั่งซ้อนท้ายรอด เลยหลังจากนั้นโค้งเฮี้ยนนี้มีเรื่องพิสดารเคยเกิดขึ้นบ่อยมาก เช่น เมื่อขับรถจักรยานยนต์ ผ่านจะเกิดเหตุรถดับ น้ำมันหมด สตาทร์รถไม่ติด หรือยางระเบิด ล้อแบนตรงหัวโค้งนั้นทันที หรือถ้าปั่นจักรยานก็โซ่จักรยานหลุด เคยเกิดเหตุกับอาจารย์คนหนึ่งแก เล่าให้ฟังว่า แกขับรถกลับมาจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ประมาณ ตี 2 กว่าๆๆ แล้วมาถึงโค้งนั้นแกเห็นรถจักรยานยนต์ขับตัดหน้าแก สภาพรถเก่ามากแล้ว ไม่มีไฟท้ายและไฟหน้ารถ ขับมา1 คน เร็วมาก แล้วพอผ่านโค้งนั้นแกมองทางกระจกก็ไม่เห็นมีใครขับรถมาสักคัน จึงเอะใจ มาถามนักศึกษา เลยรู้ว่าโดนผีหลอก

    3.คนงานพม่าสร้าง มวล. : ตกตึกอาคารศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษาดับสยอง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับน้องปี 1 ที่เข้ามาใหม่ คือ อาคารศูนย์บรรณฯ แห่งนี้มีแรงงานพม่ามาก่อสร้างเมื่อครั้งก่อตั้ง มวล.คนงานตกตึกตาย ด้านหน้าอาคารพอดี เลยรุ่นพี่เล่าให้น้องฟังว่า หลังเวลาเที่ยงคืนเป็นต้นไป ก่อนเช้าถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปศูนย์บรรณฯแห่งนี้ และที่สำคัญอย่าไปเลี้ยวรถ หรืออย่าหันหน้าไปมองบนหลังคาอาคารแห่งนี้ เพราะถ้าเกิดจุดรัศมีตรงกันจะเกิดมองเห็นมีคนนั่ง หรือยืน หันหลัง เป็นเงามืด อยู่บนหลังคาแห่งนี้

    4.ทางลอดหอหนึ่ง : ตอนเข้าไปเรียน เราได้อยู่หอหนึ่งค่ะ หอของเราจะมีทางลอดไปที่หอประชุม พอมองลอดโถงหอประชุมก็จะเห็นหอดูดาว ถ้ามองจากประตูหอเราจะมองเป็นเส้นตรงเลย พี่ยามแกบอกว่าสมัยก่อนนี้มันเฮี้ยนหนัก เพราะตามหลักเขาบอกว่ามันเป็นประตูผี ยามคนก่อนๆมาอยู่ได้ไม่กี่คืนก็ขอย้ายไปหออื่น เพราะเวลาดึกๆ ประมาณตีสองตีสาม จะมองเห็นคนเดินลอดสะพานมา แล้วพอมาใกล้ๆ ดันไม่ใช่คน เพราะบางครั้งมาแบบท่อนล่างไม่มี หรือว่ามาแต่ตัวไม่มีหัว เขาเลยก่ออิฐขึ้นมาขวางเป็นรูปสี่เหลี่ยมยกสูงไม่มาก ระหว่างตัวสะพานกับทางมาหอ เห็นว่าเป็นการแก้เคล็ด ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่มีอะไรโผล่มาอีก

    5.ห้องสมุดตึกอาจารย์ : ตอนปีหนึ่งช่วงที่มีกีฬาเฟรชชี่ ปีหนึ่งต้องขึ้นแสตน ก็ต้องไปซ้อม ซึ่งสถานที่ที่รุ่นพี่นัดจะเป็นห้องสมุดตรงบันไดด้านตึกของอาจารย์ ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นซ้อมใหญ่ก่อนแข่งหนึ่งวัน รุ่นพี่ของอีกเอกก็มาดู ตอนนั้นเห็นว่าแกเดินถอยหลังไปเพื่อที่จะดูให้ชัดแล้วก็หน้าซีด แต่ก็ไม่พูดอะไร เพราะกลัวน้องตกใจ ตีหนึ่งกว่าๆ รุ่นพี่ก็ปล่อยกลับ
    เราก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับกับเพื่อนที่อยู่หอเดียวกันนั่งกันสามคน แล้วระหว่างทางมันต้องผ่านโรงอาหาร
    ในตอนนั้นเรากับเพื่อนเห็นเงาดำๆ โบกมือเหมือนขอติดรถไปด้วยจากในโรงอาหาร เพื่อนก็ถามว่า เฮ้ย จอดไหม เราก็เออ อาจเป็นรุ่นพี่ แต่พอขี่เข้าไปใกล้ๆ กลับไม่มีใครเลย พอรู้อย่างนั้นเราบิดกลับหอทันที
    หลังจากแข่งเสร็จรุ่นพี่แกก็มาบอกว่าวันนั้นแกเห็นผู้ชายสามคนตัวสูง ผิวดำแดง นุ่งผ้าแดง ถือดาบยืนอยู่ทางด้านหลัง

    6.ตึกกายภาพ : เรื่องกลุ่มสัมพันธ์ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้รับน้อง ตอนนั้นพี่เมทเล่าให้ฟังว่าเป็นเรื่องของกลุ่มสองที่นัดน้องไปรับธงที่ตึกกายภาพ ที่มีอาจารย์ใหญ่อยู่ รุ่นพี่ที่เป็นประธานจะเข้าไปซ่อนตัวในตึกแล้วให้น้องเข้าไปหา น้องก็เข้าไป หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ก็บ่นว่ารุ่นพี่แกล้ง แล้วก็มีคนถือธงเดินมา ถามว่าจะเอาธงนี่ใช่ไหม รุ่นน้องก็ตอบว่าใช่แล้วก็รับมา พอเดินออกมาที่หน้าตึกก็เจอรุ่นพี่ประธานยืนหน้าซีดอยู่
    รุ่นน้องก็ถามว่า พี่ออกมาตอนไหนกัน แล้วธงนี่พี่เอาไปซ่อนที่ไหน รุ่นพี่ไม่ตอบแต่ถามว่า เอาธงมาได้ยังไง รุ่นน้องก็บอกว่าคนที่รออยู่ในตึกเอาให้ รุ่นพี่ก็บอกว่า ไม่มีคนอยู่ในตึก เขาออกมากันหมดแล้วกลัวอาจารย์ใหญ่กัน เท่านั้นแหละ วงแตก

    7.สระดาว : เป็นเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับการลองดี เขาบอกกันว่า ถ้าวนรอบสระดาวสามรอบแล้วก้มลงมองลอดหว่างขาจะเจอ
    แล้วตอนรับน้องมีคนหนึ่งไม่เชื่อก็พูดเสียงดังว่า กุไม่เชื่อหรอก หลอกกันเฉยๆ หลังจากทำกิจกรรมที่สระดาวเสร็จก็พากันไปส่งน้องแต่ละหอ คืนนั้นน้องคนนั้นก็เจอทันที โดนอำขยับตัวไม่ได้ พอลืมตาก็เห็นว่าโดนคล่อมอยู่
    ก็หลับตาสวดมนต์ทันที แต่กลับโดนตวาดใส่ว่า กุไม่เอา แข่งกับเสียงสวดมนต์ จนเช้าน้องคนนั้นทำเรื่องลาออกทันที เพราะอยู่ไม่ได้

    8.หอหญิง : เราได้น้องเมทเป็นอิสลามสองคน คนหนึ่งเรียนมอปลายโรงเรียนพุทธ อีกคนเรียนโรงเรียนอิสลาม
    คนที่เรียนโรงเรียนอิสลามมันบอกว่ามันชอบเจอเรื่องแปลกสมัยเรียน เวลามันขี้เกียจตื่นมาละหมาดตอนเช้า จะมีใครบางคนมาปลุกให้ตื่นเพื่อนทำละหมาด พอเราขึ้นปีสามเราก็ย้ายออกไปอยู่หอนอก วันหนึ่งมันมาเล่าให้ฟังว่า ตอนกลางคืนช่วงหลับๆตื่นๆ มีผู้ชายอิสลามมาคุยด้วย หอหญิงนะ เราก็คิดว่า เออมันอำรึเปล่า ก็ลองถามว่าคุยเรื่องอะไรกันบ้างล่ะ มันก็บอกว่า เค้าบอกว่าห้องนี้ดีนะ อยู่สบาย ใครๆก็อยากมาอยู่ มันบอกจำได้แค่นี้ แล้ววันหนึ่ง พี่เมทอีกคนของมันก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนเห็นเงาอะไรไม่รู้ข้างเตียงน้องเมทเรา เพราะเตียงน้องเมทจะมีโต๊ะอ่านหนังสือ แล้วนางเอาเก้าอี้มาวางโทรศัพท์เวลาชาร์ต พี่แกเล่าว่าเป็นเงาดำๆ พยายามที่จะนั่งที่เก้าอี้แต่ก็นั่งไม่ได้ เพราะว่ามันมีโทรศัพท์

    9.ตึกหนึ่ง : วันนั้นไปส่งงานกับเพื่อนตอนเที่ยงคืน ห้องของอาจารย์อยู่ชั้นสอง และยามจะปิดไฟจนมืด
    เราก็ส่องไฟไปกับเพื่อน เมื่อถึงห้องเราก็ส่องไป เพื่อนก็ส่งงาน ก้มลงไปวางที่กล่องหน้าห้อง ตอนที่กำลังวางเพื่อนอีกคนก็สะกิด ว่าเสร็จยังไปเถอะ เพื่อนมันก็รีบๆวาง พอมาถึงหอก็ถามว่ามีอะไร มันก็บอกว่า ห้องข้างๆของอาจารย์แกน่ะ ตรงกระจกประตูห้อง กำลังแนบหน้ามองอยู่เลย...

    10.หอใน : เนื่องจากมอเราเรียนสามเทอม ช่วงปิดเทอมแรกเพราะบ้านไกลเลยไม่ได้กลับ แล้วในหอเหลือคนแค่ไม่กี่ห้อง เพื่อนเราที่อยู่หออื่นก็มานอนด้วย วันหนึ่งตอนสองทุ่มเราก็ได้ยินห้องข้างบนเลื่อนเก้าอี้ เสียงเหมือนลูกแก้วตกเด้งบนพื้น แล้วก็เสียงคุยกันเป็นภาษายาวี ดังนานมาก ตอนเช้าเราจะออกไปโรงอาหารก็เจอเพื่อนที่อยู่ห้องข้างบนและเรียนเอกเดียวกันยืนอยู่หน้าหอพอดี เราก็ถามว่าเมื่อคืนมีอะไรกันเหรอ ได้ยืนเสียงคุยกันทั้งคืน เกิดอะไรขึ้นมันก็ตอบเปล่านะ เราพึ่งกลับมาจากบ้าน แล้วเพื่อนเมทน้องเมทก็กลับหมดเลย ไม่มีใครอยู่ห้อง แล้วใครเลื่อนเก้าอี้ล่ะเมื่อคืน ไหนจะเสียงคุยกันอีก อีกเรื่อง น้องเมทเพื่อนเราเอกภาษาจีน ไม่รู้ไปเรียนวิชาเลือกอะไรมา ต้องทำแบบสอบถาม น้องเค้าเลยจะมาถามเรา วันนั้นเราอยู่คนเดียวในห้องปิดม่าน ปิดไฟเพดาน เปิดแต่ไฟโต๊ะอ่านหนังสือ ประมาณ ห้าโมงเย็นมั้ง น้องก็มาเคาะห้อง เราก็มาปลดล็อกประตูให้แล้วกลับมาที่เตียง น้องก็เปิดประตู แล้วก็ปิดดังปั้ง เรารีบลุกขึ้นไปดู เปิดประตูออกไปก็เจอน้องยืนหน้าซีดอยู่ เราก็ถามว่าเป็นไร น้องถามว่าเมื่อกี้พี่เปิดประตูให้หนูไหม ก็ตอบอือ พี่เปิดเอง แล้วทำไมไม่เข้ามา น้องบอกว่าพี่อยู่ตรงไหนตอนมาเปิด ก็ตอบว่าเตียงเท่านั้นแหละ น้องบอกทำข้างนอกได้ไหม เราก็ถามทำไมเหรอ น้องบอกว่า หนูเห็นผู้หญิงชุดขาวผมยาวนั่งอยู่หน้าโต๊ะที่เปิดไฟ

    11.ผีหัวขาด : เรื่องที่อยากจะเล่าก็ คือ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เรื่องคนหัวขาดเนี่ย คือ ได้ลองไปแอบถาม พี่ยามคนที่อยู่มานานแล้ว พี่ยามหอ 4 ซึ่งแกอยู่มานานสมัยที่ มหาลัยเพิ่งสร้างเลยทีเดียว อยากรู้ว่าเรื่อง ผีหัวขาดเนี่ย มันมีจริงเหรอ แกเล่าให้ฟังดังนี้.สมัยก่อนนั้นตอนเริ่มสร้าง พี่ยามหอ 4 แกเป็นยามอยู่หน้า หอประชุม 1500 แล้วตอนนั้นหน้าหอ 1 มีการก่อสร้างอยู่ ตรงทางลอดใต้สะพานนั้น จะมีรั้วเหล็กกั้นสำหรับไม่ให้รถผ่าน แต่คนในชุมชน(น้องคงรู้ว่า มหาลัยเราอยู่ร่วมกับชุมชน) จะสามารถเข้าออกได้ แล้วหน้าหอ 1 บริเวณจตุรัสแดงนั้น มีเสาไฟฟ้า เสาปูน วางอยู่ระเกะระกะ คราวนี้ มีอยู่คืนนึง แกบอกว่า ขณะที่แกยืนยามอยู่ ได้ยินเสียงมอเตอไซด์(ของคนในชุมชน) ขับ แว๊น มา ทางใต้สะพานแล้วก็ได้ยินเสียง เลื่อนรั้วเหล็ก หลังจากนั้นก็ เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด โครม ! พี่ยามได้ยินเสียงดังสนั่น แกรีบวิ่งไปดู ปรากฏว่า รถไปทาง คนไปทาง นอนนิ่งสนิท ที่สำคัญ "หัวขาด" ครับ คือ แกซิ่งมอไซด์ขณะเมา แล้ว แว๊นไปเสยกับเสาปูนแถวๆนั้น คอขาดกระเด็น !!! ตายคาที่ พี่ยามหอ 4 แกบอกว่าเห็นคาตาเลยว่าตายคาที่จริงๆ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in