ในค่ำคืนที่ฝนโปรยปรายตกกระทบกับพื้นคอนกรีต ยังคงมีเสียงส้นรองเท้าเหยียบย่ำลงบนแอ่งน้ำสาดกระเซ็นใส่ชายขากางเกงจนชื้นแฉะ
ในมหานครที่ไม่เคยหลับไหล ผู้คนยังคงเดินสวนกันไปทั่วทุกมุมเมือง ร้านกาแฟแห่งหนึ่งพึ่งได้แขวนป้ายเปิดร้าน 'open' ในขณะที่ร้านกาแฟหลายแห่งกลับหมุนป้ายเป็น ' closed'
ธาริต หรือธาร เด็กหนุ่มวัยรุ่น หน้าตาสะอาดหมดจด แววตาสดใสเปล่งประกายตรงกันข้ามกับสภาพอากาศข้างนอกร้านอย่างเหลือร้าย มือสีขาวเหลืองซีดกำลังทำหน้าที่ปัดกวาดเช็ดถูทุกโต๊ะ เก้าอี้ และพื้นในร้านด้วยความตั้งใจและจดจ่อกับมัน จนไม่รู้ตัวว่าลูกค้าคนแรกได้ปรากฏตัวขึ้นในคืนที่ฟ้ายังครึ้มเมฆครึ้มฝนอยู่เช่นนี้
นาฬิกาบนผนังเข็มสั้นชี้ไปที่เลข 10 เข็มยาวกำลังเคลื่อนไปถึงเลข 6 แขกผู้มาเยือนยืนเหม่อมองเมนูหน้าเคาน์เตอร์ด้วยไม่รู้ว่าต้องสั่งเมนูอะไรดี เพราะปกติไม่ใช่คนเข้าร้านกาแฟหรือคาเฟ่อะไรแบบนี้เลยสักกระผีกเดียว เสื้อโอเวอร์โค้ทสีน้ำตาลปล่อยยาวจนคลุมเข่าและกางเกงผ้ากำมะหยี่สีดำข้างในเองก็
มีสภาพชื้นแฉะจนเขารู้สึกไม่สบายตัวเอาซะเลย
ชีวิตคนเราก็คงเป็นเช่นนี้ ต่อให้นั่งฟังข่าวพยากรณ์อากาศเป็นประจำ ก็ใช่ว่ามันจะพยากรณ์ถูก100% แต่เมื่อเช้าที่เขาได้นั่งฟังข่าวนั้นก็ยังคงครุ่นคิดไม่ตกคือข่าวพยากรณ์อากาศคืนนี้จะเย็นสบาย นี่ก็เย็นสบายมากเลยไม่ใช่เหรอ แต่มันก็ถูกเพียง 50% เห็นจะได้เพราะผู้ประกาศข่าวเองก็ไม่ได้บอกใบ้ให้สักหน่อยว่าฝนจะตกกระหน่ำขนาดนี้ อากาศ 30 องศานั่นเขาก็ลืมคิดว่าโอกาสที่ฝนฟ้าคะนองน่ะ ก็เป็นไปได้สินะ
เผลอแป๊บเดียวในหัวก็มีแต่เรื่องข่าวพยากรณ์อากาศเติมไปหมด ดึงสติได้อีกทีก็มีมือบางๆมาปัดป่ายตรงหน้าเข้าซะแล้ว
"จะรับอะไรดีครับ " นั่นสิ ปัญหาคือเขาเองก็ไม่รู้จะรับอะไรดีนี่แหละน่า
" เอาเป็นโกโก้ร้อนไหมครับ..คุณเปียกมาทั้งตัวน่าจะได้ดื่มอะไรร้อนๆนะ " เจ้าของร้านหนึ่งเดียวที่ถามลูกค้าพร้อมกับถือวิสาสะรวบรัดคำตอบเอาเองหลังจากที่ดูลูกค้าคนแรกยืนเหม่อมองเมนูเป็นเวลานาน หรือแม้แต่อาการอ้ำอึ้งจะตอบก็ตอบออกมาเป็นภาษาพูดไม่ได้ เดาเอาก็คงรู้ว่าไม่ค่อยมาสถานที่อะไรแบบนี้
" ถ้างั้นก็..รบกวนด้วยนะครับ " ลูกค้ารายแรกจ่ายเงินด้วยการแสกนคิวบาร์โค้ดหน้าเคาน์เตอร์เสร็จสรรพเรียบร้อย ธาริตบอกให้เขานั่งรอชั่วครู่ แล้วตนจึงหันหลังขวับคนผงโกโก้ให้เข้ากันและกดน้ำร้อนใส่จนควันกรุ่นส่งกลิ่นโกโก้ลอยหวนเข้าไปเตะเข้ากับจมูกคนที่บังเอิญได้สั่งมันเข้า
" คุณลูกค้าชื่ออะไรครับ "
" ผมต้องบอกชื่อด้วยเหรอ "
" มันเป็นนโยบายทางร้านที่ต้องเขียนชื่อใส่แก้วน่ะ..แต่ตอนนี้ไม่มีลูกค้าคนอื่นคุณไม่ต้องบอกก็ได้นะ "
" อ้อ จรจรัล [จอ-ระ-จะ-รัน] พลาธร " ธาริตกำลังจรดปลายปากกาข้างแก้วกลับชะงักกึกปนขำเอ็นดูลูกค้ารายแรกที่บอกชื่อและนามสกุลเต็มยศ
" ขอชื่อเล่นได้ไหมครับ "
"จรครับ"
" ครับ คุณจร โกโก้ร้อนได้แล้วครับ "
ธาริตยื่นโกโก้ร้อนที่พันด้วยทิชชู่อีกสองทบกันความร้อนให้กับคุณจร หลังจากนั้นตนก็ทำหน้าที่ทำความสะอาดอุปกรณ์และจัดเก็บมันไว้ให้เข้าที่
ไม่มีอะไรผิดแปลกเกิดขึ้นในวันนี้ ธาริตรู้ดีว่าหน้าฝนมาเยือนแต่ละครา ร้านของตนนั้นแทบจะไม่ค่อยมีคนเข้ามาสั่งเครื่องดื่ม อาจจะมีเข้ามาบ้างประปรายเพียงเพื่อหาที่หลบฝนเหมือนกับคุณจร
แต่นี่ก็จะเลยห้าทุ่มแล้วนะ ยังไม่เห็นมีใครเข้ามาร้านเขาสักคน นอกเหนือจากคุณจรที่นั่งลงตรงมุมหนึ่งของร้าน เขายกโกโก้ร้อนอึกสุดท้ายขึ้นดื่มด้วยความเงียบเชียบ พลางวางแก้วลงบนโต๊ะโดยไร้เสียงกระทบของแก้ว สายตาเรียวเฉียบมองมาปะทะเข้ากับสายตาธาริตที่จับจ้องเขาอยู่พอดี
" ขอโทษนะ แต่ช่วยรอฝนซาอีกหน่อยแล้วผมจะไปทันทีเลยครับ
" คุณจรนั่งได้ตามสบายเลยครับ คุณจรสั่งเครื่องดื่มจากทางร้านแล้วนี่ครับ "
"ไม่ได้หรอก..แบบนั้นนะ ผมรู้สึกแย่จะตาย"
"ว่ายังไงนะครับ?" ประโยคสุดท้ายคุณจรเผลอลดเสียงงึมงำกับตัวเองโดยที่ธาริตเองก็ได้ยินไม่ถนัด แต่ถึงแบบนั้นธาริตก็ยังย้ำกับเขาว่าจะนั่งนานแค่ไหนก็ได้
จวบจนนาฬิกาของร้านล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืนของวัน ฝนฟ้าก็ได้หยุดลงในที่สุด จรจรัลนั่งเอาแขนเท้าคางมองหน้าค้างที่ขึ้นฝ้ามัวๆเพราะถูกหยาดฝนกระเซ็นซัดใส่ ในที่สุดเขาก็จะได้กลับบ้านเสียทีสินะ จรจรัลลุกขึ้นเตรียมเดินออกไปจากร้าน แต่ในชั่วขณะนั้นเขากลับหยุดยืนมองเจ้าของร้านที่นั่งคอพับคออ่อนที่หน้าเคาน์เตอร์ แพขนตาเรียงตัวกันสวยจนปกปิดแววตาทอประกายที่จรจรัลเคยสบตลอดเวลาที่นั่งอยู่ภายในร้านแห่งนี้
จรจรัลไม่กล้าปลุกให้เจ้าของร้านตื่นขึ้นมาเพียงเพื่อมารับรู้การจากไปของตนนัก เพราะเขาเองก็รู้สึกผิดอยู่เนืองๆที่การมาของเขาทำให้กิจการของคนนอนหลับซบเซาในค่ำคืนแห่งนี้
เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะจรัลเป็นเพียงชายหนุ่มที่ไร้ตัวตนในยามพลบค่ำมาเยือนอย่างไรเล่า ไม่ว่าเขาจะตกลงปักหลักอยู่สถานที่แห่งหนใด ที่แห่งนั้นมันก็มักจะล่องหนไปตามตนของเขาเสียอย่างนั้นเอง
'ขอโทษนะครับ
คุณจร '
ลายมือตวัดถูกเขียนลงบนกระดาษโพสต์อิทใบเล็ก เขาเลื่อนมันเข้าไปใต้ฝ่ามือของเจ้าของร้านที่ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาในยามนี้
" ขอโทษนะครับ สั่งเครื่องดื่มหน่อยค่ะ "
เสียงการมาของลูกค้าคนใหม่ของร้านดังขึ้นพาลให้เข้าไปในโสตประสาทปลุกเจ้าของร้านที่หลับไหลให้ตื่นขึ้นอย่างฉับพลัน
"ครับ รับอะไรดีครับ " ธาริตรับออเดอร์ลูกค้าอย่างกระฉับกระเฉงไร้เสียงงัวเงียเป็นปลิดทิ้ง
ธาริตเผลอหันมองไปรอบๆร้าน ลูกค้ารายแรกของเขาก็เป็นอันตรธานหายจากร้านของเขาไปอย่างไร้ร่องรอย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in