เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
2018 ROAMING AROUNDA 24-HOUR TALE
มิวนิคแบบอิงฮิสตอรี่
  • 27 มีนาคม 2561
    MUNICH 2nd time !

    ....ก็เป็นอีกปุปปัปทริป เรียกได้ว่าแทบจะวิ่งไปขึ้นเครื่อง บรีฟฟิ่งไม่ต้องเข้า นั่งรถตู้ไปที่เครื่อง ขึ้นเครื่องพร้อมผู้โดยสารเลยทีเดียว คือจริงๆแล้วเราได้หยุด 1 วันหลังไฟลท์คัลคาต้า (ที่รูปขึ้นราไปแล้ว) ระหว่างที่กำลังนอนเล่นกำลังจะหลับ อยู่ดีๆโทรศัพท์บ้านดัง บริษัทก็โทรมาถามว่า "ไปมิวนิคมั้ยยูววว?? ได้เดย์ออฟเพิ่มวันนึงนะ ช่วยบินให้หน่อยสิ"  คิดอยู่ 2 นาที ให้เค้าถือสายรอไป สรุปกับตัวเองว่า ไปสิคะ รออะไรล่ะ!  (ไฟลท์ลอนดอนของข้าจะได้หายไป อิ) จากแพลน Hampton Court ที่ London ก็กลายเป็น MUNICH RESIDENCE เฉยเลยยย 

    เราอยากไป Munich Residence ตั้งแต่ตอนไปมิวนิคครั้งแรกช่วงปลายมกราที่ผ่านมา แต่แพลนล่มเละเทะเพราะไม่ได้นอนก่อนไปบิน เลยได้แต่วนอยู่ใน Marienplatz เราเลยอดไป

    EK051 ออกจากดูไบ 16:30 น. ถึงมิวนิคตอน 21:00 น. พร้อมนอนมาก

    เช้าวันต่อมา เราตื่นเร็วมากกกกกกก ตื่นเร็วจนต้องเดินลงไปยิม ออกกำลังกายได้ 1 ชม. ขึ้นมากิินเบรคฟาสต์ (ที่เลิศมากกก) อีกแพรพนึง ไป supermarket ได้อีก สรุปว่ากว่าจะเสร็จทุกอย่างก็เกือบจะ 10 โมงเช้า 

    เนื่องจากปวดขาค่ะ ก็เลยนิสัยเสียกด Uber ไปข้างหน้าเลย อย่าทำตาม ไม่กล้าเช็คด้วยว่ากี่ยูโร 

    แต่เราไปหาวิธีไปมาให้ทุกคนแล้วค่ะ ตามลิ้งนี้ไปได้เลย 
    เค้าอธิบายไว้ละเอียด ทั้งทางบัส tram หรือจะ subway 
    Max-Joseph Denkmal at Max-Joseph-Platz
    แล้ว uber ก็มาปล่อยเราตรงวงเวียนใหญ่ๆ ที่มีชื่อว่า Max Joseph Platz จากที่ไปถามอากู๋ เค้าบอกว่า บุคคลตรงกลางคือ King Maximilian Joseph 
    ตึกเหลืองๆด้านซ้ายในรูปเหมือนจะเป็นห้าง ด้านหน้าของรูปปั้นคือบ้านของชนชั้น Middle class ด้านขวาก็จะเป็น Munich Residence ส่วนด้านหลังรูปปั้นคือ National Theatre ตามรูปด้านล่าง (ถ้าใครอยากช๊อป Balenciaga และ Chanel ร้านอยู่แถวนั้นเลยค่ะ)
    National Theatre

    อ่ะๆ เข้าเรื่องดีกว่า เกริ่นไปเกริ่นมาไม่ถึงที่ซะที .....

    ก็เป็นทางเข้าที่เพลนพอตัว ตอนแรกที่ลงจากรถมาก็งงๆว่า ยังไงต่อว่ะเนี่ย จนมาสะดุดกับป้ายครึ่งวงกลมแดงๆ  3 ป้าย บนประตู ก็เลย อ่อออ ที่นี่แหละนะ 

    ถ้ามองจากด้านนอก เราจะตัวเล็กไปเลย แน็ตก็คิดว่า เออก็ใหญ่ตามประสาวังอ่ะ ข้างในไม่น่าอะไรมั้ง หึหึ ตามมาค่ะ เดินขาลากอย่บอกใคร เด๋วจะมาเฉลยว่าใช้เวลาอยู่ในนั้นนานเท่าไหร่ตอนท้าย 

    เดินตรงเข้าไปจากประตูทางเข้าด้านใน ตรงเข้าไปอีกจะเจอร้านขายของที่ระลึกซึ่งซื้อบัตรได้ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ค่ะ ที่นี่จะมีบัตร 5 แบบ คือ 
    Reference: http://www.residenz-muenchen.de/englisch/tourist/admiss.htm
    อธิบายยากเหลือเกิน ขอแปะสกรีนชอตล่ะกันเนอะ ซึ่งแน็ตได้ราคา reduced นะคะ แน็ตซื้อแค่บัตรเข้า Residence Museum เพราะ ดู treasury ไม่เป็นอยู่ดี เนื่องจากที่นี่ใหญ่มาก ใหญ่กว่าที่เห็น มันแบ่งเป็นหลายๆส่วน ตามที่เห็นจากการแยกบัตรเข้าชม 
    ที่นี่ไม่มีไกด์พานำเที่ยวนะคะ พอเราซื้อบัตรเสร็จเนี่ยก็จะออกมาเจอเคาน์เตอร์ด้านซ้าย ให้เราไปเอา Free Audio Guide มีหลายภาษามากเช่น เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาเลียน เป็นหลายภาษาที่แน็ตไม่เข้าใจก็ขอ English มาค่ะ ข้อดีของที่นี่คือ การที่เราจะเดินไปไหนเองก็ได้ ไม่ต้องตามไกด์ จะหยุดถ่ายรูปตรงไหนก็ได้แค่ห้ามใช้แฟลช 

    เสร็จจากเคาน์เตอร์รับเครื่อง free audio guide ก็หันไปทางขวาจะเจอกับทางที่งงๆว่านี่คือ starting point หรอ เพราะมันคือราวแขวนกระเป๋า จริงๆแล้วพอเดินเข้าไปใกล้ๆถึงจะเห็นว่ามันเป็นจุดฝากกระเป๋า เค้าไม่อนุญาตให้เราเอากระเป๋าเข้าไปค่ะ แน็ตเอาแค่กล้องกับไอโฟนแล้วก็ free audio guide เข้าไป

    ต่อจากนี้ไปแน็ตขออนุญาตไม่เรียงลำดับเหตุการณ์นะคะ เพราะมันใหญ่มากจนแน็ตก็จำไม่ได้ว่าเดินไปถึงห้องไหนก่อนหลัง แล้วก็ขอออกตัวไว้ก่อนว่า แน็ตจะไม่แทรกประวัติศาสตร์อันใดเยอะแยะ เนื่องจากแน็ตไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ของเยอรมันหรือชาติแถวๆนั้นเลยค่ะ เด๋วจะผิดพลาด ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม research เองน่าจะแม่นกว่าค่ะ 

    เอาเป็นว่าใครที่เคยดู series อารมณ์แบบ The Crown, Reign, Versailles หรือ The Tudors ก็จะอินมากกกว่าคนทั่วๆไป สาบาน เพราะเราดูมาครบทุกเรื่องเลย 55555 
    highlight ของที่นี่ (สำหรับแน็ต) คือ ประตูซ้อนประตูซ้อนประตูที่มีให้เห็นอยู่รอบวังค่ะ คือแต่ละห้องก็จะมี function ต่างๆกันไป มันจะต่างจากบ้านเราที่ห้องต่างๆจะติดริมหน้าต่าง ไม่ก็แต่ละห้องจะไม่ตีทะลุกันตลอดแนว อย่างมากก็เป็นแค่ ทางเดินด้านนอกแล้วค่อยมีประตูเข้าไปในแต่ละห้อง ที่นี่คือแบบที่เห็นในหนังค่ะ ผ่านไปห้องแรก ห้องรับแขก ห้องอ่านหนังสือ ห้องเลี้ยงลูก ห้องนอน ห้องแต่งตัว คือกว่าจะเดินถึงห้องนอนก็เห็นหมดว่าเชื้อพระวงศ์หรือแม่บ้านข้าราชบริพารเค้าทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่ เค้าคงมีระบบของเค้าแต่อย่างที่บอกแน็ตไม่มีเวลาจดละเอียดค่ะ จำอะไรไม่ได้เลยดีกว่า เดินๆถ่ายๆฟังๆอย่างเดียว 
    อีกเรื่องนึงที่สะกิดใจแน็ตมากคือความสูงของเตียง รูปด้านบนนี้คือเตียงเด็กค่ะ นั่นคือสูงพอสมควรเกือบถึงเอวแน็ตเลย (แน็ตสูง 173 ซม.ค่ะบายเดอะเวย์)
    เตียงผู้ใหญ่คือทำแน็ตชอคไปเลย แน็ตก็ยืนเทียบความสูงของเตียงกับตัวแน็ตจริงจัง ตัวที่นอนนี่จะเท่าระดับลิ้นปี่แล้วค่ะ เมื่อก่อนเค้าปีนกันยังไง หรือคนเค้าตัวสูงมากๆ แต่โดยปกติคนเยอรมันก็สูงมากจริงๆ คนสูง 2 เมตรคือเรื่องปกติ แน็ตนี่แคระไปเลย อีกอย่างคือ เตียงดูไม่นุ่มด้วยซ้ำ ปวดหลังแทน 

    เนื่องจากที่นี่เคยใช้เป็นทั้งที่พำนัก ที่ว่าราชการ มันก็เลยจะมีหลายส่วนมากๆ นอกจากพื้นที่ส่วนพระองค์ก็ยังมีท้องพระโรง แต่เล็กกว่าที่คิดไว้ ห้องกระจกก็ยังมีแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา ไม่อยากถ่ายให้ติดตัวเอง มันกระจกรอบด้านจริงๆ โบสถ์หรือโรงละครก็ยังมี

    แน็ตแพลนไว้ว่าจะอยู่ในนั้นมากสุด 2 ชม. ปาเข้าไปเกือบ 3 ชม.แหนะ นี่ขนาดเร่งตอนสุดท้ายเพราะกลัวกลับไปนอนไม่ทันเพราะบินกลับคืนนั้นเลย ถ้าจะชมที่นี่แบบละเอียดมากๆ เผื่อเวลาไว้แบบครึ่งวันเลยค่ะ เช่น 9 - 12 น. ไปเลย ไม่ก็บ่าย 1 - 4 ไปเลย ครบแน่นอน เพราะแน็ตเดินแบบฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ถ่ายรูปกับอ่านป้ายเอาซะส่วนใหญ่

    ขอบอกก่อนว่าใครมีปัญหาขาเดินลำบาก เข่าเสื่อม เตรียมตัวมาให้ดีจ้า บันไดเยอะ วนไปวนมา เดินเท่าไหร่ก็ไม่เห็นทางออกซักที ที่นี่เค้าจัดระบบดีมาก เค้าเอาให้มั่นใจว่าเราจะได้ดูทุกซอกทุกมุม ถ้านั่ง wheelchair มาก็เข้าได้น้า ถ้าจำไม่ผิดเค้ามีคนเข็นให้ แต่เค้าต้องมาเข็นให้ จะไปกันเองไม่ได้ บันไดเยอะมากจริงๆ 

    ยังมีรูปอีกเยอะมากที่ลงมากกว่านี้เพจน่าจะไม่โหลด แต่อยากให้ไปสัมผัสเองนะ อินมากเว่ออออออ 

    ลาไปด้วยรูปที่คนทักว่าแต่งตัวตีมแฮร์รี่พอตเตอร์หรออออ ??? 
    จะเอาอะไรกับคนที่มีเวลาจัดกระเป๋า 10 นาทีคะ ? คิดคอสตูมไม่ทันค่ะ 5555 

    เดือนพฤษภาคมก็มีไฟลท์มิวนิคโผล่มาอีกแล้ว 
    อาจจะ #cafehoppingmunich ก็เป็นได้ 

    อย่าลืมติดตามกันนะคะ :)

    fb page: www.facebook.com/a24hourtale
    instagram: @ppakti
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in