เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี ? แนะนำ 6 ยี่ห้อโบท็อกยอดนิยม ที่ผ่าน อย.ไทยarticle_beauty
ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี ? แนะนำ 6 ยี่ห้อโบท็อกยอดนิยม ที่ผ่าน อย.ไทย
  • โบท็อกยี่ห้อไหนดี เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับคนที่กำลังสนใจฉีดโบท็อกเพื่อลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และยกกระชับใบหน้า ซึ่งในปัจจุบันมีโบท็อกหลายยี่ห้อที่ได้รับการรับรองจาก อย. ไทย แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติและจุดเด่นที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะมาแนะนำ 6 ยี่ห้อโบท็อกยอดนิยมในปี 2024 ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย และได้คุณภาพมาตรฐาน เหมาะกับการเลือกใช้ ติดตามอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ

    สารบัญ โบท็อกยี่ห้อไหนดี

    - 1. Allergan (โบท็อกอเมริกา)

    - 2. Dysport (โบท็อกอังกฤษ)

    - 3. Xeomin (โบท็อกเยอรมัน)

    - 4. Neuronox (โบท็อกเกาหลี)

    - 5. Nabota (โบท็อกเกาหลี)

    - 6. Aestox (โบท็อกเกาหลี)

    - สรุปเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี ?

    1. Allergan (โบท็อกอเมริกา)

    หากพูดถึง โบท็อกยี่ห้อไหนดี ที่มีมาตรฐานระดับโลก Allergan คือโบท็อกจากอเมริกาที่เป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจมายาวนาน Allergan ใช้สาร Botulinum Toxin AType A สายพันธุ์ Hall A-hyper ซึ่งมีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ทำให้โอกาสดื้อยาน้อยลง นอกจากนี้ยังเป็นแบรนด์ที่ผ่านการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา

    - ข้อดี : ความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ช่วยให้ผลลัพธ์แม่นยำและผลลัพธ์อยู่ได้นาน กระจายตัวแคบ เหมาะกับการฉีดลดริ้วรอยเฉพาะจุด เช่น ตีนกา ระหว่างคิ้ว และการยกกระชับกรอบหน้า

    - ข้อเสีย : ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น

    - เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและแม่นยำ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการขยับบ่อย

    2. Dysport (โบท็อกอังกฤษ)

    หากมองหา โบท็อกยี่ห้อไหนดี ที่ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติต้องบอกเลยว่า โบท็อกยี่ห้อ Dysport จากอังกฤษอาจเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีการกระจายตัวกว้าง เหมาะกับการฉีดในบริเวณกว้างหรือลดริ้วรอยในจุดที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ จึงเหมาะกับการฉีดลดกราม หน้าผาก และยังสามารถนำมาปรับรูปหน้าด้วยเทคนิค Dermolift เพื่อยกกระชับได้อีกด้วย

    - ข้อดี : การกระจายตัวกว้าง ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ลดการสะสมของตัวยาในจุดเดียว

    - ข้อเสีย : อาจไม่เหมาะกับจุดที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น รอบดวงตาหรือมุมปาก

    - เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ในบริเวณกว้าง เช่น หน้าผาก ลดกราม หรือลดต้นแขน

    3. Xeomin (โบท็อกเยอรมัน)

    สำหรับคนที่กำลังมองหา โบท็อกยี่ห้อไหนดี ที่ช่วยลดโอกาสการดื้อยา โบท็อกยี่ห้อ Xeomin จากเยอรมนี ผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีการผสมผสานข้อดีของโบท็อก Allergan และ Dysport ทำให้การกระจายตัวของยามีลักษณะคล้ายโบท็อกอเมริกา และที่สำคัญ ไม่มีโปรตีนเสริม ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการดื้อยา จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่เคยมีปัญหาดื้อโบท็อกมาก่อนและต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

    - ข้อดี : ความบริสุทธิ์สูง ช่วยลดโอกาสดื้อยา ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

    - ข้อเสีย : ใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เห็นผลเต็มที่

    - เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และผู้ที่มีประวัติดื้อโบท็อก

    4. Neuronox (โบท็อกเกาหลี)

    หากกำลังมองหา โบท็อกยี่ห้อไหนดี ในงบประมาณที่คุ้มค่า Neuronox เป็นโบท็อกจากเกาหลีที่ได้รับการยอมรับและมีคุณภาพใกล้เคียงกับ Allergan แต่ราคาย่อมเยากว่า ใช้ Botulinum Toxin Type A สายพันธุ์ออริจินัล ทำให้ผลลัพธ์ออกมาใกล้เคียงกับโบท็อกอเมริกา มีความบริสุทธิ์สูง ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและผลลัพธ์อยู่ได้นาน

    - ข้อดี : ความบริสุทธิ์สูง ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและคุ้มค่า โอกาสดื้อยาน้อย

    - ข้อเสีย : ให้ผลลัพธ์อยู่ได้น้อยกว่า Allergan

    - เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยในราคาประหยัด เช่น หน้าผาก ระหว่างคิ้ว รอยตีนกา

    5. Nabota (โบท็อกเกาหลี)

    ถ้าอยากทราบว่า โบท็อกยี่ห้อไหนดี ที่เห็นผลไว โบท็อกยี่ห้อ Nabota ผลิตโดย DAEWOONG ประเทศเกาหลี เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา มีความบริสุทธิ์สูงและออกฤทธิ์ไว เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์รวดเร็วและผลลัพธ์อยู่ได้นานในราคาย่อมเยา

    - ข้อดี : ออกฤทธิ์เร็วและให้ผลลัพธ์ที่ผลลัพธ์อยู่ได้นาน

    - ข้อเสีย : ผลลัพธ์อาจอยู่ได้สั้นกว่า Allergan เล็กน้อย

    - เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วน ในราคาย่อมเยา เช่น รอยย่นหน้าผาก ริ้วรอยรอบดวงตา

    6. Aestox (โบท็อกเกาหลี)

    หากยังมองหาว่า โบท็อกยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับคนไทย โบท็อกยี่ห้อ Aestox จากเกาหลีผลิตโดย Hugel Inc. เป็นโบท็อกที่ได้รับการรับรองจาก KFDA (เกาหลี) และ TH FDA (ประเทศไทย) มีความบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์ไว เหมาะกับการใช้ลดริ้วรอยในจุดที่ต้องการความแม่นยำ โดยมีการวิจัยร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช ทำให้เหมาะกับคนไทย

    - ข้อดี : มีความบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์ไว ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

    - ข้อเสีย : ผลลัพธ์อยู่ได้น้อยกว่าโบท็อก Allergan

    - เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการลดกราม ลดริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก หรือใช้ลดเหงื่อและน่อง

    สรุปเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี ?

    เมื่อต้องตัดสินใจเลือก โบท็อกยี่ห้อไหนดี ควรพิจารณาจากคุณสมบัติของแต่ละยี่ห้อ เช่น ความเข้มข้นของโบทูลินั่มท็อกซิน ระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่ได้ รวมถึงลักษณะการกระจายตัวของยาในจุดที่ฉีด ดังนั้น จึงควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงก่อนฉีด เพื่อให้แพทย์แนะนำยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสม และตรงกับความต้องการ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและมีความปลอดภัยค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in