บ้านไม้ริมน้ำแปดริ้วเก่าคร่ำคร่า หลังคาสังกะสีขึ้นสนิมผุพัง เพดานสีทึมทึบค้างคาวอยู่กันยั้วเยี้ย บรรยากาศวังเวงน่าสะพรึงกลัว ใต้ถุนบ้านรองรับด้วยเสาไม้เก่าๆผุๆเต็มไปด้วยตัวเพรียงที่คอยกัดกินเสา น้ำในแม่น้ำบางฤดูจะขุ่นบางฤดูจะใสเพราะมีทั้งน้ำเค็ม6 เดือน น้ำจืด6เดือน สัตว์น้ำกุ้งหอยปูปลาชุกชุม ปลาเสือลายเหมือนเสือชอบพ่นน้ำพุ่งปรี๊ดผ่านร่องพื้นกระดาน ส่วนปลาแขยงจะชอบไปว่ายเวียนอยู่แถวบริเวณหน้าส้วม ซึ่งทำอย่างง่ายๆเพียงแค่เจาะไม้กระดานเป็นร่อง ปลาแขยงจะไปรอกินเหยื่ออย่างโอชะซึ่งมีอยู่ตลอดทั้งวัน
เดือนสิบสอง น้ำนองตลิ่ง บางครั้งน้ำท่วมเกือบถึงพื้นบ้าน กลางดึกคืนนั้นท่ามกลางความเงียบ มีแต่ความวังเวง ฉันได้ยินเสียงของแข็งกระทบกันใต้ถุนบ้านก็รีบไปคว้าไฟฉายดวงเล็กๆมาส่องดู ภาพที่เห็นโอ้โห...อะไรกันนั่น ศพกำลังขึ้นอืด ตาเหลือกถลน ลิ้นจุกปาก นอนบวมอึดทึ่ด ดันโลงแทบแตก ฉันพยายามที่จะละสายตาแต่มันทำไม่ได้จริงๆ เหมือนกับถูกล็อคเอาไว้ สักพักสติคืนมาร้องเรียกพ่อลั่น พ่อรีบไปหาไม้ยาวๆมาเขี่ยโลง แต่มันก็ไม่เคลื่อนไหว คงเบียดอยู่กับพื้นกระดานเสียงดังกึงกังๆตลอดทั้งคืนที่พวกเราจำเป็นต้องอยู่ตรงนั้น เพราะไม่มีที่ไป ต้องรอให้ถึงรุ่งเช้าจนน้ำลดลงมากพอสมควรจึงจะเขี่ยโลงศพออกพ้นไปจากใต้ถุนบ้าน เฮ้อ! โล่งอกไปที ต้องทนอยู่ในภาวะน่าสะพรึงกลัวเกือบทั้งคืน ถามว่าโลงศพมาจากไหน คำตอบคือวัดแหลมใต้ซึ่ีงตั้งอยู่ริมแม่น้ำ มีการฝังศพไว้มากมายเป็นเวลาเนิ่ินนานปี ต่อมาน้ำเซาะตลิิ่งพังไปเรื่อยๆ จนโลงศพหลุดลอยไปตามน้ำ ทักทายเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงกันถ้วนหน้า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in