เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Check in CanadaLittle P
ตะลุย "Victoria" ยุโรปในแคนาดาตะวันตก
  •         แคนาดาฝั่งตะวันตกไม่ได้มีดีแค่แวนคูเวอร์อย่างเดียว แต่ยังมี "วิกตอเรีย (Victoria)" ด้วย เพราะมีสถานะเป็นเมืองหลวงของรัฐบริติชโคลัมเบีย (British Columbia) อันโด่งดัง ซึ่งเมืองนี้จะอยู่บนเกาะที่แยกตัวจากแผ่นดินใหญ่ 

        มนต์เสน่ห์ของวิกตอเรียที่ทำให้แตกต่างจากแวนคูเวอร์คือ "กลิ่นอายของสถาปัตยกรรมยุโรป" ที่หาไม่ได้จากประเทศแถบอเมริกาเหนือ (ถ้าไม่นับเมืองทางตะวันออกของแคนาดาอย่างพวกออตตาวา ควิเบก หรือมอนทรีออล) เพราะอย่างแวนคูเวอร์จะมีชื่อเสียงด้านธรรมชาติเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์และสงบสุขสโลว์ไลฟ์

           ต้องบอกก่อนว่าช่วงที่เราไป คือ ช่วงหน้าร้อน (มิ.ย-ส.ค) กับใบไม้ร่วง (ก.ย-พ.ย) ของแคนาดา ซึ่งมีบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป ในช่วงหน้าร้อน อากาศจะอบอุ่น เย็นลงบ้างตอนกลางคืน ส่วนช่วงใบไม้ร่วง อากาศจะทึม ๆ + มีฝนตก แต่ก็มีฟ้าใสแดดออกบ้างในบางวัน ถ้าถามว่าควรไปฤดูไหน อืม...คงแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เพราะแต่ละฤดูก็มีบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป แต่แนะนำให้ไป Summer นะ

           ทริปวิกตอเรียนี้เราไปแบบวันเดย์ทริปสองครั้ง คือเราไม่อยากเสียค่าที่พักเพราะลองคำนวณแล้วว่าค่าเดินทางแบบไป-กลับนั้นคุ้มค่ากว่าการจองโรงแรมหนึ่งคืน เลยยอมเสียเวลาเดินทางดีกว่า ก็เลยต้องไปถึงสองครั้ง แต่ถ้าไม่คิดมากเรื่องงบก็แนะนำว่าไปค้างคืนน่าจะดีกว่า เสียค่าโรงแรมแพงหน่อยแต่ได้เที่ยวทั้งวัน ได้บรรยากาศตอนกลางคืนด้วย ไม่ต้องเหนื่อยและไม่ต้องเสียเวลากับการเดินทางเหมือนเรา ซึ่งจริง ๆ ราคาที่พักน่าจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลา+โลเคชั่นที่พักด้วย

            ก่อนออกเดินทางเราจะต้องวางแผนกันก่อนเป็นอันดับแรก แนะนำว่ายิ่งเช้ายิ่งดีสำหรับชาววันเดย์ทริป แล้วก็เราอยากให้โหลด "transit"  เป็นแอพสำหรับเช็กรถบัส ดูว่าจะเดินทางยังไงมีบัสเบอร์ไหนผ่านบ้าง รวมถึงตารางเวลาของบัสด้วย เพราะระบบขนส่งที่แคนาดาค่อนข้างจะตรงเวลามาก ๆ โดยเฉพาะพวกเวลารถบัสกับเรือที่ต้องเดินทางระยะไกล 

           ถ้าพลาดคันนึงอาจจะต้องรออีกเป็นชม.แล้วแพลนจะเคลื่อนหมดเลย ซึ่งชิบหายแน่นอนเพราะการไปวิกตอเรียใช้เวลาทั้งหมด 4 ชม. ไป 4 กลับอีก 4 ถ้ารวนอย่างนึงก็จะรวนกันไปทั้งทริป ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวว่าควรจะออกจากที่พักตอนกี่โมง บัสจะมาถึงกี่โมง จะขึ้นเรือรอบกี่โมง (รอบของเรือเฟอร์รี่ขึ้นอยู่กับฤดูที่ไปด้วยนะคะ ช่วงsummerที่เป็นไฮซีซั่นก็จะมีรอบถี่กว่าช่วงเวลาทั่วไป โดยเช็กรอบเรือได้จาก https://www.bcferries.com/schedules/mainland/tssw-current.php)
      
             **สิ่งที่ควรจดจำเพื่อความปลอดภัย คือ ท่าเรือของฝั่งแวนคูเวอร์ชื่อ Tsawwassen ส่วนท่าเรือของฝั่งวิกตอเรียชื่อ Swartz Bay**
    .
    .

      Let's go to Victoria!!

            แพลนของทริปนี้ ซึ่งรวบสองทริปเข้าด้วยกันแล้ว โดยจัดเรียงสถานที่ตามความใกล้ไกล คือ 

    • Bastion Square
    • Craigdarroch Castle
    • Government House
    • Legislative Assembly of British Columbia (Parliament House)
    • Royal BC Museum 
    • Fairmont Empress Hotel

             **ขอเตือนชาววันเดย์ทริปก่อนเลยว่าการเดินทางและเดินเที่ยวต้องใช้เวลา ดังนั้นให้แพลนสถานที่ที่อยากไปจริง ๆ ไว้ก่อนเลยว่าต้องไปให้ได้! แล้วที่เหลือก็เก็บสำรองเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินก็จะได้เที่ยวสถานที่สำรองที่ใกล้ ๆ กันไว้**

            จริง ๆ แล้วตัวเลือกในการเดินทางมีให้ท่านนักท่องเที่ยวเลือกหลายช่องทาง เช่น เครื่องบินพาณิชย์ เครื่องบินเล็ก หรือเรือเฟอร์รี่ ซึ่งแน่นอนว่าราคาก็แตกต่างกันออกไป และในบรรดาสามตัวเลือกนี้ "เรือเฟอร์รี่" เป็นทางเลือกที่ดีและราคาย่อมเยาที่สุด! เหมาะสำหรับชาววันเดย์ทริปหรือแม้แต่คนที่มีรถไปขับด้วย เพราะสามารถขับรถขึ้นไปบนเรือได้เลย โดยใช้เวลาจากแวนคูเวอร์ไปวิกตอเรีย 2 ชม.

           เริ่มต้นทริปที่ Bridgeport station (ไม่แน่ใจว่าขึ้นจากที่อื่นได้มั้ยแต่ส่วนใหญ่จะเริ่มที่ Bridgeport กัน ซึ่งในการมาที่สถานีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าที่พักอยู่ที่ไหน ถ้าใกล้ป้ายบัสก็นั่งบัสไปสถานีรถไฟฟ้าหรือนั่งไปสถานีนั้นได้เลย ถ้าใกล้สถานีรถไฟก็ขึ้นรถไฟมาลง Bridgeport สายสีฟ้าหรือ Canada Line ไม่ต้องกังวลเรื่องสถานีปลายทางเพราะสถานีนี้จะถึงก่อนทางแยก ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสถานที่พักของคุณว่าเดินทางยังไงได้บ้าง อาศัยtransit หรือ google mapเอาค่ะ) เพื่อขึ้นบัสสาย 602 ไปท่าเรือเฟอร์รี ใช้เวลาประมาณ 45 นาที 
    สถานีที่วงกลมไว้นะคะ

             ตอนซื้อตั๋วสามารถซื้อแบบself-service เดินไปกดที่เครื่องเองได้เลย หรือจะซื้อonlineไปก็ได้ จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต โดยกดเลือก Swartz Bay (to Victoria) **แบบself-serviceไม่มีจ่ายเงินสดนะคะ** พอกดเสร็จเรียบร้อยจะได้กระดาษมาสองใบ คือ boarding pass (อันนี้สำคัญมากเพราะจนท.จะเก็บก่อนขึ้นเรือค่ะ) กับใบเสร็จ อย่าลืมหยิบมาทั้งสองแผ่นนะคะ

    ท่าเรือตอน Summer ฟ้าใสจริงเชียว
    ท่าเรือตอน Autumn ฟ้าเต็มไปด้วยเมฆ เตรียมฝนตก
    คนรอขึ้นเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกก
              บนเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีที่นั่งสบาย ๆ มีทีวีให้ดู มีโซนเด็ก โซนอาหาร หรือแม้แต่ร้านขายของฝากให้เลือกฆ่าเวลา หรืออยากจะออกไปรับลมด้านนอกตัวเรือก็ได้ ไม่ต้องจองที่นั่งใด ๆ ใครมาก่อนได้ก่อนจ้า 
    โซนอาหารในเรือ
            อีกข้อแนะนำที่เกิดจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง (อาจจะใช้ไม่ได้เสมอไปแต่เท่าที่สังเกตเมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ) คือ เรื่องของชั้นขึ้น-ลงเรือ ซึ่งจะเป็นชั้น "desk5"  เท่านั้น คนที่ลงไปออกชั้นอื่นที่ไม่ใช่ชั้น 5 คือเขาขับรถกันมา ส่วนทางเข้า-ออกนั้น ตอนขามาจะขึ้นด้านหน้าเรือแต่ตอนออกออกท้ายเรือ  ส่วนขากลับจะขึ้นท้ายเรือแต่ออกด้านหน้า

    ภาพวิวระหว่างล่องเรือจากดาดฟ้าเรือ
    เรือกำลังเทียบท่าที่วิกตอเรียแล้ว เย่ะ
    ทางเดินเหมือนที่สนามบินเลย
    .
    .

    ภาพท่าเรือเฟอร์รี Swartz Bay ของฝั่งวิกตอเรีย
             เมื่อออกจากท่าเรือมาจะเห็นบัสคันใหญ่ ๆ สองชั้นจอดรออยู่ ก็จะมีคนต่อแถวยาว ๆ นั่นแหละค่ะ ไปต่อตามเขาเลย บัสที่จะเข้า downtown ของวิกตอเรีย คือสาย 70 กับ 72 (เพื่อความแน่ใจจะถามคนขับก่อนก็ได้) ใช้เวลาเข้าตัวเมืองอีก 30 นาที ไปลงตั้งต้นที่ Douglas at fort ซึ่งใกล้กับ Bastion Square สถานที่แรกของทริป ราคาตั๋ว one day pass อยู่ที่ 5$ ใช้ได้แค่วันเดียวตามชื่อตั๋วเลย ความสะดวก คือเวลาขึ้นบัสแค่โชว์ให้คนขับดูก็เที่ยวตะลอนได้ทุกที่ในวิกตอเรียเลย~

    One day pass จะมีหน้าตาแบบนี้ รักษาดี ๆ ตลอดทริปเลยน้า ห้ามหายเด็ดขาด!!
    .
    .

    - Bastion Square -


               สำหรับ Bastion Square ขอสารภาพว่าไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรนอกจากตลาดเล็ก ๆ กับร้านอาหารอีกนิดหน่อย แต่ที่เราเลือกมาเพราะว่าเห็นรูปแล้วสวยดี ซึ่งถ้าเดินตรงทะลุซุ้มร้านขายของไปจนสุดทางจะได้ยลวิวของ Victoria Harbour

    กลิ่นอายยุโรปมาก ๆ
    คิดว่าเป็นไฮไลต์ของ bastion square นะ ตอนเสิร์ชรูปดูคือคนคึกคึกมาก แต่พอไปจริง ๆ คือไม่มีคนเลยนอกจากนักท่องเที่ยวตามที่เห็น
    Victoria Harbour view
    บรรยากาศในเมืองระหว่างเดินไป bastion square
    .
    .

    - Lunch Time -

                  ยังไม่ทันเดินเที่ยวไหนไกลก็เที่ยงแล้ว T_T ของขึ้นชื่อของวิกตอเรียที่ใคร ๆ ต่างแนะนำให้มากิน คือ fish and chips ร้าน "Red fish Blue fish" เจ้าดังที่ต้องอดทนต่อแถวเป็นชม. ใครหิวมากจนท้อแท้ยอมแพ้ก็ไม่ถือว่าอ่อนแอนะ5555555 สำหรับเรารสชาติไม่ได้ว้าวขนาดนั้นแต่ก็อร่อยดี อยู่แถว Victoria Harbour เลย ถ้าตั้งต้นจากจุดชมวิวแถว Bastion Square ให้หันหน้าเข้าหาอ่าวแล้วเดินไปทางซ้ายมือ จะเห็นร้านที่ตั้งยื่นไปในน้ำ ร่มเรียงรายเยอะ ๆ 

    เราสั่ง Wild Salmon แบบ 2pc (2ชิ้น) ค่ะ
    เมนูทั้งหมดของร้านค่ะ
              ส่วนรอบสองที่ไป เราโนไอเดียมากเลยกะว่าเดินผ่านร้านไหนก็เข้าร้านนั้นแล้วดันผ่านร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อ "Azuma sushi" พอดี ดูไม่ค่อยมีคน ราคาพอรับได้ เลยตรงเข้าไปเลย พนง.จะเสิร์ฟน้ำชาอุ่น ๆ กับน้ำเปล่าเย็นให้ด้วย 
    Salmon Teriyaki Bento
    เขาให้ fortune cookie ด้วย ว้าว
    .
    .

    - Craigdarroch Castle -


             วิธีมาก็เปิด Google map ประกอบกับ transit เลยจ้า ขึ้นสาย 11 มาลง Fort at Fernwood แล้วเดินมาเรื่อย ๆ ตามทางโลด 


               Q: ทำไม "Craigdarroch Castle" ถึงเป็นหนึ่งในสถานที่แนะนำของวิกตอเรีย?

               A: ปราสาทแห่งนี้สร้างโดยตระกูล Dunsmuir เป็นสถานที่ที่มีประวัติโชกโชนมาอย่างยาวนานกันเลยทีเดียวนี้ เรียกว่าผ่านอะไรมาเยอะมาก เป็นตั้งแต่ที่พักอาศัยของตระกูล Dunsmuir, โรงพยาบาลทหาร, โรงเรียน จนมาถึงพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนหน้าที่ไปตามเหตุการณ์ในแต่ละยุคสมัย

              ก่อนเข้าก็ต้องซื้อบัตรกันก่อน ถ้าไปเรียนที่แคนาดาสามารถโชว์บัตรนักเรียนหรือจดหมายตอบรับของรร. (Letter of  acceptance) เพื่อซื้อในราคานักเรียนก็ได้ ตอนเข้าไปข้างในจะมีจนท.รอทำความสะอาดรองเท้าของเราอยู่เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก เขาจะให้เรายกเท้าวางบนแท่นลูกกลิ้ง จากนั้นก็จะมีจนท.คอยบอกกฎเกณฑ์และแนะนำว่าควรเดินชมยังไง เนื่องจากมีขนาดปราสาทใหญ่ มีหลายชั้น และค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้นถ้าเดินขึ้นไปแล้วจะไม่สามารถเดินกลับลงมาทางเก่าได้ จะมีทางเดินซอกแทรกไปเรื่อย ๆ และสุดท้ายจะออกที่ประตูหลังของปราสาท ซึ่งไม่ใช่ประตูเดียวกับตอนเข้ามา

    ประทับใจกระจกสีมาก สวยมาก ๆๆๆ
    ห้องนี้ตกแต่งด้วยสีชมพูหวาน ๆ หน่อยจนคิดว่าเป็นห้องผู้หญิง แต่ที่จริงเป็นห้องผู้ชาย
    ประวัติตระกูล Dunsmir
    วิวเมืองจากชั้นบนของปราสาท
    ห้องน้ำสมัยก่อน งือ
    ไม่แน่ใจว่าเป็นห้องของลูกสาวหรือคนรับใช้

               ความหรูหราอลังการก็จะสัมผัสได้จากการตกแต่งต่าง ๆ นานา ใช้เวลาสร้างกันเป็นสิบยี่สิบปีเลย เฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของปราสาทบางชิ้นคือสั่งทำอย่างดีมีราคาหายากจากแดนไกลเลย ซึ่งเมื่อเดินสำรวจไปเรื่อย ๆ จะเห็นได้เลยว่ายังเหลือร่องรอยของประวัติศาสตร์เหล่านั้นอยู่จริง ๆ เช่น บางห้องที่มีสถานะเป็นห้องครัวแต่ยังเหลือเค้าของห้องผ่าตัดอยู่ (แต่เราไม่ได้ถ่ายมา แหะๆ)

               เว็บไซต์ของ Craigdarroch Castle : https://thecastle.ca/

    .
    .

    - Government House -


             จบจาก Craigdarroch Castle ก็ออกมาเลี้ยวซ้าย (สวนทางกับตอนเดินมา)  เดินตามถนนลึกเข้าไปอีก จะมีป้ายแปะบอกทางอยู่บ้าง    

                ตอนแรกจะตัดใจไม่มาแล้วเพราะเห็นเขียนในเว็บไซต์ว่าปิด ก็คือปิดจริง ๆ แหละ แต่หมายถึงปิดห้ามเข้าข้างใน แต่เราสามารถเดินรอบ ๆ ได้ เป็นเหมือนสวนสาธารณะ เปิดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนตก ก็มีคนมาเรื่อย ๆ นะ คิดว่าช่วงที่ไป (รอบสองไปช่วง autumn) ไม่ค่อยมีคนเพราะเขาไม่ได้เปิดให้เข้าใน Government House เลยไม่มีนักท่องเที่ยวมา ส่วนใหญ่จะเป็นคนแถวนั้นมากกว่า ถ้าใครใคร่อยากเข้าเขาจะมีวันกำหนดไว้ในเว็บไซต์ว่าเปิดให้ public tour เข้าชมวันไหนบ้าง ก็ไม่ใช่จะเปิดโอกาสให้เข้าง่าย ๆ นะ มักจะเป็นช่วงไฮซีซั่นมากกว่า  
                  

    นี่คือ Sir James Douglas ผู้ว่าการรัฐบริติชโคลัมเบียคนแรก
    มีเป็ดด้วย
    Rose Garden 

              เช็กเวลาเปิดให้เข้าชมได้ที่เว็บไซต์นี้เลยฮะ https://www.tourismvictoria.com/see-do/activities-attractions/garden-parks/government-house

    .
    .

    tbc.



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in