DRABBLE : you and me, we are all broken
rate : PG – 13
note : ทั้งหมดเป็นเรื่องแต่ง เรื่องแต่ง = เรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
___________________________________________________________
“In this world, there live people with broken hearts.”
ข้างนอกฝนกำลังตกหนัก ท้องฟ้าทั่งทั้งบริเวณมืดครึ้มไปเสียหมด
แสงจันทร์นวลที่เคยคาดหวังว่าจะได้เห็นกลับถูกบดบังด้วยเมฆดำทะมึนที่ลอยอยู่เต็มฟ้า
เขามองเห็นแต่แสงไฟที่ประดับประดาตามตึกรามบ้านช่องและห้างสรรพสินค้า
แต่ประกายดาวในดวงตาของอีกฝ่ายที่เคยระยิบยับกลับหมดแสง
เขานึกชิงชังประกายแสงสว่างของแสงไฟนับแสนล้านที่อยู่ข้างนอกนั่น
ในขณะที่ข้างนอกสว่างไสวแม้มีเมฆดำค้างเติ่งบนท้องฟ้า
คนที่คู่ควรกับความสว่างไสวให้สมกับชื่อพระอาทิตย์กลับนั่งนิ่งในห้องที่แทบจะไร้แสง
ดวงตาที่เคยเป็นเหมือนกาแล็คซี่น้อยๆ มืดสนิทยิ่งกว่าคืนไร้ดาว
เขาถอนหายใจขณะที่ละสายตาจากความมืดครึ้มภายนอก
แล้วหันมามองร่างของคนที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง
แสงจากโคมไฟบนโต๊ะติดหัวเตียงกระทบกับเสี้ยวหน้าด้านข้างของอีกฝ่าย
ใบหน้านวลที่เคยมีรอยยิ้มอยู่เสมอ กลับปรากฏร่องรอยของหยาดน้ำตามาแทนที่
เมื่อมองใกล้ๆ จะเห็นว่าหยดน้ำใสๆ ยังเกาะอยู่บนแก้มเสียด้วยซ้ำ
แสงไฟที่กระทบกับหยดน้ำตาต้องแสงเป็นประกายวิบวับ
แม้จะไม่ได้สว่างไสวเท่าแสงไฟจากข้างนอก แต่ก็นับว่าเป็นภาพที่งดงามจับใจคนมองได้ไม่ยาก
แต่โชคร้ายที่มันเป็นความงดงามบนความปวดร้าว
ปวดร้าวด้วยเหตุที่
ภาพตรงหน้าเป็นความงามที่เกิดจากความแตกสลาย
ด้วยหัวใจดวงหนึ่งที่แหลกสลาย
ขาสองข้างก้าวเดินไปหยุดที่ริมเตียง ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างคนที่จับจองที่ไว้เก่าก่อน
แม้จะยังไม่ทันได้สัมผัส แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความเย็นเยียบจากร่างของอีกฝ่าย
เขาเลื่อนฝ่ามือกอบกุมฝ่ามือของคนที่แก่กว่าไว้แน่น
เป็นอย่างที่คิด
ไร้ซึ่งความอบอุ่นใด ๆ
เย็นเฉียบเหมือนกับก้อนน้ำแข็ง
ก้อนน้ำแข็งที่อาจจะไม่มีวันละลายต่อให้ได้สัมผัสกับความร้อนมากเพียงใดก็ตาม
เขายกฝ่ามือที่กุมอยู่ขึ้น ใช้นิ้วโป้งทั้งสองข้างเกลี่ยเบาๆก่อนจะก้มลงประทับรอยจูบทิ้งไว้
นิ่งค้าง เนิ่นนาน
ราวกับไม่อยากจะปล่อยไป
แต่สุดท้าย
เขาก็ถอนจูบ
พร้อมเปล่งประโยคที่พูดซ้ำๆ มากเกินกว่าจำนวนรอบที่จะนับไหว
หรือไม่ก็เป็นเขาเองที่เหนื่อยเกินกว่าจะนับ
“ไม่เป็นไรหรอก”
หยดน้ำตาหยดที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจรู้หยดลงบนฝ่ามืออุ่น
ทว่า
แม้แต่หยดน้ำตาก็ยังเยียบเย็น
“เราจะแหลกสลายกันอีกสักครั้งก็ไม่เป็นไรหรอก”
เขาพูดซ้ำ
คราวนี้ก้มลงประทับจูบที่รอยหยดน้ำตาหยดนั้น
ได้รสขมปร่า
แต่เขารู้ดีว่าต่อให้กลืนหยดน้ำตาของอีกฝ่ายไปอีกกี่ร้อยกี่พันหยด
ก็ไม่เท่ากับความขมขื่นของคนตรงหน้าอยู่ดี
ทั้งห้องเงียบสงัดก่อนที่เจ้าของดวงใจที่แตกสลายซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะเอ่ยบอก
“แต่คราวนี้น่ะ ประกอบขึ้นมาใหม่อีกไม่ไหวแล้วนะ ”
“ไม่เป็นไรหรอก”
เขาย้ำ
“ถ้าประกอบขึ้นมาใหม่อีกไม่ได้...
ผมก็จะแหลกสลายไปกับพี่เอง”
ดวงตาที่ไร้ดาวคู่นั้น
ค่อยๆ ปิดลงจนสนิท
in the end, we are all broken
แด่หัวใจทุกดวงที่แหลกสลาย.
___________________________________________________________________________________________________
หากคุณมีคำสบถหรือถ้อยคำผรุสวาทใดๆ
ขว้างปามาได้ตามอัธยาศัยที่ทวิตเตอร์ @ bmbayah_
ด้วยรักค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in