สวัสดีค่า ~ ก่อนอื่นเลยต้องขอออกตัวว่าเราเป็น Swiftie ที่มีใจรักในภาษาอังกฤษค่ะ (แต่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยจะรักเราสักเท่าไหร่) จริง ๆ อยากลองแปลเพลงมานานมากแล้วค่ะ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ลองทำสักทีเพราะกลัวจะแปลออกมาได้ไม่ดี… แต่วันนี้! เราตัดสินใจหยิบเพลง Daylight by Taylor Swift มาแปลเป็นเพลงแรกเนื่องจากว่าเราชอบเพลงนี้มาก ๆ เลยค่ะ ถึงแม้ว่ามันจะออกมาตั้งแต่ปีที่แล้วแต่เรายังคงอินกับอัลบั้ม Lover อยู่เลยค่ะ? ความหมายมันดีและลึกซึ้งมากจริง ๆ เราอยากถ่ายทอดมันออกมาให้ทุกคนได้อินไปกับเราค่ะ! (ถ่ายทอดถูกไหมอีกเรื่อง;__;)
ไม่รู้ว่าจะมีคนผ่านมาเห็นบทความที่เราแปลมั้ยเพราะเพลงนี้มันก็ออกมานานแล้วแต่เราขอขอบคุณทุกคนที่ผ่านมาเจอความตั้งใจเล็ก ๆ ของเรานะคะ ◡̈♡
༘ ถ้าเราแปลผิดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะคะ ติชม/แนะนำได้เลยค่ะเราจะนำไปปรับปรุงงง??
My favorite line :
And now I see daylight, I only see daylight.??
. . .
My love was as cruel as the cities I lived in
Everyone looked worse in the light
There are so many lines that I've crossed unforgiven
I'll tell you the truth, but never goodbye
ความรักที่ผ่านมามันช่างโหดร้ายเหมือนดั่งเมืองที่ฉันอาศัยอยู่
ผู้คนต่างดูแย่ท่ามกลางแสงไฟที่สาดส่อง
หลาย ๆ ครั้งที่ฉันเคยทำผิดพลาดไปอย่างไม่น่าให้อภัย
ฉันจะบอกความจริงกับคุณนะ แต่จะไม่มีวันบอกคำอำลา
I don't wanna look at anything else now that I saw you
I don't wanna think of anything else now that I thought of you
I've been sleepin' so long in a 20-year dark night
And now I see daylight, I only see daylight
ฉันไม่ต้องการมองสิ่งอื่นใดแล้ว เมื่อฉันมองเห็นคุณ
ฉันไม่ต้องการคิดถึงเรื่องใดแล้ว เมื่อฉันคิดถึงคุณ
ฉันตกอยู่ในห้วงราตรีอันแสนมืดมิดมานาน 20 ปี
แต่ตอนนี้ฉันมองเห็นแสงตะวันแล้วนะ ฉันเห็นเพียงแค่แสงตะวัน
Luck of the draw only draws the unlucky
And so I became the butt of the joke
I wounded the good and I trusted the wicked
Clearin' the air, I breathed in the smoke
เวลาเสี่ยงโชคฉันมักจะพบเจอแต่กับความโชคร้าย
เพราะอย่างนั้นฉันจึงกลายเป็นตัวตลกที่ทุกคนหัวเราะเยาะใส่
ฉันทำร้ายคนที่ดีกับฉันแต่กลับไปเชื่อใจคนที่ไม่หวังดี
เพื่อที่จะทำให้อากาศกลับมาบริสุทธ์อีกครั้ง ฉันจำต้องสูดดมควันเข้าไป
Maybe you ran with the wolves and refused to settle down
Maybe I’ve stormed out of every single room in this town
Threw out our cloaks and our daggers because it’s morning now
It’s brighter now, now
บางทีคุณอาจจะเคยวิ่งรวมอยู่กับฝูงหมาป่า และปฏิเสธที่จะปักหลักลงที่ใดสักแห่ง
? ตรงนี้เราตีความว่า ผู้ชายคนนี้อาจจะเคยเป็นคนที่เจ้าชู้มาก่อนและไม่เคยคิดที่จะหยุดชีวิตอยู่ที่ใครค่ะ
บางทีฉันอาจจะเคยเดินออกจากทุก ๆ ห้องในเมืองนี้ด้วยความเกรี้ยวกราด
โยนอาวุธและผ้าคลุมของพวกเราทิ้งเถิดนะ เพราะเวลารุ่งอรุณได้มาถึงแล้ว
ตอนนี้สว่างไสวขึ้นแล้วนะ ✨
I don’t wanna look at anything else now that I saw you
(I can never look away)
I don’t wanna think of anything else now that I thought of you
(Things will never be the same)
I’ve been sleeping so long in a 20-year dark night
(Now I'm wide awake)
And now I see daylight (Daylight), I only see daylight (Daylight)
I only see daylight, daylight, daylight, daylight
I only see daylight, daylight, daylight, daylight
ฉันไม่ต้องการมองสิ่งอื่นใดแล้ว เมื่อฉันมองเห็นคุณ
(ไม่สามารถละสายตาจากคุณได้เลย)
ฉันไม่ต้องการคิดถึงเรื่องใดแล้ว เมื่อฉันคิดถึงคุณ
(ทุกสิ่งแปรเปลี่ยนไปตลอดกาล)
ฉันตกอยู่ในห้วงราตรีอันแสนมืดมิิดมานาน 20 ปี
(ตอนนี้ฉันตื่นขึ้นมาแล้วล่ะ)
ตอนนี้ฉันมองเห็นแสงตะวันแล้วนะ เห็นเพียงแค่แสงตะวัน
ฉันมองเห็นเพียงแสงตะวัน
เห็นเพียงแค่แสงตะวัน :-)
And I can still see it all (In my mind)
All of you, all of me (Intertwined)
I once believed love would be (Black and white)
But It's golden (Golden)
และฉันยังคงเห็นภาพทุกอย่างอยู่ในใจของฉัน (ในใจของฉัน )
ทั้งคุณและฉันเราผูกพันกันเป็นหนึ่ง (ผูกพันกันเป็นหนึ่ง)
ครั้งหนึ่งฉันเคยคิดว่าความรักจะเป็นเพียงสีขาวและสีดำ (สีขาวและสีดำ)
แต่มันกลับเปล่งประกายเป็นสีทอง (เป็นสีทอง)
And I can still see it all (In my head)
Back and forth from New York (Sneaking in your bed)
I once believed love would be (Burning red)
But it's golden
Like daylight, like daylight
Like daylight, daylight
และภาพทุกอย่างยังคงชัดเจนอยู่ในความคิดของฉัน (ในความคิดของฉัน )
เดินทางไปและกลับจากนครนิวยอร์ค ( แอบย่องขึ้นไปบนเตียงของคุณ )
ครั้งหนึ่งฉันเคยเชื่อว่าความรักจะแผดเผาและร้อนแรงดั่งสีแดง (ร้อนแรงดั่งสีแดง )
แต่มันกลับเปล่งประกายเป็นสีทอง
เหมือนดั่งแสงตะวัน
I don’t wanna look at anything else now that I saw you
(I can never look away)
And I don’t wanna think of anything else now that I thought of you
(Things will never be the same)
I’ve been sleeping so long in a 20-year dark night
(Now I'm wide awake)
And now I see daylight ( I see daylight), I only see daylight (Daylight)
I only see daylight, daylight, daylight, daylight
I only see daylight, daylight, daylight, daylight
ฉันไม่ต้องการมองสิ่งอื่นใดแล้ว เมื่อฉันมองเห็นคุณ
(ไม่สามารถละสายตาจากคุณได้เลย)
ฉันไม่ต้องการคิดถึงเรื่องใดแล้ว เมื่อฉันคิดถึงคุณ
(ทุกสิ่งแปรเปลี่ยนไปตลอดกาล)
ฉันตกอยู่ในห้วงราตรีอันแสนมืดมิิดมานาน 20 ปี
(ตอนนี้ฉันตื่นแล้วล่ะ)
ตอนนี้ฉันมองเห็นแสงตะวันแล้วนะ เห็นเพียงแค่แสงตะวัน
ฉันมองเห็นเพียงแสงตะวัน
เห็นเพียงแค่แสงตะวัน
I only see daylight, daylight, daylight, daylight (Ah)
(And I can still see it all)
I only see daylight, daylight, daylight, daylight
(And I can still see it all, back and forth from New York)
I only see daylight, daylight, daylight, daylight
(I once believed love would be burning red)
ฉันมองเห็นแค่เพียงแสงตะวัน
(และฉันยังคงมองเห็นทุก ๆ อย่าง)
ฉันมองเห็นเพียงแค่แสงตะวัน
(ยังคงจดจำได้ทุก ๆ อย่าง เดินทางไปและกลับจากนครนิวยอร์ค)
เห็นเพียงแค่แสงตะวัน
(ครั้งหนึ่งฉันเคยเชื่อว่าความรักจะแผดเผาและร้อนแรงดั่งสีแดง)
Like daylight
It's golden like golden
You gotta step into the daylight and let it go
Just let it go, let it go
เหมือนดั่งแสงตะวัน
เปล่งประกายเป็นสีทอง
คุณต้องก้าวออกไปสู่แสงตะวันและปล่อยอดีตไป
แค่ปล่อยอดีตไป.. ปล่อยมันไป
I wanna be defined by the things that I love
Not the things I hate
Not the things I'm afraid of, I'm afraid of
Or the things that haunt me in the middle of the night
I, I just think that
You are what you love
ฉันอยากจะถูกนิยามด้วยสิ่งที่ฉันรัก
ไม่ใช่สิ่งที่ฉันเกลียด
ไม่ใช่สิ่งที่ฉันหวาดกลัว
หรือสิ่งที่หลอกหลอนฉันในยามค่ำคืน
ฉันแค่คิดว่า...
คุณคือสิ่งที่คุณรัก
.
.
.
?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in