01
.
.
.
“ สุดท้ายเราก็ต้องกลับไป.. รู้ใช่ไหมแจมิน ” ประโยคคำถามที่ปราศจากคำอธิบายอื่นใดถูกนำมาใช้แทนคำทักทายในยามเช้า คำทักทายที่มาพร้อมกับเส้นแสงสีส้มที่ชุบย้อมผนังสีขาวของห้องนอนจนกลายเป็นสีเดียวกัน
“ รู้ ” ความเงียบเพียงชั่วอึดใจเกิดขึ้นระหว่างคนสองคนภายหลังคำถามนั้น ก่อนที่มันจะสลายหายไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าตอนที่มันเกิดขึ้นด้วยคำตอบสั้นๆจากเจ้าของชื่อ ‘ แจมิน’
‘รู้ ’ แม้จะเป็นเพียงคำสั้นๆ แต่ก็ดูจะเป็นคำตอบที่ครอบคลุมเพียงพอสำหรับคนถาม ไม่มีคำถามใดเพิ่มอีกหลังจากนั้น บทสนทนาเริ่มต้นขึ้นและจบลงไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นระหว่างเขาทั้งสองก็ไม่มีใครที่คิดอยากจะขยับลุกจากเตียงไปไหน
“ พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ” เส้นแสงสีส้มขยับคล้อยไปตามเวลาอย่างช้าๆ อาบไล้จากผนังเรียบไล่เรื่อยมาจนถึงแผ่นหลังเปล่าเปลือยของชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำขลับ และ ชื่อสะดุดหู ‘ ลีเจโน่ ’เจ้าของเสียงทุ้มที่เป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาอีกครั้ง
“ ยังไม่อยากกลับไปเลย ”
“ เหมือนกัน ” เจโน่ ยังคงนอนหลับตาพูดอยู่อย่างนั้นในตำแหน่งเดิมแม้จะโดนไออุ่นยามเช้ารุกไล่เข้ามาทักทาย แต่เขาก็ยังคงอาศัยท้องน้อยของใครอีกคนแทนหมอนหนุนนอนอย่างที่ชอบทำเป็นประจำอยู่เหมือนเดิมโดยไม่คิดจะขยับไปไหน หลับตาอยู่นิ่งๆต่อไปแบบนั้น โดยหันหน้าเสี้ยวหนึ่งไปหาหมอนหนุนสุดพิเศษที่ตัวเองหนุนอยู่ และ ปล่อยให้ดวงตาของอีกคนจับจ้องใบหน้ายามหลับของเขาอย่างที่รู้ว่าอีกฝ่ายชอบทำ
สำหรับลีเจโน่.. ขอแค่ได้สัมผัส แม้เพียงสักตารางนิ้วของร่างกายที่ได้แนบชิดนาแจมินเขาก็อุ่นใจ
และ อันที่จริงแล้วสำหรับแจมินเอง ก็คงไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่..
ไออุ่นที่สัมผัสได้ผ่านความเปลือยเปล่าของร่างกายตอกย้ำให้แจมินรู้ว่าเขาทั้งคู่ยังคงอยู่ด้วยกัน
และ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวินาทีนี้ ตอนนี้ คือเรื่องจริง
พวกเขายังคงอยู่ด้วยกัน..
“ เจโน่ ” เสียงเรียกแค่เพียงเบาๆ ก็สามารถดึงความสนใจจากเจ้าของชื่อให้ลืมตาขึ้นมาสบตาเขาได้แล้ว
“ ครับ? ” ดวงตาที่มักจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มของลีเจโน่ถูกปอยผมสีดำที่ยาวขึ้นกว่าทุกครั้งที่ได้พบกันบดบังไปเสียครึ่งค่อน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเป็นสายตาที่มองมาที่เขาแต่เพียงคนเดียว สายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย สายตาที่เขาไม่มีวันหาได้จากการมองเข้าไปในดวงตาของใครอื่น
“ จากนี้เราสองคนจะเป็นยังไง ” แจมินเอ่ยถามในยามที่ใบหน้าของใครอีกคนเคลื่อนเข้ามาใกล้ ใกล้ และใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนเขาต้องหลบสายตา
“ ทำในสิ่งที่เราต้องทำ ” เจโน่ตอบออกไป ใช้ฝ่ามือหนาทั้งสองประคองใบหน้าของคนตรงหน้าให้กลับมาสบสายตากับเขาอีกครั้ง
“ ฉันไม่คิดว่าฉันจะทำได้..”
“ แต่คุณต้องทำ ”
“ แล้วถ้าฉันทำไม่ได้ ”
“ ผมรู้ว่าคุณทำได้ ”
“ คุณต้องทำ แจมิน ”
“ คุณคนเดียวเท่านั้น ”
และนั่นคือคำพูดสุดท้ายก่อนที่เส้นแสงสีส้ม แสงแรกของยามเช้าที่ลอดเข้ามาทางช่องว่างเล็กๆระหว่างคนสองคนจะหายลับไป พร้อมๆกับการมีอยู่ของช่องว่างเล็กๆนั้น
สัมผัสหนักแน่นที่ริมฝีปาก.. สัมผัสที่แสนคุ้นเคย
น่าเสียดายที่มันคงเป็นครั้งสุดท้าย
นาแจมิน อยากหยุดช่วงเวลานี้เอาไว้เสียเหลือเกิน..
และ เขาคิดว่าเจโน่เอง ก็คงต้องการเช่นเดียวกัน
แต่ถึงจะต้องการแค่ไหน ขอร้องอ้อนวอนเพียงใด คำขอในครั้งนี้ก็คงไม่มีวันเป็นจริง
สุดท้ายแล้วเขาทั้งสองก็ต้องกลับไป
กลับไปเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
และ ลงมือทำในสิ่งที่ต้องทำเสียที..
#WNOMIN
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in