รีวิวเว้ย (1961) LGBTQ+ คือ คำย่อที่ใช้เรียกกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ ซึ่งไม่จำกัดอยู่แค่เพศหญิงและชายตามกำเนิด โดยเป็นคำที่วิวัฒนาการมาเพื่อสร้างความครอบคลุมและเป็นที่รู้จักในระดับสากล ย่อมาจากโดยแต่ละตัวอักษรใน LGBTQ+ ต่างมีความหมายเป็นของตัวเอง อาทิ Lesbian (เลสเบี้ยน - ผู้หญิงที่รักผู้หญิง), Gay (เกย์ - ผู้ชายที่รักผู้ชาย), Bisexual (ไบเซ็กชวล - ผู้ที่รักได้ทั้งสองเพศ), Transgender (คนข้ามเพศ - ผู้ที่อัตลักษณ์ทางเพศไม่ตรงกับเพศกำเนิด), และ Queer (เควียร์ - คำที่ใช้เรียกอย่างครอบคลุมสำหรับผู้ที่ไม่เป็นรักต่างเพศ หรือ Questioning สำหรับผู้ที่กำลังค้นหาตนเอง) ส่วนเครื่องหมาย + หมายถึงความหลากหลายทางเพศอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากอักษรข้างต้น เช่น Intersex (อินเตอร์เซ็กซ์), Asexual (เอเซ็กชวล), และ Pansexual (แพนเซ็กชวล) เป็นต้น ซึ่งคำนี้ถูกใช้เพื่อส่งเสริมการยอมรับ ความเท่าเทียม และการมองเห็นตัวตนของผู้คนในกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศในสังคม จะเห็นได้ว่าความหลากหลายทางเพศในยุคปัจจุบันมีความลื่นไหล กว้างไกลและมากไปกว่าความรับรู้และความเข้าใจของสังคมในครั้งอดีต เช่นนั้นการเรียนรู้ ทำความเข้าใจและเปิดใจยอมรับในความหลากหลายจึงเป็นเงื่อนไขพื้นฐานของโลกยุคปัจจุบัน

หนังสือ : ประวัติศาสตร์ที่เพศสร้าง
โดย : ชานันท์ ยอดหงษ์
จำนวน : 392 หน้า
.
"ประวัติศาสตร์ที่เพศสร้าง" รวบรวมบทความที่ว่าด้วยประวัติศาสตร์เพศภาวะและเพศวิถีในสังคมไทย โดยบทความชิ้นต่าง ๆ มุ่งเน้นการศึกษาไปที่เรื่องของโครงสร้างอำนาจทางเพศ การประกอบสร้างปิตาธิปไตย (ชายเป็นใหญ่) และรักต่างเพศนิยมในอดีต รวมถึงการต่อสู้ดิ้นรนและการช่วงชิงพื้นที่ของเพศอื่น ๆ ทั้งผู้หญิงและกลุ่ม LGBTQ+ ผ่านเรื่องราวบุคคลและเหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ ที่ถูกหยิบเลือกมาบอกเล่าใน "ประวัติศาสตร์ที่เพศสร้าง" ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวในโลกที่หลากหลายของผู้คน
.
สำหรับเนื้อหาของ "ประวัติศาสตร์ที่เพศสร้าง" แบ่งการเล่าเรื่องออกเป็น 4 ภาค ที่แต่ละภาคของหนังสือจะประกอบไปด้วยบทความหลายชิ้นที่สอดรับกับ โดยเนื้อหาของ "ประวัติศาสตร์ที่เพศสร้าง" มีดังต่อไปนี้
.
สถานะและชนชั้นของผู้หญิงในอดีต ประกอบไปด้วยบทความเรื่อง สาวเครือฟ้าแม่บทภาพตัวแทนหญิงล้านนาในอาณานิคมสยาม, เดียร์ มิตรภาพอันโรแมนติกระหว่างหญิงช่วงเข้าสู่ยุคสมัยใหม่, สภากาชาดกับการช่วงชิงทางการเมืองและบทบาทสาธารณะของผู้หญิง และ ทมยันตีและกลุ่มสตรีขวาจัด ก่อนจะถึงวันสังหารหมู่ 6 ตุลาฯ
.
เพศหลากหลายกับการช่วงชิงความหมายทางประวัติศาสตร์ ประกอบไปด้วยบทความเรื่อง นุ้ยกันสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งของสองเจ้าชายสยามยุคเปลี่ยนผ่านสู่ภาวะสมัยใหม่, การช่วงชิงความหมายทางประวัติศาสตร์เรื่องเพศใน ลัทธิพิธี ร. 6, ผู้หญิงและคนรักเพศเดียวกันในทรรศนะของปรีดี พนมยงค์ และจิตร ภูมิศักดิ์, ปาน บุนนาคตัวแม่ ตัวมารดาแห่งยุคสงครามเย็น, เทิ่ง สติเฟื่องผู้เด๊ดสะมอเร่ไปแล้ว แต่จะเริ่ดสะแมนแตนไปตลอดกาล และ แต๋ว ไม่ใช่ตุ๊ด ไม่ใช่เกย์ ไม่ใช่กะเทย แต่หมายถึงทอมเกี้ยวสาว
.
สิทธิที่ถูกลิดรอนในโลกชายเป็นใหญ่ ประกอบไปด้วยบทความเรื่อง ฮิญาบสัญลักษณ์ปิตาธิปไตยและการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ของมุสลิมะฮ์, การเมืองเรื่องเพศของครูบาอาจารย์หญิง, ประวัติศาสตร์การต่อสู้และกีดกันเกย์กะเทยประกอบอาชีพครู และลืมไม่ลง เสาร์ซาวเอ็ด
.
เรื่องเพศ เรื่องรัก กับอัตลักษณ์ตัวตนบนพื้นที่สาธารณะ ประกอบไปด้วยบทความเรื่อง ก่อนจะมีนิตยสารเกย์ใต้ดิน มีคอลัมน์เกย์หาคู่ในนิตยสารบนดิน, ประสบการณ์ทางเพศในสวนสาธารณะ ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต และเมื่อสงกรานต์คือเทศกาลกินปูดูเก้งกวาง และเกาะเสม็ดเป็นเกาะเกย์พิสดาร
.
"ประวัติศาสตร์ที่เพศสร้าง" ทำให้เราเห็นว่าเรื่องราวของความหลากหลายทางเพศนั้นเป็นเรื่องสามัญธรรมดา ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกหรือผิดบาปดังที่เคยปรากฎในหลายความเชื่อของสังคม "ประวัติศาสตร์ที่เพศสร้าง" ตอกย้ำให้ผู้อ่านเห็นว่าเราสามารถอยู่ร่วมกันในโลกที่มีความหลากหลายทางเพศได้อย่างสันติสุขและสร้างสรรค์ ผ่านการเริ่มต้นจาก การเปิดใจและยอมรับในความแตกต่าง โดยตระหนักว่าความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์ที่แตกต่างกัน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือต้องหวาดระแวง ไม่ใช่ความผิดบาป ไม่ใช่สิ่งต้องห้ามและมิใช่ความผิดปกติ เรื่องเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in