รีวิวเว้ย (1916) "ก็ความรักไม่ใช่ความลับถ้าอยากจะรักทำไมต้องปิด คำว่ารักไม่ยากหรอกนะ just say it ก็ความรักไม่ใช่ความลับถ้าอยากจะรักทำไมต้องปิด Make it happen, make it happen, make it happen" (เพลง Make It Happen) ในชั้นเรียนที่สอนโดยธเนศ วงศ์ยานนาวา อาจารย์มักจะพูดเสมอ ๆ ว่าสังคมไทยเปลี่ยนเข้าสู่สมัยใหม่ตั้งแต่วันที่ไมโครร้องเพลง "บอกมาเลยว่าคิดยังไง จะอยู่หรือไปก็บอกมา บอกมาเลยอย่าเสียเวลา บอกฉันมาคำเดียว" เพราะตั้งแต่วันนั้นสังคมไทยก็เข้าสู่ยุคสมัยที่ผู้คนไม่จำเป็นต้องรอเวลาหรือคิดเอาเองให้เมื่อยหัวเหมือนในยุคอดีต แต่สำหรับเราในฐานะของคนที่โตมากับเพลงของสถานีวิทยุ FM ในต่างจังหวัด เราเชื่อว่าสังคมไทยเปลี่ยนไปตั้งแต่วันที่พุ่มพวง ดวงจันทร์ ปล่อยเพลงหลายเพลงออกสู่สังคมไทย เพราะเพลงเหล่านั้นเปลี่ยนวิธีคิดทั้งเรื่องของท่าทีของผู้หญิงในสังคมนี้ และเปลี่ยนมุมมองเรื่องของความรักของหนุ่มสาวของสังคมนี้ไปแบบหน้ามือเป็นหลังคาบ้าน ไม่เชื่อก็ลองเปิดเพลง "อื้อฮือ หล่อจัง" (พ.ศ. 2528) ของพุ่มพวง ดวงจันทร์ คลอไปกับการอ่านหนังสือเล่มนี้ดูก็ได้

หนังสือ : Turn on ร้อนรัก
โดย : อาณดา วิรมณรมิตา
จำนวน : 288 หน้า
.
"Turn on ร้อนรัก" ที่บอกเล่าเรื่องราว (อยากใช้คำว่าเปิดเปลือย แต่มันก็อาจจะดูแปลก ๆ) ของความสัมพันธ์ระหว่าง "ความรัก" และ "กามารมณ์" ในสังคมไทยมีลักษณะที่แปรเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีและยุคสมัย "Turn on ร้อนรัก" พยายามถ่ายทอดภาพของความรักและกามารมณ์ในสังคมไทย (สยาม) ผ่านเครื่องมือและสื่อกลางในการสื่อสารที่สามารถเข้าถึงคนหมู่มากของสังคมในแตาละช่วงเวลาที่แตกต่างกัน โดยที่ "Turn on ร้อนรัก" มุ่งเน้นไปที่เรื่องราวของความรักและวิถีกามารมณ์ของชนชั้นกลางไทย ที่ท้าวความมาตั้งแต่ช่วงต้นรัตนโกสินทร์ให้พอเห็นภาพของการขยับขยายและความเปลี่ยนแปลง สู่การบอกเล่าเรื่องราวของความรักและกามารมณ์ของคนชั้นกลางในประวัติศาสตร์ช่วงใกล้อย่างคน Gen Y และ Gen Z โดยเฉพาะในทศวรรษ 2540 - 2560 ชนชั้นกลางแยกเรื่องความรักและความสัมพันธ์ทางเพศออกจากกันอย่างชัดเจน และการเข้ามาของสื่อดิจิทัลที่ "Turn on ร้อนรัก" หยิบมานำเสนอเรื่องราวของ ความสัมพันธ์แบบเพื่อนร่วมสัมพันธ์ (friend with benefits) การนัดหรรษาทางเพศข้ามคืน (one night stand) รวมถึงกลุ่มลับโอนลีแฟนส์ (OnlyFans)
.
โดยเนื้อหาของ "Turn on ร้อนรัก" แบ่งการเล่าเรื่องออกเป็น 5 บทหลัก ที่ในแต่ละบทจะประกอบไปด้วยส่วนขยายที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของช่วงเวลา เทคโนโลยี เครื่องมือ ความรักและกามารมณ์ของชนชั้นกลางไทยที่ปรากฏตัวอยู่ในแต่ละบทแต่ละช่วงเวลา ทั้งยุคสมัยแห่งสิ่งพิมพ์ เพจเจอร์ SMS เบอร์โทร 1900 กระทั่งถึงยุคสมัยแห่ง OnlyFans, One Night Stand & Friend with Benefits ซึ่งเนื้อหาทั้ง 5 บทของ "Turn on ร้อนรัก" แบ่งไว้ดังนี้
.
1. ห้วงเวลาแรกแห่งรัก: การเดินทางของความรักและกามารมณ์ในสายลมแห่ง "ความรู้สึก"
.
2. จากจารีตสู่เสรีก้าวแรกในยุคเทคโนโลยี: การเปลี่ยนแปลงโลกทัศน์ของความรักในสังคมไทยก่อนทศวรรษ 2530
.
3. เทคโนโลยี ความรัก และวิถีกามารมณ์ จากความฝันแอนะล็อกสู่ชีวิตดิจิทัลของชนชั้นกลาง
.
4. ชีวิตทางอารมณ์และความเปราะบางของชนชั้นกลางในโลกดิจิทัล
.
5. บท (ไม่อาจ) สรุปของ "ความรัก"
.
จะเห็นได้ว่าเนื้อหาของ "Turn on ร้อนรัก" มิได้พูดถึงแต่เรื่องของความเปลี่บนแปลงในเรื่องของความรักและกามารมณ์แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ความเปลี่ยนแปลงของบริบทสังคมและชนชั้นที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนความหมายและเปลี่ยนเป้าหมายของความรักของสังคมไทยตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาก็เป็นอีกสิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ถูกนำเสนอไว้ใน "Turn on ร้อนรัก" ดังข้อความย่อหน้าหนึ่งในหนังสือที่ว่า "...ความรักจึงไม่ใช่พื้นที่ของอารมณ์ที่ไร้เหตุผลอีกต่อไป หากแต่เป็นพื้นที่ที่ความรู้สึกต้องทำงานร่วมกับเหตุผลอยู่ตลอดเวลา คนเราต้องรู้ว่า 'จะรักใครอย่างไรให้ไม่กระทบกับแผนชีวิต และ จะอยู่กับใครโดยไม่เสี่ยงต่อความไม่มั่นคงในอนาคต' ความรักจึงกลายเป็นพื้นที่ต่อรอง ที่คน 2 คนไม่ได้ต่อรองกัน ด้วยหัวใจเท่านั้น แต่ต่อรองกันด้วยตารางงาน เป้าหมายทางการ เงิน และวิธีคิดเรื่องอนาคตร่วมกัน" (น.189)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in