ประวัติศาสตร์มนุษยชาติฉบับวินาศสันตะโร by แปล คุณากร วาณิชย์วิรุฬห์ - รีวิวเว้ย (3)

รีวิวเว้ย (1839) "ฉิบหาย" เป็นคำกริยา (verb) ที่มีความหมายว่า สูญสิ้น, เสียหาย, หมดไป, หรือพินาศ โดยทั่วไปใช้เป็นคำด่า หรือคำแช่งในเชิงดูถูก หรือเป็นการแสดงความรู้สึกที่ไม่ดี นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในความหมายว่า "มาก" หรือ "เหลือเกิน" ในเชิงเปรียบเทียบ (นิยามโดย AI) พอลองเอาฉิบหายไปวางในหลายบริบทในภาษาไทยเราจะพบว่า "ฉิบหาย" ไม่ได้ถูกจำกัดแค่คำด่าเพียงอย่างเดียว อาทิ ใหญ่ฉิบหาย อิ่มฉิบหาย หนาวฉิบหาย หรืออย่างหนังสือ "ประวัติศาสตร์มนุษยชาติฉบับวินาศสันตะโร" ที่ "สนุกฉิบหาย"
หนังสือ : ประวัติศาสตร์มนุษยชาติฉบับวินาศสันตะโร
โดย : แปล คุณากร วาณิชย์วิรุฬห์
จำนวน : 264 หน้า
.
"ประวัติศาสตร์มนุษยชาติฉบับวินาศสันตะโร" หนังสือที่ว่าด้วยเรื่องของ "ความฉิบหาย" ในความหมายที่จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับย่อยยับ วิบัติ เพราะเนื้อหาที่ถูกบอกเล่าอยู่ในหนังสือ ส่วนมากว่าด้วยเรื่องราวและเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับความฉิบหายนับแต่อดีตกระทั่งถึงปัจจุบัน (2018 ช่วงที่หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์) โดยไล่เรียงตั้งแต่เรื่องฉิบหายของการวิวัฒนาการของมนุษย์ที่เริ่มจากการเดินหลังตรง เริ่มใช้เครื่องมือหินและการทำเกษตรกรรมเลี้ยงสัตว์ กระทั่งถึงความฉิบหายของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ที่สะสมทบต้นทบดอกกันตลอดมา
.
เรียกได้ว่าเนื้อหาในแต่ละบทของ "ประวัติศาสตร์มนุษยชาติฉบับวินาศสันตะโร" คือการนำเสนอมุมมองต่อความฉิบหายที่มนุษยทำให้เกิดมี ทั้งในระดับการกระทำของบุคคล ไปจนถึงการกระทำของคนเพียงคนเดียวที่หลายครั้งทำลายได้ทั้งอารยธรรม และหลายหนมันก็ฆ่าชีวิตของผู้คนไปเป็นหลักร้อยหลักพันกระทั่งหลักล้าน เพียงเพราะความฉิบหายที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ที่หลายครั้งไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของการตัดสินใจ แต่ดันเกิดจากการความสามารถทางสติปัญญาที่ดันโง่เกินคาด โดยเนื้อหาของ "ประวัติศาสตร์มนุษยชาติฉบับวินาศสันตะโร" แบ่งการเล่าเรื่องออกเป็น 12 บทดังต่อไปนี้
.
บทนำ รุ่งอรุณแห่งความฉิบหาย
.
บทที่ 1 สมองนั้นไม่ฉลาดอย่างที่คุณคิด
.
บทที่ 2 สภาพแวดล้อมแถวนี้ดีใช่ย่อย
.
บทที่ 3 ชีวิตย่อมมีหนทางของมัน...แหละนะ
.
บทที่ 4 ก้าวตามผู้นำ
.
บทที่ 5 พลังมวลชน
.
บทที่ 6 สงคราม หืม มันมีดีอะไรหรือ
.
บทที่ 7 งานฉลองสุดหรรษาของลัทธิล่าอาณานิคม
.
บทที่ 8 คู่มือการทูตสำหรับคนทึ่มและ/หรือประธานาธิบดีคนปัจจุบัน
.
บทที่ 9 เทคโนโลยีสุดดีงาม
.
บทที่ 10 ประวัติศาสตร์ฉบับย่อของการมองไม่เห็นสิ่งที่กำลังมาถึง
.
บทส่งท้าย ทำอนาคตฉิบหายป่นปี้
.
"ประวัติศาสตร์มนุษยชาติฉบับวินาศสันตะโร" ทำให้เราเห็นถึงความมั่นใจของมนุษย์ ที่มั่นใจแบบผิด ๆ และหลายครั้งชวนให้ตั้งคำถามว่า มึงไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน ? เพราะเมื่อพิจารณาจากเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในหนังสือจะพบว่าหลายครั้งหลายหนเรื่องใหญ่ขนาดที่สามารถทำลายทั้งโลกก็เกิดจากคนโง่ที่ดันมั่นใจในตัวเองและดันมีอำนาจ ความน่นสนุกอีกประการของ "ประวัติศาสตร์มนุษยชาติฉบับวินาศสันตะโร" เมื่อเราลองเอาเนื้อหาในบทที่ 4 บทที่ 5 และบทที่ 6 มาอ่านเหตุการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่กำลังดำเนินไป ณ เวลานี้ (พ.ศ. 2568) หรืออย่างกรณีที่กำลังเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง เราอาจจะเห็นเงื่อนงำของความฉิบหายที่หลายครั้งก็เกิดขึ้นมาจาก "คนโง่ที่ครองอำนาจ"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น