เห็นข่าวเรื่องแมนฯ ยูฯ จะแต่งตั้ง โชเซ มูริญโญ แล้วแอบเห็นใจ หลุยส์ ฟาล กัล นิดหน่อย คือถ้ามองในแง่ของแฟนบอลก็รู้สึกว่าสมควรแล้ว ถึงเวลาที่เฮียต้องไปแล้วแหละ อยู่มาสองปี ผลาญเงินทองไปมากมาย แต่ดันทำได้น่าผิดหวัง แม้จะได้แชมป์เอฟเอคัพ รูปเกมก็ทุลักทุเลจนอาจเรียกได้ว่าดวงมีส่วนมากกว่า แยกกันตอนนี้น่าจะดีกับทุกฝ่าย บายๆ นะ เฮียนะ

ถ้าอย่างนั้น ทำไมถึงเห็นใจฟาน กัล

หนึ่ง—ในฐานะของคนดูบ้างไม่ดูบ้าง รู้สึกว่าช่วงหลังๆ ขุมกำลังของแมนฯ ยูฯ นั้นอ่อนยวบจริงๆ แม้จะมีดาวรุ่งมาให้ตื่นตาตื่นใจ แต่นักเตะหลายคนก็ฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ ต่อให้เป็นเฟอร์กี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะพาทีมชุดนี้ไปได้ไกลกว่านี้มั้ย

สอง—การอยู่ใต้เงาของเฟอร์กี้เป็นอะไรที่ชวนกดดันแน่นอน คือนอกจากเรื่องความสำเร็จที่ทุกคนคาดหวัง การวางรากฐานแนวรุกหรือสปิริตที่สู้จนเลือดยิบตาของป๋าย่อมเป็นสิ่งที่แฟนบอลต้องการคนมาสานต่อ ซึ่งเชื่อว่าฟาน กัลก็ต้องการที่จะเป็นเช่นนั้นแหละ (แม้จะคนละแนวทางกัน) แต่อะไรๆ ก็คงไม่ง่ายอย่างที่คิด ยิ่งมีอดีตที่เรืองรองเอาไว้เปรียบเทียบ ไม่ว่าใครก็ต้องเป๋กันบ้าง

สาม—ปรัชญาของฟาน กัลเป็นสิ่งที่โดนแฟนบอลโจมตีอยู่เสมอ หลักๆ แล้วก็เพราะไม่เข้าใจว่าปรัชญาของฟาน กัลคืออะไร มันคือการวางตัวผู้เล่นที่ขัดใจแฟนบอลใช่หรือไม่ มันคือการเปลี่ยนตัวที่ชวนหงุดหงิดหรือเปล่า ปรัชญาที่ว่านั้นคือการทำหน้านิ่งทั้งเกม ไม่ไหวติงต่อรูปเกมที่เป็นรองด้วยมั้ย แล้วทำไมฟาน กัลถึงถึงเชื่อมั่นในปรัชญาของตนเองขนาดนี้

สี่—เวลาทำงานเราต้องการสมาธิฉันใด ฟาน กัลก็คงต้องการสมาธิฉันนั้น จริงๆ ข้อนี้อาจมองได้ว่าผู้จัดการทุกทีมเขาก็ต้องรับมือเหมือนกัน แต่กับฟาน กัล เมื่ออยู่ในทีมที่โดนจับตา พอเริ่มสะดุดไม่เป็นท่าก็เป็นธรรมดาที่จะโดนเล่นงานมากกว่าใคร ช่วงหลังๆ เราจะเห็นว่าฟาน กัลเริ่มคุมสติไม่อยู่ มีเหวี่ยงมีวีนสื่อ ซึ่งอาจมองได้ว่าไม่โปรฯ เลย อยู่วงการนี้มาเท่าไหร่แล้วทำไมไม่หัดระงับอารมณ์ แต่พอลองเอาตัวเองไปแทนแก คิดว่าก็คงฟิวส์ขาดไม่แพ้กัน ใครจะอยากรบรากับสื่อทั้งที่อีกไม่กี่วันข้างหน้าต้องคุมทีมลงฟาดแข้ง ใครจะอยากเจอหน้าพวกที่ออกข่าวว่ามีผู้จัดการทีมคนใหม่รอแทนที่เราอยู่ บางทีเรื่องนี้อาจรบกวนใจปรัชญาของแกมากก็ได้

อย่างไรก็ตาม ทุกข้อที่เห็นใจก็สามารถมองกลับมุมได้เช่นกัน ตัวผู้เล่นที่ผีเข้าผีออก อาจเป็นผลจากการวางแผนประหลาดๆ ของฟาน กัลเอง การไม่ยอมซื้อผู้เล่นมาเสริมทั้งที่เห็นรูโหว่อยู่เต็มตา การที่ทีมที่เคยสู้จนหยดสุดท้าย เปลี่ยนไปเป็นทีมที่เล่นแบบไร้อนาคต บอลไม่มีทรง หาช่องทำประตูไม่ได้ เป็นเพราะปรัชญาของฟาน กัลไม่ทันโลกแล้วหรือเปล่า แล้วการเผชิญหน้ากับแรงกดดันรอบด้านก็คงไม่เหนือบ่ากว่าแรง หากมองว่าเขาคนนี้เคยคุยทีมใหญ่มาแล้วมากมาย

การแต่งตั้งมูริญโญอาจไม่การันตีว่าจะได้ผลที่ดีกว่า แต่ก็คงคุ้มจะเสี่ยงกว่าการมอบอำนาจให้ผู้นำที่ทำทีมไม่เห็นอนาคต

เห็นใจก็เรื่องหนึ่ง นาทีนี้การตัดสินจากผลที่เกิดขึ้นน่าจะสำคัญกว่า