1
ผมดู The Lobster แล้วนึกถึงบ้านเกิดเมืองนอน
เปล่า—บ้านเรายังไม่มีองค์กรที่ดัดแปลงคนให้เป็นสัตว์ และยังไม่มีการบังคับให้มนุษย์ทุกคนต้องมีคู่ แต่ประเทศไทยมีบางสิ่งที่ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า หรือจริงๆ ภูมิศาสตร์ของสังคมแสนประหลาดจะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากละแวกนี้
2
The Lobster เป็นหนังว่าด้วยสังคมสมมติที่การเป็นโสดคืออาชญากร การอยู่ตัวคนเดียวคือการผิดบาป ใครที่ไม่อยากมีบาปติดตัวก็จงตรงไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ที่นั่นจะรวบรวมคนโสดเหมือนกับคุณไว้ให้ ขอแค่เปิดใจ คุณก็อาจลงท้ายด้วยการมีคู่ได้
ฟังแล้วเหมือนจะดูดี หากโรงแรมแห่งนั้นไม่ได้มีกฎว่า ห้ามเป็นโสดนานเกิน 40 วัน เพราะถ้านานเกินกว่านี้ คุณจะต้องกลายเป็นสัตว์!
ตอนได้ยินพล็อตนั้นตื่นตาตื่นใจ อยากเห็นการทรานส์ฟอร์มจากคนเป็นสัตว์แบบเต็มๆ ตา อยากรู้ว่าจากคนจะกลายเป็นหมา ม้า วัว ช้าง กุ้งได้อย่างไร
น่าเสียดายที่หนังไม่มีส่วนนี้ให้ชม
สิ่งที่หนังเปิดเผยให้เราได้แก่เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่หอบหิ้วความโสดไปยังโรงแรม เขาเลือกไว้ว่าหากรักคุดจริงๆ ก็จะกลายเป็นล็อบสเตอร์ แต่ระหว่างนั้น เขาก็บังเอิญไปผูกสัมพันธ์กับหญิงสาวนางหนึ่งที่ในเวลาต่อมา ความรักก็กลายเป็นความ fuck เมื่อหญิงสาวนางนั้นโหดสัดเกินจะกล่าว
เขาระหกระเหเร่ร่อนออกจากโรงแรม ไปพบกับสมาพันธ์คนโสดที่ไม่มีการเร่งรัดหรือบังคับให้ต้องกลายเป็นสัตว์ หากแต่มีข้อแม้ว่ามึงห้ามมีคู่ ไม่งั้นล่ะก็ บอกลาลมหายใจได้เลย
3
ทำไมเรื่องราวที่เกี่ยวกับความรักจึงทำให้นึกถึงบ้านเกิด
เอาเข้าจริง เมื่อดูการกระทำของพระเอกดีๆ ผมนึกถึงคำว่า ‘สลิ่ม’
ในที่นี้ไม่ใช่ของกิน และผมเชื่อว่าคุณรู้ความหมายของมัน
หากสังเกตพฤติกรรมของพี่หนวดตลอดเรื่อง จะเห็นว่ามีแต่ความยักแย่ยักยัน เหมือนจะแน่วแน่แต่ก็ไม่ เหมือนจะไม่อยากมีคู่แต่ก็เปล่า อยากโสดเหรอก็ไม่เชิง เป็นคนที่เหยียบเรือสองแคม และคาดเดาไม่ได้ว่ามึงคิดอะไรอยู่หรือมึงเป็นพวกไหน
หากเอามาสวมทับกับบริบทไทยๆ มีหรือจะไม่โดนหาว่าเป็นสลิ่ม!
4
ผมเองก็เป็นสลิ่ม
ย้อนกลับไปช่วงเหตุการณ์คุกรุ่นทางการเมือง ไม่ว่าสถานการณ์จะร้อนแรง หรือเชื้อเชิญให้ออกไปท้องถนนมากแค่ไหน ผมก็ได้แต่ปิดปากเงียบ
ไม่ใช่ไม่อยากแสดงออก แต่ตามไม่ทันต่างหาก
แม้จะเรียนจบทางด้านสื่อสารมวลชน แต่ผมเป็นมนุษย์ที่โง่เขลาทางด้านการเมือง
ไม่ว่าจะเรียนรู้แผนผังขนาดไหนก็ยังตามเกมไม่ทัน
เคยโน้มเอียงเห็นว่าสีหนึ่งน่าสนใจ เคยคิดว่าความเห็นของอีกฝ่ายเข้าท่า เคยหงุดหงิดเมื่อเห็นการกระทำบางอย่างของผู้นำ แต่ไม่ว่าอย่างไร พอสถานการณ์คุกรุ่น ผมก็ปิดปากเงียบ
หากผมเป็นโคลิน ฟาร์เรลล์ บางทีผมอาจเลือกคู่จากใครสักคนในโรงแรม มีลูกมากระชับความสัมพันธ์ ยอมปิดปากเงียบเพื่อจะได้ผ่านด่านทดสอบ
ผมคงไม่อยู่กับฝ่ายคนโสดแน่ๆ เพราะคงตายตั้งแต่วันแรก...
ทางไหนปลอดภัย ผมจะเลือกทางนั้นก่อน
5
ระหว่างดู The Lobster ผมรู้สึกอึดอัดตลอดเวลา
ผมชอบบรรยากาศแปลกประหลาดของโรงแรม แต่ก็ไม่ชอบกฎระเบียบที่เคร่งครัด การเร่งเร้าให้คนต้องมีคู่ หรือวิธีการแก้ปัญหาเมื่อความสัมพันธ์เริ่มสั่นคลอน—ก็วิธีเหล่านั้นมันช่างลวงหลอก เราจะยอมทำตามได้อย่างไรกัน
ผมชอบการเต้นเทคโนฯ ของเหล่าคนโสด แต่ก็ไม่ชอบกฎระเบียบที่เข้มงวด ไม่ชอบการแบ่งแยกว่าถ้าไม่ใช่พวกกูก็ต้องเป็นพวกมัน การสั่งห้ามไม่ให้มีอารมณ์ หรือการลงโทษเมื่อทำผิด—ก็วิธีเหล่านั้นมันมีแต่ความรุนแรง ไม่ว่าทำดีอย่างไร หากพลาดสักครั้ง เราก็ไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์
The Lobster ไม่มีทางเลือกตรงกลางให้เรา
หากไม่เห็นด้วย ก็ต้องพยักหน้า หากไม่ซ้ายก็ต้องขวา หากไม่ขวาก็ต้องซ้าย
เราโดนตีโต้ไปมาเหมือนลูกปิงปอง ไม่มีสิทธิ์แม้จะได้จับไม้
เมื่อตรรกะต่างๆ ในหนังมีแต่ทางเลือกสุดโต่ง ผมจึงนึกถึงบ้านเกิดเมืองนอน
แม้จะไม่ประทับใจตัวหนัง แต่ผมเข้าใจการกระทำของโคลิน ฟาร์เรลล์
ทำไมเขาต้องยักแย่ยักยัน ทำไมเขาต้องทำตัวกลมกลืนกับทุกฝ่าย
ปิดหน้าจอ มองไปข้างนอก
บางทีคุณเองอาจจะอยากหยิบมีดมาจิ้มตา!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in