เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Nichaday : เกาหลี 101nini2907
เกาหลี 101 | ตอนที่ 3 : coex and chaos
  • วันที่สามแล้ว
    ตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมอาการที่เริ่มเหนื่อยล้า และหน้าขาที่เริ่มตึงตุบๆ
    ก็เมื่อวานเดินทั้งวันเลย นั่งอยู่แป๊บๆละก็ลุกไปเล่นต่อแล้ว
    กลับมาถึงเกสท์เฮาส์ถึงรู้สึกถึงความขาชา
    ตอนเช้าเริ่มมีการเอาขาตึงๆไปเอาน้ำอุ่นราดใส่
    น้ำอุ่นในห้องพักก็ลำบากชีวิตเหลือเกิน
    ปรับไปซ้ายก็เย็นเป็นน้ำในตู้เย็นเลย ปรับมาตรงกลางยังน้ำตู้เย็น เบี่ยงขวาไปนิดเดียวกลายเป็นน้ำร้อนแบบต้มขาสุก
    เอายังไงกับเราอ่ะ ชีวิตเลยต้องปรับซ้ายปรับขวากับก็อกน้ำตลอดเวลา
    แต่ที่ปลื้มคือห้องพักสะอาดมาก ผ้าขนหนูในห้องที่เตรียมให้ถึงแม้จะผืนเล็กแต่ก็ซักใหม่เอี่ยมเปลี่ยนให้ทุกวัน แชมพูบวกครีมนวดก็หอม สบู่ก็ใช้แล้วตัวนิ่ม
    บวกๆลบๆกันไป

    กลับมาที่ไปเที่ยวสิ
    วันนี้มีแผนไปวัดพงอึนซา โคเอ็กซ์อควาเรียม แล้วก็ทงแดมุน
    กินขนมปังปิ้งเสร็จก็ไปกันเลยค่ะ

    ขึ้นรถไฟไปเหมือนเดิม แต่วันนี้ได้เห็นอะเมซิ่งโคเรียอีกแล้วค่ะ
    เราก็รู้นะว่าปกติรถไฟใต้ดินคนมันแน่น 
    แต่เพิ่งเห็นแน่นมากๆก็วันนี้
    เรากำลังจะไปวัดพงอึนซา ยืนรอรถอยู่ที่สถานีไหนซักอันนึง
    แล้วฝั่งตรงข้ามเป็นชานชาลาของรถไฟแบบด่วน เหมือนว่ารถไฟขบวนนั้นจะหยุดจอดสถานีที่สถานีน้อยกว่า


    รถฝั่งเรายังไม่มา แต่เราได้ยินเสียงสัญญาณของรถอีกฝั่งนึง
    หันไปพบกับคนเต็มคันรถ เต็มแบบยืนอัดกันเลย เห็นคนที่ยืนอยู่ในรถเอื้อมแขนมาดึงให้คนที่ยืนอยู่ริมนอกชิดประตูให้เข้ามาอยู่ในรถเพื่อให้ประตูปิดได้ พอประตูปิดได้เขาก็เอามือออก
    เรากับน้องที่ยืนมองอยู่ทำหน้าแหยใส่กัน 
    แล้วรถไฟขบวนนั้นก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วที่เราคิดว่ามันเร็วกว่าปกติ
    หรือเราอาจจะคิดไปเองว่ามันเร็วกว่าปกติก็ไม่รู้เหมือนกัน


    ก้าวเท้าลงจากรถที่สถานีพงอึนซา พบกับสถาปัตยกรรมแปลกๆวางเรียงกันอยู่
    ไม่รู้เหมือนกันว่าวางไว้ทำไม สถานีก็แทบจะไม่มีคนเลย
    แต่สวยดีนะ





  • เดินไปที่วัดพงอึนซา แดดแรงแบบแดดกรุงเทพนี่แหละ แต่ไม่ร้อนเลย
    เพราะอากาศมันเย็น
    เนี่ยแหละความดีของเมืองหนาว เป็นพี่ไทยเราคงหน้ามืดตั้งแต่เดินออกมาจากสถานีรถไฟ
    จำได้ว่าเลือกวัดนี้เพราะใกล้โคเอ็กซ์ แล้วก็เห็นว่ามีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่มากๆอยู่

    เดินเข้าไปในวัดเหมือนทางวัดกำลังมีเทศกาลอะไรซักอย่างอยู่ เห็นโคมประดับสีสวยๆ 
    บวกกับบทสวดของพระในวัดที่ดังกันตั้งแต่เช้าเลย





    ภายในวัดมีความคล้ายคลึงกับพระราชวังคยองบกอยู่ เหมือนก็อปปี้แล้ววาง ใช้สีเหมือนๆกัน รูปทรงคล้ายๆกัน 



    อ้อ เราเพิ่งรู้ว่าที่เกาหลีมีต้นเฟื่องฟ้าด้วย ไม่รู้ว่าจะตื่นเต้นทำไม แต่ไม่ได้เห็นต้นเฟื่องฟ้านานแล้ว ครั้งล่าสุดที่เห็นคงเห็นตอนมัธยมหก ต้นเฟื่องฟ้าอยู่ตรงหน้าเสาธงที่เข้าแถว

    ดันสรุปไปเองว่าเฟื่องฟ้าจะมีแค่ที่ประเทศไทยน่ะ เห็นชื่อมันไทยเหลือเกิน 





  • เดินไปยกมือไหว้ไป เดินไปไหว้พระองค์ใหญ่ตรงกลาง ไม่กล้าเข้าไปข้างในเพราะเห็นคนเกาหลีกำลังไหว้อยู่เต็มเลย ก็เลยยกมือไหว้แบบที่เคยทำกันอยู่บริเวณด้านนอก

    แต่ตั้งแต่เดินมาทั้งวัดยังไม่เจอพระเดินผ่านซักรูปเลย เจอแค่รูปที่กำลังนั่งหันหลังให้ตอนเราเดินผ่าน...บ้าน(?) กุฏิ(?) (ช่างเถอะ ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร) แต่เห็นท่านใส่ชุดสีเทาๆนั่งอยู่ที่พื้นบ้าน ก็เลยไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ๆ 

    ดูท่านมีสมาธิกับการสวดมนต์อยู่ เลยยืนมองอยู่ไกลๆ





    เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่มาก สังเกตตัวคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ ที่จินตนาการไว้ไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้ ไปยืนด้านหน้ารู้สึกได้ถึงความเคว้งคว้าง ใหญ่จนจะเก็บไม่หมดเฟรม 


     
    พื้นที่รอบๆมีหินก้อนๆเรียงต่อกันแบบนี้เยอะแยะเลย เหมือนกับเขาเชื่อกันว่าถ้ายิ่งต่อได้สูงเท่าไหร่จะยิ่งโชคดีใช่มั้ย เห็นทางซ้ายมือมั้ยคะ ก้อนสีขาวด้านบนสุดอยู่บนนั้นได้ยังไง อยู่มานานเท่าไหร่แล้ว จากที่สายตาดูไม่น่ามีชีวิตรอดอยู่บนยอดนั่นเกิดหนึ่งนาที แต่ตอนเรายืนถ่ายนี่นิ่งสนิทเลยนะ ถึงจะมีลมก็เถอะ


    เดินออกจากวัดด้วยความสงบ เดินไปฝั่งตรงข้าม จะไปพบมิตรรักใต้ท้องทะเลกันแล้ว
  • โคเอ็กซ์มอลล์เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ยักษ์ เดินไปหาทางเดินกลับไม่ถูก 
    ตอนที่เดินหาของกิน จับแผนที่เดินวนไปวนมาจนงง หลุดไปนู่น โรงแรมที่เชื่อมออกจากห้างไป
    เดินกลับเขินๆ แบบที่ไม่รู้ว่าจะเขินไปทำไม ไม่มีใครรู้กับเราหรอก

    และด้วยความเน้นของกินของพวกเรา พอได้เวลาเฉียดๆเที่ยง เริ่มยืนดูแล้วว่ามีอะไรกินบ้างนะ
    เรื่องกินเป็นเรื่องที่ต้องปรึกษากันอยู่สม่ำเสมอ
    เห็นร้านจิมดัก (ถ้าเรียกแบบไทยๆคงเป็นไก่ตุ๋นซีอิ้ว) ในโปสเตอร์ร้านอาหาร ก็ทดไว้ในใจเป็นหนึ่งตัวเลือก เดินวนไปวนมา มาเจอร้านจิมดักที่ว่านั่น ยืนลังเลอยู่หน้าร้านซักพัก ก็มีคุณป้าก็เดินมาชวนให้เข้าไปกิน ถามเรื่องราคากับป้านิดหน่อย ป้าแอบทำหน้าปูเลี่ยนใส่ด้วยตอนเราพูดภาษาอังกฤษ แต่พอพูดเกาหลีงูๆปลาๆเท่านั้นแหละ หน้าป้าก็ดูดีขึ้นเลย

    ป้าห้ามหวังกับหนูมากกว่านี้ หนูพูดได้นิดเดียวจริงๆค่ะ......



    อาหารมาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง จับเข้าปากเลย
    อาหารมาแบบนี้สองจาน ข้าวอีกสามถ้วย
    ตอนแรกที่อาหารมาลงแอบคุยกันว่าจะพอมั้ยอ่ะ ไม่พอสั่งข้าวเพิ่มแล้วกัน
    แต่กินไปๆ มันตึงมาก มันฝรั่งอร่อยจนเผลอซัดไปหลายชิ้น 
    ตัวไก่ก็นุ่มดี แต่น้ำซอสกินมากๆเข้าก็เริ่มเค็ม ที่ชอบสุดคือวุ้นเส้น(?) มันหนึบๆเคี้ยวสนุกดีจังเลย

    ท้ายๆจานเริ่มเกี่ยงกันแล้วว่าใครจะกิน มันอิ่ม 555555555

    แต่คนเกาหลีโต๊ะข้างๆ พนักงานออฟฟิสผู้หญิงตัวเล็กๆมากันสองคน กินไก่จานเท่าเรากับข้าวอีกคนละถ้วย

    เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่าคนเกาหลีกินเก่ง  แต่เราก็บอกไปว่าเราน่าจะกินเก่งกว่านะ
    พอมาเห็นวันนี้แล้ว อืม.... เขากินเก่งกว่าจริงๆแหละ


    อิ่มแล้ว ไปดูปลากันเถอะ
    อควาเรียมในห้างโคเอ็กซ์อันนี้จะว่าไปคงจะคล้ายๆกับสยามโอเชียนเวิร์ลกลางพารากอนของพี่ไทย
    แต่อยากลองไปดูเพราะอยากรู้ว่าข้างในเป็นไงแหละ ชอบดูปลาด้วย 
    ปลาเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารัก ดูไม่ค่อยมีพิษมีภัยกับเรา
    ยกเว้นปลาฉลามกับปิรันย่านะ นั่นเราก็กลัวอยู่
    รู้สึกว่ามันเคลื่อนไหวแล้วน่ารักอ่ะ ไม่รู้เหมือนกัน



    เดินเข้าอคาเรียมด้วยสปีดสูง เพราะกลัวไปไม่ทันการแสดง ในนั้นมีการแสดงเกือบทุกชั่วโมงตั้งแต่เที่ยงๆ
    เพราะไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนเลยกะไปสำรวจให้รู้ก่อนว่าตรงไหนเป็นอย่างไร
    ภายในจัดไว้เป็นห้องๆตามถิ่นที่อยู่ มีจุดให้ถ่ายรูปเยอะเหมือนกันนะ 
    เข้าไปเจอเจ้านีโมกับเจ้าดอรี่ต้อนรับอยู่เป็นอย่างแรกเลย สวยงามตามท้องเรื่อง
    เอาจริงๆจำไม่ได้แล้วว่าลำดับแต่ละห้องมีอะไรบ้าง และนี่เป็นรีวิวที่มีคอนเซปต์ไม่เปิดข้อมูลเที่ยวที่หามา เอาแค่ที่จำได้พอ (เพราะแค่นี้ก็เยอะแยะสิบบรรทัดแล้ว)

    แต่แต่ละห้องก็จะมีสิ่งมีชีวิตตามถิ่นที่อยู่ของมันแหละ ปลาแถบอะเมซอน ปลาน้ำเค็มน้ำจืด







  • จำได้ว่ายืนมองปลาตัวนี้นานมาก เพราะลายสวย น้องไม่เคยเห็น อยากให้พี่เขาออกมาจากมุมโขดหินที่พี่เขาแอบอยู่
    แต่พี่เขาก็นิ่งสนิทตอนอยู่ตรงนั้น ไม่แน่ใจว่าพี่หลับหรืออะไร
    คิดจะเคาะตู้เรียกแต่ก็นึกได้อีกว่าที่ไหนๆก็มักจะติดป้ายบอกว่าอย่าเคาะเรียกสัตว์ออกมา 
    ก็เลยปล่อยให้พี่เขาอยู่เงียบๆต่อไป 

    มีห้องนึงที่เราชอบมาก เราตั้งชื่อมันเองว่าห้องตู้ปลา เขาเอาของใช้ในชีวิตประจำวันมาเป็นตู้ปลา เช่น ทีวี ชักโครก ตู้เย็น เครื่องซักผ้าฝาหน้า ตู้โทรศัพท์ หรือไม่ก็จัดตู้ปลาให้เป็นธีมต่างๆ ปลาในห้องนอน  ปลาในครัว อะไรแบบนี้ ปลาก็น่ารัก ตัวเล็กๆ 





  • เดินไปเรื่อยๆบางทีก็เจอสิ่งมีชีวิตประหลาดๆที่ชีวิตนี้ไม่เห็นจะเคยรู้จัก ตอนอ่านป้ายก็รู้ว่ามันคืออะไร อยู่แถวไหน กินอะไรเป็นอาหาร แต่พอเดินเลยป้ายอันนึงมาที่ป้ายอีกอันนึง ก็ลืมป้ายก่อนหน้าแล้ว .... ทัศนศึกษาคงไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่





    ความท้าทายอย่างนึงของที่นี้สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป แต่ถ่ายไม่ค่อยจะเป็นอย่างเรา สำหรับที่นี่คือการถ่ายรูปในโฟกัสที่สิ่งที่เราต้องการ เพราะกล้องมันชอบไปโฟกัสอย่างอื่นที่เราไม่เอาหมดเลย ขอนไม้บ้าง ก้อนหินบ้าง อื่นๆบ้าง อะไรก็โฟกัสอ่ะ แต่ไม่โฟกัสปลากุ้งหมูหมึกที่หนูจะถ่ายเลย และด้วยความทำเวลา ภาพก็เลยน่าหงุดหงิดเล็กน้อยถึงปานกลาง



     
    เฟลพอๆกับตอนที่ถ่ายพิซซ่าชีสที่เอเวอร์แลนด์แล้วลืมลด iso 
    ฝีมือเจ้ายังอ่อนหัดนัก 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in