เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The A Choke's Storyviebreeze
I'm OK












  •        ในราตรีกาลอันเงียบสงัดผู้คนต่างหลับใหลถนนใหญ่ร้างรถราสัญจรไปมา มีเพียงไฟสีแดงตามไหล่ทางในตรอกแคบ ณ ย่านซัทเธิร์คที่ยังมิหลับใหล ยังปรากฏคลับสไตล์วินเทจแห่งหนึ่ง ภายในประดับด้วยโคมไฟชิดผนังสีเหลืองอุ่นมีแผ่นไม้กางเขนติดอยู่ข้างกระจกวงรีกรอบเคลือบทองเหลือง.

    .

    .

    .







            ผมจ้องมองตนเองในกระจก  สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางกระชับไทด์ให้แน่นเอามือล้วงกระเป๋าเรียกความเชื่อมั่น แชมเปญชั้นดีถูกวางไว้บนโต๊ะบาร์เรียบร้อยผมนับถอยหลังรอ อีกไม่ช้าเธอก็จะมาถึง  แล้วเราก็จะได้ฉลองกัน บทเพลงที่คุ้นหูเริ่มบรรเลงร่างบางที่คุ้นเคยก้าวเข้ามา เราสบสายตากันเพียงครู่ 







           ปีโนนัวร์ถูกเสิร์ฟครั้งแล้วครั้งเล่า เธอดื่มดมมันมิรู้เบื่อ เหล่าหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ผู้คนมากหน้าหลายตา ต่างแวะเวียนเข้ามาทักทายกระทั่งผมเริ่มขับกล่อมเพลงโปรด....ของเรา เธอจึงเงยหน้ามองมายังผมเราสองสอดประสานสายตากันนานเนิ่น 





          ซึ่งนั่นหมายถึงปฏิกิริยาเคมีสัมพันธ์กายเริ่มต้นขึ้นแล้วผมก้มหน้า หลับตานิ่ง แล้วสูดลมหายใจลึกเข้าเต็มปอด

    .

    .

    .




    สัญชาตญาณในส่วนลึกสั่งให้ผมพาเธอไปยังแดนทิพยวิมาน ณ ที่แห่งนี้เราต่างใกล้ชิดกันมากขึ้น 

     



                เธอ...ช่างงามจนผมมิอาจต้านทานผมไม่มีอะไรที่จะเสกสรรปั้นให้ มีแต่เพียงดอกคัตเตอร์หนึ่งก้านนี้ขอวอนเพียงช่วยรับมันไว้เถิด  ผมกล่าวกับเธอจูบพรมเบาๆบนมือเรียว แล้วค่อยๆกระชับโอบเธอมาชิดกายอย่างทะนุถนอม 









    เรากอดกัน แนบชิดอิงกายอยู่ครู่ใหญ่ขณะเพียงสัมผัสปลายลิ้น กลิ่นรสฝาดของปีโนนัวร์ ชวนเคล้าคลึง เคลิบเคลิ้มอย่างนิทรารมย์กระทั่งเสียงเพลงโปรด...ของผมบรรเลงใกล้มาถึงท่อนสุดท้าย

    .

    .

    .


    ผมเงยหน้าขึ้นจากไมค์ตัวเก่ง ดึงสติกลับมาที่เพลงเตือนใจว่าไม่ควรก้าวล้ำเส้น

     



    " Baby don't worry I'm OK " ก่อนบทเพลงนี้จะจบลงผมช้อนสายตามองไปยังเธออีกครั้ง เพื่อส่งความรู้สึกผ่านเพลง

    .

    .

    .




    หญิงสาวหันหน้ามามองเขาอยู่แค่ชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆจางเลือนไปกับหมอกบาง ทิ้งไว้แต่เพียงชายหนุ่มผู้โดดเดี่ยว เขานั่งชันเข่า หลังแกร่งพิงผนังโทรม 










    แววตาคมหลุบต่ำลงเสียงทุ้มตัดพ้อกับตนเองซ้ำไปซ้ำมา ว่า "Baby don't worry I'm OK แค่ได้รักเธอไปแบบนี้ก็ดีแล้วมันคือความหวังดี" เขาเอาแต่พูดประโยคเดิมซ้ำๆ เนิ่นนานราวหนึ่งชั่วยาม  


     กระทั่งฟ้าเริ่มสาง เขาชันกายลุกขึ้นปราดคว้าโค้ทขนเฟอร์สีโกเมน ย่ำฝีเท้าออกจากตรอกเปลี่ยวไปทิ้งไว้เพียงก้านดอกคัตเตอร์ที่แห้งเหี่ยว





                                       ดิเอโชคนึกขึ้นได้ว่าปลาทูว์ทอดฝีมือนุชหญิงคนรักนั้นกำลังรอเขาอยู่....





                                   *******************THE END****************

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in