เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
JAPAN AND MEfindingtheocean
หลากหลายความรู้สึก
  • เราว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่บางทีผู้คนก็ดูเหงา อาจจะเป็นเพราะความเร่งรีบในความเงียบ วันแรกที่เราเข้าในตัวเมืองโตเกียวตอน 8 โมงเช้าผู้คนในสถานีรถไฟฟ้าต่างเดินกันอย่างรู้ว่าตัวเองต้องหลบอะไรไปทางไหน ไม่มีสะดุดไม่มีกึกกัก ทุกอย่างเหมือนหุ่นยนต์ไร้อารมณ์เดินสวนกัน ไม่พูดไม่จา เราไม่กล้าเข้าไปแทรกจังหวะนั้นเลย ได้แต่ยืนอยู่กับที่เฉยๆ หลบตรงมุมเสาเพราะกลัวจะไปชนพวกเค้า ซึ่งมันเป็นภาพจำสำหรับเรามากเสียงตอนนั้นที่ได้ยินคือ จังหวะสับขาและสัญญานเตือนรถไฟเข้าออก เสียงรภไฟที่กำลังวิ่งอยู่ในราง ไร้ซึ่งเสียงของการพูดคุยกัน ภาพแบบนี้เราว่ามันเหงามากกว่าคำว่าวุ่นวายด้วยซ้ำ



    ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ติดอันดับต้นเรื่องความจริงจังในการทำงาน จริงๆ เราว่าเค้าก็จริงจังกันทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเล็กหรือน้อย อาเราอยู่ที่ญี่ปุ่นมา 30 กว่าปีเรามักจะได้ยินอาบ่นถึงความเป็นคนญี่ปุ่นเสมอ ว่าน่ารำคาญ เอาจริงเราไม่เคยคิดถึงคำนี้เลยนะ ไม่เคยคิดว่าความเป็นญี่ปุ่นจะทำให้ใครรำคาญ อาจจะเป็นเพราะเรามาแบบฉาบฉวยเลยไม่รู้ถึงความรำคาญที่อาพูดถึง 


    นอกจากความจริงจังที่ได้เห็นแล้ว เราได้มีโอกาศไปเดินเที่ยวในสวนสาธาราณะอย่างอุเอโนะ ภาพที่เราเห็นคือคนสูงอายุจำนวนมาก เคยอ่านเจอว่าญี่ปุ่นเตรียมรับมือเรื่องการกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ส่วนภาพที่เราเห็นในวันนั้นคือ ผู้คนเหล่านั้นมีท่าทีที่เหงา พูดไม่ถูกแต่มองแล้วสัมผัสได้ บางคนมีแผลเต็มตัวมีของติดตัวอยู่อย่างเดียวคือหนังสือพิมพ์ไว้สำหรับปูนอน ส่วนบางคนนั่งอยู่พร้อมกระเป๋าหนึ่งใบที่เหมือนเต็มไปด้วยเสื้อผ้าหรือของใช้จำเป็นหรืออะไรอย่างอื่นที่เราก็ไม่รู้


    เราถามอาว่าทำไมเค้าถึงมาอยู่แบบนี้กัน อาก็บอกว่าจริงๆ พวกนี้ส่วนใหญ่แล้วทะเลาะกับลูกมาบ้าง กับคนในครอบครัวเองบ้าง คนบางส่วนไม่สะดวกใจที่จะมีพ่อแม่อยู่ด้วยเมื่อแก่เฒ่า ตัวพ่อแม่เองก็ตัดความรำคาญไม่อยากอยู่ร่วมด้วยสู้ออกมาเป็นคนไร้บ้านสบายใจกว่า คิดในใจว่าแบบนี้ก็มีหรอ ผู้คนไม่สนใจคนเหล่านี้ด้วยซ้ำเดินไปมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ เคยดูช่องยูปทูปของทีวีบูรพาไปสำรวจย่านคนไร้บ้านของญี่ปุ่น มีการแจ้งถึงข้อมูลว่าคนไร้บ้านลดจำนวนลงทุกปีเพราะรัฐมีการจัดหาที่อยู่ให้ ทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงพันกว่าคนซึ่งน้อยมากถ้าเทียบกับเมืองใหญ่ในประเทศอื่น 


    แววตาและท่าทางจากรายการที่เราดูยิ่งเห็นชัดขึ้นเมื่อมาเจอคนเหล่านี้ในสวนนี้ เหมือนเป็นการรวมตัวคนเหงาเลย แต่จะไม่มีการมานั่งของเงินนะอันนี้ยังไม่เคยเห็น แต่จริงๆ เราก็ไม่ควรไปคิดแทนหรอกว่าเค้าเศร้ารึเปล่าเค้าอาจจะมีความสุขก็ได้ ใครจะรู้


    การที่เราได้มาสวนสาธารณะครั้งนี้เราเกิดความรู้สึกหลายอย่างมากๆ มันก็ไม่เชิงหดหู่ซะทีเดียว เพราะยังมีอีกหลายอารมณ์ที่เราเจอตอนนั่งเล่น เช่น มีแก๊งลุงนั่งก๊งเหล่ากันอยู่ในสวน เฮาฮาเสียงดัง บางก็ยังนั่งไหว บางก็หลับคาแก้ว สภาพเละเทะกันหน้าดู คนวิ่งออกกำลังกายกับคนพาหมาแมวมาเดินเล่นก็เป็นหนึ่งไอเทมที่อยู่คู่กับสวนอยู่แล้ว 



    คนที่เพิ่งเลิกงานได้เห็นชุดซารี่แมนเดินออกมาฟังเพลง คุยกันอยู่ในสวนอย่างไม่เร่งรีบ คุณยายที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่คนเดียวที่ส่องจนหน้าหนังสือพิมพ์จะทะลุพร้อมทำหน้านิ่วคิ้วขมวด อยากรู้มากว่าแกคิดอะไรอยู่ฮ่า 


    และที่เยอะพอๆ กันคือคนที่เดินถือกระป๋องเบียร์แต่หัววัน นั่งกับเพื่อนบ้างคนเดียวบ้าง จริงๆ ในเมืองไทยตามสวนใหญ่ๆ ก็คงพอมีให้เห็นแหละ แต่เรามันเด็กเกาะ เลยไม่เข้าถึงวัฒนธรรมกรุงเทพสักเท่าไหร เลยไม่เคยเดินสวนในไทยเลย 


    สวนสาธารณะเป็นที่สำหรับทุกอย่างที่จะเป็นได้จริงๆ ทั้งยังบ่งบอกตัวตนของประเทศนั้นๆ ได้อีกนะเราว่า การผ่อนคลายก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม การที่ได้มันเห็นแง่มุมใหม่ๆ เราว่ามันก็ได้เรียนรู้เยอะเหมือนกัน 



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in