นี่คือความเรียงชิ้นเเรกของเราในเว็บไซต์นี้ ประเด็กเนื้อหาในความเรียงนี้ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย เราเพียงเเค่ต้องการพื้นที่ในการทดลองงานเขียนต่างๆ บางทีมันอาจจะแย่ แย่มาก หรือแย่มากๆ สำหรับใครหลายๆ คนที่อาจจะหลงเข้ามาอ่าน
เราเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก ชอบมาตั้งเเต่เด็กๆและยังคงชอบต่อไปเรื่อยๆ อ่านมาหลายเล่ม จนคิดว่าเกินหนึ่งร้อยเล่มไปเเล้วแหละ บางเล่มที่เราชอบเราก็อ่านซ้ำไปหลายครั้งอีกเช่นกัน บางเล่มอาจถึง 5 หรือ 6 รอบเลย เเต่ก็เหมือนที่ใครๆบอกไว้ "หนังสือเล่มเดิมตอนจบก็ต้องเหมือนเดิม"
จากประโยคที่เขียนไว้ข้างบน เราว่ามันคือความจริง ใช่ หนังสือไม่สามารถเปลี่ยนเนื้อหาของตัวมันเองได้เเน่นอนอยู่เเล้ว เเต่ทั้งนี้เรากลับมีเหตุผลในการที่กลับไปอ่านหนังสือเล่มนั้นซ้ำอีกหลายรอบ เหตุผลสำคัญคือ เวลา
เวลา เปลี่ยน ทุกอย่าง เปลี่ยน
หนังสือเล่มเดิม จำนวนหน้าเท่าเดิม หน้าปกเดิม ตอนจบก็เหมือนเดิม (ไหนละเปลี่ยนตรงไหน) บางคนคงเดาได้แล้วแหละว่า สิ่งที่เปลี่ยนไม่ใช่ตัววัตถุอย่างหนังสือ เเต่สิ่งที่เปลี่ยนไปเเละเปลี่ยนไปอย่างแน่เเท้คือ ความคิด ใช่ ความคิด ยิ่งความคิดของมนุษย์ด้วยแล้ว ความเร็วในการการเปลี่ยนแปลงอาจจะนับกันเป็นหน่วยวินาทีเลยก็เป็นได้ เเล้วทำไมต้องพูดเรื่องนี้ละ
ที่พูดก็เพราะ สำหรับเรามีสิ่งที่ยึดโยงตัวตนเมื่อครั้งอดีตและปัจจุบัน สิ่งนั้นก็คือหนังสือแหละ จะด้วยอะไรก็ตามเวลาเรากลับมาอ่านหนังสือเล่มเก่า เล่มที่เราชอบ เรากลับมีความรู้สึดร่วมไปกับมันทุกครั้ง อาจะไม่ได้เป็นความรู้สึกตื่นเต้นเวลาพลิกกระดาษไปหน้าต่อไป แต่มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย ความรู้สึกเหมือนเรากลับมานั่งเล่นพูดคุยกับเพื่อนคนเก่าที่นานๆจะมีโอกาสได้เจอกันสักครั้ง มันเป็นความรู้สึกคุ้นชินแม้จะรู้ว่าเรื่องราวที่เล่ามาคือเรื่องราวเดิมๆ ที่ในอดีตเราเคยเจอร่วมกันมาเเล้ว เเต่ในความรู้สึกคุ้นเคยนั้นกลับมาชุดความคิดเล็กๆ กับบางประโยคที่สะกิดใจเรา เเม้จะเคยอ่านเจอประโยคนี้มาเเล้ว เเต่ด้วยเวลาที่คอยเป็นตัวแปรสำคัญในชีวิต ทำให้เรากลับพบว่า บางประโยคที่เราคุ้นเคยกลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เวลาช่วยขัดเกลา ทั้งความคิด ชีวิต และจิตวิญญาณ
ในสภาวะที่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ตอนจบของหนังสือก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in