-
---รวมพล คน(จนไม่เจียม) ยกแก๊ง---
“ทำไมต้องเป็นปีนี้ ไปปีหน้าไม่ได้หรอ หนูวีซ่าจะหมดแล้ว”
เสียงยัยหญิง น้องที่ทำงานและเพื่อนร่วมทางของฉันปีที่แล้วทำเสียงแหวใส่ฉัน ส่วนฝ้าย น้องอีกคนที่เป็นเพื่อนยัยหญิง แต่นิสัยต่างกันสุดขั้ว ยังกับขั้วบวกขั้วลบ ไลน์ตอบฉันมาคำเดียวหนักแน่นสไตล์ฮิปสเตอร์ว่า ไปด้วยค่ะ ฉันต่อสู้กับความง้องแง้งของยัยหญิงสักพัก นางทนความยั่วยวนของแผนเที่ยวฉันไม่ได้ หลังจากที่ฉันเปิดแผงขายกับนางอยู่สองสามประโยค ‘ฉันว่าจะไปขับรถถนนสาย 1 เลียบแปซิฟิกจากซีแอตเทิลลงมาซานฟรานนะ เค้าว่าสวยมากกกก และจะไปโยเซมิติด้วย ‘ ฮ่าๆ คีย์เวิรด์ของฉันอยู่ตรง โยเซมิติ นี่แหละ
หลังจากหญิงกับฝ้ายหลวมตัวเป็นเหยื่อในการขายของตรงๆของฉันแล้วทั้งสองคน ฉันก็ไปโฆษณาชวนให้หลงเชื่อกับเพื่อนและน้องพี่ที่ทำงานมาได้อีกหลายคนคือพี่น้อย น้อง (ซึ่งตกหลุมพรางของฉันง่ายๆ เพราะนางมีวีซ่าอเมริกาอยู่ก่อนแล้วเหมือนกัน) ก้อย และบอย ซึ่งตกลงจะมาร่วมหัวจมท้ายกันตลอดทริปสิบวันของฉัน
ยังไม่พอ! ยังมีอีกหนึ่งก๊วนสมาชิกยุค Golden Age สนใจเข้าร่วมด้วย คือพี่พู่ สาวเสียงสูงดังกังวานพร้อมพี่ตุ้ย สามีดีเด่นผู้นิ่มนวล พี่นุช สาวหวานธีมญี่ปุ่นมูจิ และพี่เอ๋ สาวอินดี้ สบายๆพร้อมเพย์ที่จะบินตรงจากเชียงใหม่ แต่ด้วยความที่ลางานมาได้น้อยวัน แก๊งนี้จึงขออยู่เที่ยวด้วยกันกับชาวเรารถบ้านเพียงสามสี่วันเท่านั้นที่ซานฟรานซิสโกและโยเซมิติ
-
ทริปนี้ ฉันคาดหวังเต็มที่ว่าจะออกมาดี เพราะอย่างไรเราก็มีตัวช่วยเป็นเพื่อนสาวสองคนที่เดินทางไปเจ็ดย่านน้ำด้วยกันมาแล้ว คือก้อยกับบอย
ส่วนพี่น้อยนั้น เราเพิ่งกลับจากทริปไทเปด้วยกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เรามีรสนิยมคล้ายกันหลายอย่าง เรื่องเที่ยวด้วยกันในที่ไกลๆและระยะเวลายาวๆก็ไม่น่ามีปัญหา ทั้งก้อยและพี่น้อยเป็นสาวบุคลิกเรียบร้อยเนี้ยบเป็นระเบียบแต่พูดเก่ง
บอย เพื่อนสาวร่างบึก ที่มีโครโมโซมXกับY ตีกันจนยุ่ง วันไหนเธอเกิดอยากแมนขึ้นมาก็ยกน้ำยกลัง วันไหน Xรบชนะ องค์หญิงลงเต็มรูปแบบ เธอก็จะนุ่มนิ่ม เปิดฝาขวดน้ำขึ้นมาไม่ได้ซะงั้น
บอยคุ้นเคยกับแผนเที่ยวดุเดือดของฉันมาจากหลายๆทริป ฉันไม่ต้องหว่านล้อมมาก เพียงแต่ต้องคอยบีบบังคับให้คุณเธอไปทำวีซ่าให้ได้เสียก่อนพร้อมก้อย และหญิงที่วีซ่ากำลังจะหมด
ปัญหาใหญ่ของทริปที่ต้องเดินทางยาวไกลข้ามทวีปและวันเวลาที่ต้องค้างอ้างแรมหลายวันอย่างอเมริกา ไม่ใช่เรื่องอะไร นอกจากเรื่องของตัวเงิน ฮ่าฮ่า ไหนจะค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าช้อปปิ้งและค่าอาหาร โดยเฉพาะกับก้อย บอย และฉัน จะกุมขมับกับเรื่องนี้มากกว่าคนอื่น แม้พี่น้อยจะเสนอว่า เธอจะขุดไหกิมจิฝังดินใส่เงินพันชั่งของเธอขึ้นมาให้น้องๆกู้หนี้ยืมสินตลอดทริปก็ตาม ฉันก็ยังไม่เบาใจ และนี่คือ จุดกำเนิดของแผนการณ์อันน่าตื่นเต้นและน่ากลัวไปพร้อมๆกันของฉันที่จะมัดมือชกเหล่าสมาชิกในสเตปต่อไป
-
---แกจะพาฉันไปเข้าค่ายหรอ!???---
พี่น้อยลั่นคำถามออกมาเป็นตัวอักษร บนหน้าไลน์ ในกรุปแชต หลังฉันนำเสนอรูปแบบการเที่ยวของเราครั้งล่าสุดว่า “แต่น แตน แต๊นนน เราจะไปขับรถบ้านกันนะค้า ” พร้อมยัดข้อดีของการขับรถบ้านว่า ประหยัดกว่านอนโรงแรม แถมได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญ มันคือวิถีการเดินทางยอดฮิตของคนอเมริกันฟากตะวันตก!
“ใครๆก็ขับรถบ้านในอเมริกา โดยเฉพาะทางแถบตะวันตกนะ เที่ยวแบบอเมริกันโดยแท้จริงคือ การขับ RV นะแจ๊ะ!!”
ฉันอัดคำโฆษณาผสมโม้เข้าไปแบบเต็มสตีม ฉันมีตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพคือก้อยและบอย ซึ่งเคยไปทริปรถบ้านทริปแรกกับฉันที่นิวซีแลนด์มาแล้วเหมือนกัน ถึงแม้ครั้งนั้น เพื่อนฉันจะเป็นคนขับ และฉันเป็นแค่เนวิเกเตอร์ก็ตาม ก้อยคอยชงคอยรับลูกให้ฉันปิดดีลกับลูกทัวร์คนอื่นได้สำเร็จภายในเวลาอันสั้น ฉันให้ความมั่นใจกับทุกคนว่า ฉันคุ้นเคยกับการขับรถบ้านที่นิวซีแลนด์มาแล้ว ตอนที่ไปทัวร์อาวุโสกับครอบครัวครั้งที่สอง การขับคนละด้านไม่มีปัญหา เพราะฉันก็เคยขับในอเมริกาแล้ว
เราแค่เอาสองประสบการณ์นั้นมาผนวกเข้าด้วยกัน ก็น่าจะรอด(ละมั้ง)
บอย : อย่าไปกลัว เนตรนารีก็ผ่านกันมาแล้ว (พวกฉันอ่ะผ่าน แต่คุณเธอน่าจะผ่านลูกเสือมะ)
พี่น้อย : ของฉัน ยุวกาชาด พอไหวมะ
-
ขอขอบคุณ คุณเลดี้บอย ที่ทำให้ฉันปิดดีลรถบ้านไปได้อีกวาระหนึ่ง
ป.ล. ทริปของฉัน ไม่ได้ปิดยอดเสียที เพราะสุดท้าย ฉันได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์รถบ้านมาอีกคนคือ น้อง ที่มีวีซ่าพร้อมอยู่แล้ว และดูจากโปรไฟล์การเที่ยวของนางในแง่ของความลุยและสู้งานหนัก (นี่จะไปเที่ยวหรือไปค้าแรงงาน?) เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะหลอกล่อให้มาร่วมวิบากกรรมด้วยกัน
ตอนนี้ ทริปของฉัน เริ่มมากคนแล้วจะมากความ แค่เนตรนารีในรถบ้านก็ปาเข้าไปเจ็ดคน อาศัยว่าจะไปนอนแออัด เบียดๆในรถเอา แต่หารกันแล้วมันถูกดี อันที่จริงแล้ว ก็ไม่ถูกต้องหรอกค่ะ เพราะรถบ้านที่จะจอง มันสำหรับห้าคน (แต่ท้ายสุดแล้ว ก็จะมีเหตุให้บังเกิดความถูกต้องขึ้นจนได้สิน่า)
อ้าว? แล้วคณะ Golden Age ล่ะ? ไม่ต้องห่วงค่ะ คณะนั้น ประกอบไปด้วยสี่คนและมีพี่ตุ้ยเป็นหัวขบวน จะขับรถเก๋งอีกคันที่ฉันจัดการจองให้เสร็จสรรพ ระหว่างที่นั่งรถไปโยเซมิติ อาจมีเพื่อนสมาชิกเนตรนารีบางคนมาอาศัยที่ว่างในรถของคณะไฮโซยกแก๊งได้ด้วย
โอเค! เก้าคนกับรถสองคัน ฉันขอถือโอกาสปิดรับสมัครสมาชิกร่วมค่าย ณ บัดนี้ !
-
เมื่อเหตุการณ์พลิกผัน Dream Team (ดรีมทีม) หายไปสอง!!!!
เช้าวันหนึ่ง เมื่อฉันตื่นนอนขึ้นมาตามเวลาสายเป็นปกติ เอ๊ะ มี Missed callsจากเพื่อนก้อยตอนเวลาเช้าตรู่จัดๆ เข้ามาสองสามสาย เออ ใช่ วันนี้ ก้อยกับบอยไปยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตอเมริกา คงโทรมาแจ้งผลว่า ผ่านฉลุยราบรื่น หรืออยากโทรมาเล่าเรื่องขำๆ ระหว่างยื่นเรื่องแน่ๆ
“แก ฉันกับบอย ยื่นวีซ่าไม่ผ่านนะ “
ณ ตอนนั้น คิดว่า ก้อยมันมุขแน่ๆ เพราะอย่างไร เรื่องวีซ่าไม่ผ่าน ก็เป็นเรื่องที่เราล้อเล่นกันมาแต่ไหนแต่ไร เพราะรู้ว่า มันไม่มีทางเป็นจริง พนักงานบริษัทอย่างเราเชียวนา ไม่เคยขอที่ไหนแล้วไม่ผ่านหรอก ไปมาหลายทวีปแล้ว ถึงจะให้น้อยวันก็เถอะ อย่างไรก็ต้องได้ชัวร์
“แก ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลย ยังงงๆอยู่เลยเนี่ย ถามๆเรื่องเงินเดือน หน้ามันเครียดมากเลยแก ฉันเลยรู้สึกว่า มันแปลกๆ ตอนท้าย ก็ยื่นพาสปอร์ตคืนมากับใบอะไรไม่รู้ ฉันก็เริ่มเอะใจแล้ว แต่อีบอยยังไม่รู้เรื่อง จนฉันต้องบอกมันว่า เราไม่ได้นะ วีซ่าอ้ะ ใบที่ให้มาคือใบแจ้งว่า คุณไม่ได้รับวีซ่า โดยสงวนเหตุผลที่ปฏิเสธ และสามารถไปยื่นใหม่ได้อีกในภายหลัง โดยต้องมีเอกสารที่พร้อมกว่านี้”
ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆสักคำให้ลึกซึ้ง ไม่ต้องบรรยายอะไรให้สวยเลิศเลอ
คือ อารมณ์มันใช่เลยกับเพลงๆนี้ ไม่ให้ ก็คือไม่ให้ ก้อยทำใจมาได้สักพัก ก่อนที่ฉันจะโทรกลับไปหา แต่บอยยังคงมึนอยู่ แล้วดึงดันว่าจะ
-
ไปขออีกรอบให้ได้ ตัวฉันก็ปลอบเพื่อนไป ด่าสถานทูตไปว่า พวกฉันน่ะ ผ้าขี้ริ้วห่อทองคำเปลวนะเว้ย เห็นจนๆอย่างนี้แหละ ที่จริง จนกว่าที่เห็นอีก ฮ่าฮ่า เอาไงละทีนี้ !!!
The show must go on!!! คือ มันไม่ไปต่อไม่ได้แล้ว เพราะรถบ้านก็จองไปแล้ว ไม่สามารถแคนเซิลได้เลย ที่พักหลายที่ก็จองไปแล้วด้วย โดยเฉพาะที่แคมป์โยเซมิติ เป้าหมายหลักของเรา หลายคนอาจคิดว่า เลินเล่อกันเกินไปหรือเปล่า ยอมรับค่ะ เอาอะไรมามั่นใจกันขนาดนั้นก็ไม่รู้
เอาวะ ดรีมทีม กำลังสำคัญของฉันหายไปสองเลย แต่เราก็ต้องผ่านมันไปได้ ในเมื่อชะตาฟ้าลิขิตให้ทริปเราออกมาเป็นแบบนี้นี่นา
---เคว้งสักพัก ตีกันสักยก---
และแล้วสิ่งที่ฉันกลัวก็บังเกิด เมื่อดรีมทีม ของฉันพังพินาศ ขาดก้อยคนหนึ่งไป คนที่ฉันหมายมั่นปั้นมือว่า จะมาช่วยกำหราบยัยหญิง นักเดินทางสไตล์คุณหนูใหญ่ของทริป ตั้งคำถามมากมายกับฉันในหลายเรื่องที่ตัวฉันเองก็ขี้เกียจตอบบ้าง ตอบไม่ได้บ้าง แถมการตระเตรียมการเดินทางก็ไม่ได้สนุกครึกครื้นไปในรูปแบบที่ฉันเคยเอนจอยกับเพื่อนดรีมทีมสมัยก่อน การปรับตัวกับกลุ่มเพื่อนเดินทางใหม่ยังไม่บังเกิด ฉันก็สติแตก ทิ้งระเบิดในห้องแชทไปลูกสองลูก จนลูกทัวร์เริ่มเกิดความหวั่นใจกันถ้วนหน้าว่า ฉันจะสามารถนำทัวร์ต่อไปได้อย่างปกติสุขหรือไม่
สุดท้าย ฉันพยายามสงบสติอารมณ์ แล้วก็มีพี่พู่ เจ๊ใหญ่ของการเดินทางมาช่วยไกล่เกลี่ยความคิดในสมองให้ฉันใจเย็นลง พี่รับประกันว่า คนนี้ๆไปน่ะ ช่วยเธอได้ ไม่เป็นภาระแน่ มีพี่ตุ้ยด้วย สามีพี่ ช่วยเธอขับรถ
-
ได้ ถึงบอยไม่ได้ไปแล้ว อย่าเพิ่งเครียดไปก่อน
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ หันมาคุยกับลูกทัวร์ดีๆ ทุกฝ่ายพยายามเย็นเข้าหากัน อาจเป็นเพราะอาการแพนิคเล็กๆด้วย ทริปของเราก็กระชั้นเข้ามามากแล้ว พอตื่นเต้นกันมากๆ ก็เริ่มเยอะใส่กัน โดยเฉพาะฉันที่ถ้าเยอะใส่แล้วได้รีแอคชั่นตอบกลับมาแบบน้อยๆเนี่ย จะอารมณ์เสียมาก ฮ่าๆ
สรุปปัญหาคือ ลูกทัวร์มีหัวหน้าทัวร์ไม่ค่อยปกติ ฉันไม่คุ้นกับลูกทัวร์ใหม่ที่ไม่คุ้นกับการปั่นกระแสเที่ยวของฉัน ฉันเลยต้องเพลาๆลูกบ้าลง (แต่ในใจฉัน ตอนนั้น คิดตะหงิดๆแล้ว ทริปนี้ ไม่ง่าย กลับมาต้องมีใครเลิกเป็นเพื่อนกันสักคู่ละน่า ว้าย น่ากลัว และหนึ่งในคู่ที่น่าจับตามองคือ ฉันกับยัยหญิง คอยลุ้นกันต่อไปนะคะ ว่าทริปนี้ ใครจะเลิกคบกับใคร หรือทุกคนจะทางใครทางมัน นี่มัน รายการเรียลลิตี้โชว์ชัดๆ)
---รูท (Route) ฉุกละหุก---
อย่างที่บอกค่ะ ทริปนี้ เป็นทริปของคนอินดี้มาเจอกัน ใครอยากไปแวะลงที่ไหนก่อน จะไปป๊ะกันที่ซานฟรานซิสโก ก็สุดแท้แต่ใจของแต่ละคนเลยค่ะงานนี้ แต่ปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เส้นทางที่เราอยากไป ไฟลท์ต้องไม่เต็ม เดินทางด้วยตั๋วพนักงานอย่างเรา จะทำตามใจมากไม่ได้ค่ะ ไฟลท์นั้นๆต้องว่างพอให้เราสามารถยัดตัวเองเข้าไปนั่งบนเครื่องได้ ไม่ใช่ติดไปกับคาร์โก้สินค้า
-
ไฟลท์กรุงเทพอินชอนที่เราตื่นเต้นกันนักหนา งานนี้ ปิ้งย่างต้องมานั้น สรุปว่า ไม่มาจนได้ค่ะ วันเดินทางของเราดันไปติดร่างแหหน้าเทศกาลสำคัญของเกาหลีเสียนี่ ไฟลท์ก็เต็มสิคะ ตอนวางแผนก็เลี่ยงวันนั้นวันนี้เสียดิบดี สุดท้ายมาตกม้าตายเพราะ งานวันชาติเกาหลีอะไรนี่แหละ ฉันโดนลูกทัวร์กระแนะกระแหนว่า ไปไหนกับแป้ง ไม่เคยสบาย เครียดตั้งแต่เลือกไฟลท์เดินทางตลอด จะไปไหน ก็ตรงกับเทศกาลทุกทีสิน่า
กรุงเทพโอซาก้า เป็นคำตอบสุดท้ายที่เกิดจากความคิดค้นของฉัน คันไซมีบินตรงไปซานฟรานซิสโก โดยมีเที่ยวบินของยูไนเตดและนิปปอน เวลาก็ไม่ได้ห่างกันมาก ฉันเลือกเดินทางโดยยูไนเตด เพราะมีหนังให้ดูในเครื่องเยอะดี เหตุผลดูบ้าอีกตามเคย ส่วนอีกสามสาว พี่น้อย น้องและฝ้าย ไปกับนิปปอน และไปล่วงหน้าก่อนหนึ่งวัน เพราะต้องการใช้เวลาที่ซานฟรานเพิ่มหนึ่งวันให้หมดไปกับการช็อปปิ้งเต็มๆ และต้องไปรับของที่สั่งซื้อออนไลน์แล้วให้มาส่งที่บ้านของเขา
ส่วนหญิงไปทางโตเกียว เพราะจะไปต่อลงชิคาโก เพื่อเยี่ยมเพื่อนสาวของนางก่อนสักสามสี่วัน หญิงคือคนที่ใช้วันลาเยอะสุด เพราะหายไปเกือบจะทั้งเดือน กลับมาที่ทำงาน อาจต้องมาเรียนรู้งานใหม่กันเลยทีเดียว ฮ่าฮ่า หรือมาถึงที่ทำงาน เจ้านายอาจรอยื่นซองขาวให้
-
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in