
“ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ฉันต้องทนกับทุกสิ่ง
ปิดบังความจริงในใจทุกๆ อย่าง”
เราในวัยแปดขวบ
มีความสุขกับการได้มองคนๆนึงได้เล่นสนุก โดยหวังลึกๆว่าให้เค้ากินอิ่ม นอนหลับ มีชีวิตราบรื่นในทุกๆวัน
และวันนี้ เราในวัยยี่สิบปีย่างยี่สิบเอ็ด
ก็พยายามจะมีความสุข ด้วยการมองคนๆนั้น เริ่มต้นชีวิตคู่กับใครสักคน …ที่ไม่ใช่เรา
ใครจะไปคิด ว่าชุดที่ถูกสั่งตัดมาอย่างดี เพื่อให้เข้าธีมและสมกับการเป็นญาติสนิทของเจ้าภาพ จะถูกประดับบนร่างกายเราอย่างไม่เต็มใจเท่าไร ใบหน้าเรียบเฉย ไม่ยินดียินร้าย พาตัวเองมายังสถานที่ที่ถูกแต่งเติมด้วยผ้าพลิ้วสีหวาน ดอกไม้เข้าช่อชวนหลงใหล บรรยากาศงานโดยรอบเป็นไปในเชิงบวก อ้อมล้อมไปด้วยความยินดีและรอยยิ้ม
“ครับแม่” กดรับโทรศัพท์ หลังหน้าจอโชว์เบอร์มารดา
‘อยู่ไหนแล้วลูก แม่บอกแล้วไงว่าห้ามสาย’
“หน้างานแล้วครับแม่ ขอโทษนะครับ ต้ากำลังเข้าไป”
.
.
.
“ความรักหน้าตาประมาณไหน
ความรักจะใจดีแบบเธอไหม”
ความเป็นญาติทำให้เรารู้จักกัน ความที่บ้านอยู่ตรงข้ามทำให้ตกเย็นเราได้มาเล่นด้วยกัน ความที่พี่ชายวัยสิบสองมีชีวิตที่น่าตื่นเต้นกว่าเขาที่อายุเพียงแปดขวบ ทำให้ได้มานั่งฟังชีวิตของพี่ชายในทุกๆวัน และด้วยสถานการณ์ทั้งหมดนั้น ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ควรเกิดระหว่างเขากับพี่ชาย ไม่สิ เป็นเขาเพียงฝ่ายเดียวนั่นแหละ ที่คิดอะไรไปไกล
“ต้า ไปเล่นกัน” เด็กชายหน้าตี๋ในชุดสบายๆเดินเข้าบ้านมาชวนไปเล่นเหมือนทุกที
“พี่ดิสสสสสส ต้าอยากเล่นยิงปืนปิ้วๆบ้าง สอนต้าเล่นนะ”
“ได้ดิ มาเร็วไอตัวแสบ”
และการเล่นสนุกหลังเลิกเรียนในตอนเด็กของต้า ก็มีพี่ดิสเข้ามาเติมเต็มมันในทุกวัน
.
.
.
“หากเราใกล้กันมากกว่านี้
สักวันหนึ่งอาจจะไม่ดี
บางสิ่งในใจฉันอาจทำให้เธอลำบาก”
“กูว่ากูดูออกว่ะดิส ไอต้าน้องมึงอะ”ไอเจ็ม เพื่อนสนิทผมพูดขึ้น
“ทำไม ไอต้าน้องกูมันทำไม”ผมถาม ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ
“ไอต้ามันชอบมึงไง ชอบมองมึงตาค้างขนาดนั้น ไหนจะข่าวที่แฟนกูสืบมาอีก ว่าต้ามันไม่รับฝากจดหมายรักมึงผ่านมันอะ”
“มันอาจจะรำคาญก็ได้มั้ง มึงแม่ง พูดจาไร้สาระ”
“มึงก็ปฏิเสธอยู่ได้ ระวังนะมึง น้องมันจะชอบมึงจนไปไหนไม่รอด”
“อะไรมึงอีกวะ”
“ก็ถ้ามึงไม่ได้ชอบน้องมัน ก็เลิกทำตัวให้ความหวังมันดิ ไปรับไปส่งเอย หาข้าวหาน้ำเอย กูเป็นต้า กูก็คิดว่ามึงมีใจเหมือนกันแหละวะ”
บทสนทนาสั้นๆของผมกับจิมในวัยสิบเจ็ดปี ทำให้ผมคิดได้ ใจนึงผมก็คิดว่าต้าโตพอ การที่ผมไปรับไปส่งมัน ก็เพราะเป็นญาติกัน บ้านก็อยู่ซอยเดียวกัน เรียนก็เรียนโรงเรียนเดียวกัน ไปมาโรงเรียนด้วยกันน่ะ มันถูกต้องแล้ว เรื่องพาต้าไปกินข้าวหรือซื้อข้าวมาให้ต้า ผมก็ทำมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะต้ามันเป็นลูกคนเดียว ดูแลตัวเองเป็นซะที่ไหน ผมที่พอมีน้องสาวอยู่คนนึง เลยรับหน้าที่แทนแม่มัน ดูแลมันซะได้ แต่ใครจะไปคิด ว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ผมทำมาตลอด มันจะทำให้น้องชายคนนี้ ไม่ได้อยากเป็นแค่น้องชายผม แต่ทำยังไงได้ ผมคิดกับต้าแค่พี่น้องจริงๆ ทำให้หลังจากนั้นอะไรที่ทำให้ผมคิดว่าผมทำแล้วจะทำให้ต้าตัดใจจากผมได้ ผมทำมันทั้งหมด
‘ต้า ไปกินข้าวกับเพื่อนแทนนะวันนี้ พี่ไม่ว่าง’
‘ต้า พิมห้องสองมีแฟนยังอะ อยากจีบว่ะ’
‘ต้า ไม่ว่างไปส่งนะวันนี้ ไปดูหนังกับพิมอะ’
‘ต้า ไปเรียนเองนะ วันนี้พี่โดด’
‘ต้า พี่คบกับข้าวแล้วนะ ข้าวน่ารักอย่างที่แกบอกจริงๆว่ะ พี่ลืมพิมได้สนิทเลย555555’
‘ต้าๆๆๆ ช่วยพี่กดบัตรคอนเสิร์ตหน่อยดิ จะไปดูกับข้าวอะ อยากเซอไพรส์ข้าว คิดว่าดีปะ’
และอีกหลายต้า ที่เรียกชื่อเขาเพื่อทำลายความรู้สึกของเขาเอง
เชื่อผมเถอะ ว่าผมในตอนนี้ อยากจะขอโทษต้ามากกว่าที่ต้าอยากจะบอกรักผมเสียอีก…
.
.
.
“ยังรักเธอที่สุด ยังรักเธอตลอด ยังรักเธอทุกวัน ยังรักเธอเท่านั้น
ฉันรักเพียงแต่เธอ ยังรักเธอเสมอ เธอคือคนที่ฉันไม่เคยจะลืม”
พอโตขึ้นใครๆก็โหยหาวัยเด็ก เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เราในวัยสิบแปด กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างหนัก และเขา ในวัยยี่สิบสอง กำลังเป็นนักศึกษาปริญญาตรีที่กำลังยุ่งสุดๆกับโปรเจคจบ เราไม่ได้สนิทกันอย่างที่ควรจะเป็นและเคยเป็น อาจมองได้ว่าเราทุกคนต่างมีชีวิตให้ต้องดำเนินต่อไป ทั้งหน้าที่ที่ต้องทำและเวลาที่โคตรจะไม่เป็นเวลา แต่ความจริงที่เรารู้เพียงคนเดียว คืออาจเป็นเพราะพี่ดิสรู้ รู้ว่าเราคิดอะไร ทำให้เกิดความไม่สนิทใจระหว่างเรากับพี่ดิส แต่มันก็เป็นแบบนี้มาตลอดห้าปีได้แล้วมั้ง เราไม่ได้แสดงออกอะไรหวือหวาหรอก ไม่ได้มีเหตุการณ์ช็อคโลกอย่างการสารภาพรักเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะพี่ดิสเป็นพี่ดิส อะไรที่เราแสดงออกไป ก็คงจับผิดได้อย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้เรา ซึ่งอยู่ในฐานะลูกผู้น้องไม่ได้ใกล้ชิดลูกผู้พี่อย่างเขาเหมือนเคย เหมือนจะรู้จัก แต่ก็เพียงผิวเผิน
ฟ้าเล่นตลก หรือโชคไม่เข้าข้างก็ไม่รู้ ทำให้วิชาที่เราโคตรเกลียด กับวิชาที่พี่ดิสถนัด มันเป็นวิชาเดียวกัน จนทำให้เด็กวิศวะอย่างพี่ดิสต้องสละเวลาตัวเองมาติวให้เด็กมอปลายสายวิทย์-คณิตที่โง่วิทย์แบบเรา ฟิสิกส์ไม่เคยน่าสนใจสำหรับเราเลย จนพี่ดิสเป็นคนอธิบายมันให้เราฟังด้วยตัวเขาเอง
“…กฎของนิวตันข้อที่สาม every action has an equal reaction” พี่ดิสสอน
แน่อยู่แล้ว ไม่มีทางที่ปฏิกิริยาจะเกิดขึ้นได้ด้วยตัวมันเองหรอก ต้องมีบางสิ่งมากระทำกับมันเท่านั้น แน่นอนอยู่แล้ว
“…”
“ต้า ฟังพี่อยู่ไหมเนี่ย”
“ฟังครับ ฟังอยู่”
“แล้วทำไมเงียบ หื้ม”
“เอ่อ คือ ต้าวิเคราะห์อยู่ครับ” ใช่ เรากำลังวิเคราะห์สิ่งที่พี่ดิสพูดอยู่ ตอบไปแบบไม่ได้โกหก แค่เพียงไม่ได้วิเคราะห์มันเชิงวิทยาศาสตร์เท่านั้นเอง
“หรอ ไหนลองอธิบายให้พี่ฟัง”
“อะ เอ่อ ก็” เอาล่ะ ขอต้าคิดบทแปปนะพี่ดิส
“ก็…”พี่ดิสเอียงคอแล้วทวนประโยคเรา
“ก็ แอคชั่นเท่ากับรีแอคชั่น แรงที่วัตถุหนึ่งทำกับอีกวัตถุย่อมเท่ากับ แรงของอีกวัตถุทำกับวัตถุนั้น เพียงแต่เป็นทิศทางตรงกันข้าม แบบนี้ถูกไหมครับ”
“เก่งมากเจ้าต้า” พี่ดิสเอ่ยชม
.
.
.
“แม้ว่าโลกที่หมุน จะทำให้เราไกลกันแต่ ฉันไม่เคยลืมเธอได้เลย”
ชีวิตมอหกเรามีสีสันกว่าชีวิตก่อนหน้าขึ้นเยอะ เพราะมีพี่ดิสเข้ามาอยู่ด้วย จนวันนึงเราสามารถสอบติดคณะที่หวัง กับมหาลัยที่หวังได้ มหาลัยที่หวังว่าจะได้เข้าที่เดียวกับพี่ดิสน่ะนะ แต่ก็คิดอะไรสั้นไป ตอนเราจบมอหก พี่ดิสก็กำลังจะจบปีสี่ และใช่
ถ้าการคิดถึงใครสักคนมันทำให้คนเรามีความสุข ป่านนี้ ต้าคนนี้คงมีความสุขที่สุดในโลก แต่ในโลกความเป็นจริง ความคิดถึงมันกลับจะฆ่าคนได้จริงๆนี่สิ เราเลยเกือบตายอยู่ตรงนี้ เรานั่งอยู่ที่ๆเคยมาติวหนังสือกับพี่ดิสทุกวันคือหน้าบ้านเรา แต่ตอนนี้เหลือแค่เรา และโน้ตบุ้คตัวเก่ง ส่วนคุณคนเก่งน่ะหรอ นู่น ไปเป็นลอนดอนบอยได้ปีกว่าๆแล้ว
พี่ดิสไปเรียนต่อโท อีกไม่นานก็คงเรียนจบ เราใช้เวลาหลายเดือนในการมีชีวิตของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกัน การทำใจให้เลิกรู้สึกกับพี่ดิสก็เป็นเรื่องที่เรากำลังพยายาม มันเป็นไปได้ยาก จนเรารู้ข่าว พี่ดิสกำลังจะแต่งงาน
“I hate to turn up out of the blue uninvited but I Couldn't stay away I couldn't fight it
I had hoped you'd see my face
And that you be reminded that for me it isn't over”
เรากดเข้าอินสตาแกรม แอพที่เราเข้าบ่อยกว่าใคร เพราะเป็นคนชอบถ่ายรูป และที่สำคัญ คือเป็นทางเดียว ที่จะได้รู้ว่าพี่ดิสทำอะไรอยู่ สบายดีไหม มีความสุขหรือเปล่า จนวันนึงไอจีสตอรี่ของพี่ดิสก็อัพรูปกระดาษแข็งขนาดพอดีมือสีหวาน เนื้อความบ่งบอกถึงการเรียนเชิญมาร่วมแสดงความยินดี ใช่ การ์ดแต่งงาน
ใช่ว่าเราไม่รู้ว่าพี่ดิสมีแฟน เรารู้มาตลอด แต่การมีแฟนของพี่ดิสไม่ได้ทำให้เราตัดใจจากเขาได้มากเท่าไร เพราะคติประจำใจเราคือ เราจะไม่แต่งงาน จนกว่าพี่ดิสจะแต่งงาน
“ลบภาพเก่าๆที่เรายังมีให้กันในความหลัง
สิ่งที่เธอทำจดจำได้ทุกตอน”
การที่พี่ดิสจะแต่งงาน ไม่ได้ทำให้เราฟูมฟายแต่อย่างใด หลังจากรู้ข่าว ก็ทำให้เราตัดใจได้ง่ายขึ้นมาตลอด พี่ดิสกำลังจะมีชีวิตของตัวเองจริงๆ และเราก็ควรจะมีชีวิตของตัวเองได้แล้ว เราผ่านทุกเสตจของการเสียใจ จนกระทั่ง วันนั้น วันที่พี่ดิสเรียนจบกลับมา ตระกูลเรามีพี่น้องรุ่นราวคราวเดียวกันหลายคน เราตัดสินใจจะไปเที่ยวด้วยกันที่บ้านสวนของตระกูล
และนั่นทำให้เราได้รู้จักตัวตนของพี่ดิสที่แท้จริง
พี่ดิสเปลี่ยนไป พี่ชายที่คอยเย็นชาใส่เราตลอดชีวิตช่วงวัยรุ่นหายไป กลับกลายมาเป็นพี่ชายที่แสนอบอุ่น ภาพซ้อนทับพี่ดิสในวัยสิบสอง กำลังพูดคุยกับเราในวัยแปดขวบ บรรยากาศอบอุ่นแบบนั้นกำลังกลับมา พี่ดิสพาเราและญาติขับรถชมวิวสวนองุ่นแถวนั้น และด้วยความที่เราเป็นคนชอบถ่ายรูป จึงถือวิสาสะลดกระจกรถและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหวังจะเก็บภาพ
“เดี๋ยวพี่ดิสหยุดรถให้ต้าถ่ายรูปก่อนแล้วกันเนอะ”พี่ดิสพูด พร้อมแสดงแววตาที่ใจดี
“มะ ไม่เป็นไรพี่ ต้าถ่ายได้แล้ว”เราตอบกลับหน้าเรียบเฉย ทั้งที่ในใจจะละลายเป็นน้ำอยู่รอมร่อ
ไม่คุ้นเคย ไม่ชินกับความใจดีแบบนี้เลยสักนิด
“คืนนี้คงเป็นคืนที่มันลุ่มร้อน
และคืนนี้อยากจะทำก็ทำได้เพียงอ้อนวอน”
“ต้า”เสียงเรียกชื่อเรา จากคนที่ทำให้ใจเต้นแรงกว่าจังหวะปกติ
“ครับ พี่ดิส”เราละสายตาจากท้องฟ้ายามค่ำคืน
ที่เมื่อไหร่ที่ได้ทอดมองแล้วนั้น ยากเหลือเกินที่จะถอนสายตาออกมา
“ว่างไหม เช็ดผมให้หน่อยดิ ไม่ได้เอาไดร์เป่าผมมาว่ะ”พี่ดิสถาม
“ไม่ลองถามพิกซาร์ดูอะพี่ดิส น้องน่าจะพกนะ”เราอ้างถึงน้องสาวคนเล็กของพี่ดิส เราอาจจะลืมบอกไป พี่ดิสน่ะ ชื่อเต็มๆคือดิสนีย์ ถึงได้มีน้องชื่อพิกซาร์
“ไม่ได้เอามา ถามแล้ว”พี่ดิสตอบ
“พวกบ้านพี่เอินอะพี่ดิส ลองถา…”
“ถ้าต้าไม่ว่าง เดี๋ยวพี่ไปเป่าพัดลมก็ได้”เรายังไม่ทันพูดจบ พี่ดิสก็ดันตอบมาแบบนี้ซะก่อน
“วะ ว่างดิ เอาผ้ามาดิพี่”เราปลงใจจะเช็ดผมให้พี่ดิสจนได้
“เป็นไงบ้างอะเรา ไม่ได้คุยกันนานเลย”พี่ดิสเปิดประเด็น
“ก็เรื่อยๆอะพี่ แต่มหาลัยเหนื่อยชิบหาย”
“อืม มันเหนื่อยชิบหายจริงๆแหละ มีไรก็ปรึกษาละกัน พี่เต็มใจช่วยอยู่แล้ว รู้ใช่ไหม”
“ครับ ต้ารู้”
“แล้วนี่ มีแฟนมาอวดม๊าบ้างยัง” ท็อปปิคนี้ไม่ได้เข้าพวก แต่ก็ถูกหยิบยกมาพูดถึงโดยพี่ดิส
“หึ ไม่อะ” เราส่ายหัว บึนปาก พร้อมกับใช้ผ้าเช็ดผมลูบไปบนผมพี่ดิสอย่างเบามือ
“ไม่คิดจะหาแฟนบ้างไง”
“…”
จะให้หามาจากไหน …ก็รออยู่คนเดียว
“ต้า เหม่ออะไรอีกแล้ว โตแล้วนะยังขี้เหม่ออีก” หลุดออกจากภวังค์ได้ พี่ดิสก็ยืนขึ้นหันหน้ามาทางเราซะแล้ว
“คะ ครับ”
“ขอบใจนะ พี่ไปนอนละ พรุ่งนี้ไปเล่นน้ำตกกัน อย่านอนดึกล่ะ”
“ครับพี่ดิส ต้าก็จะไปนอนแล้ว”
“ฝันดีนะต้า”
“ฝันดีครับพี่ดิส” ขอให้หลับฝันดีอย่างสนิทใจ คำขอที่เราขอให้พี่ดิสมาตลอด เหมือนวันนี้จะได้พูดมันให้เจ้าตัวได้ยินซะแล้ว
“และขอพร ให้คืนนี้ฉันเข้านอนเพื่อลืมที่ผ่านมา เฝ้าภาวนาให้ฉันลบภาพเธอทิ้งไป
ตื่นมาฉันคงอุ่นใจเมื่อพบกับวันนี้ มีฝนโปรยปรายเพื่อล้างน้ำตาให้หายไป”
ความอบอุ่นที่เราได้รับ มันเกินใจจะต้านจริงๆ พี่ดิสทำให้ความพยายามตลอดหลายปีของเรามันหมดความหมาย เสตจของการทำใจมีกี่เสตจ เราคงต้องกลับไปเริ่มใหม่แต่แรกแล้ว แต่แล้วเราก็คิดได้ว่า ที่พี่ดิสกลับมาเป็นพี่ดิสที่อบอุ่น ไม่ใช่ว่าโลกของพี่ดิสเป็นไปตามกฎของนิวตันข้อที่สามแต่อย่างใด หากเป็นเพราะพี่ดิสมั่นใจแล้ว ว่าแอคชั่นของพี่ดิสจะไม่ทำให้เราคิดไปเอง จะไม่เกิดการให้ความหวังกับน้องชายคนนี้ เพราะพี่ดิสมั่นใจแล้วว่าเริ่มชีวิตคู่กับใครสักคน สักคนที่จะไม่ใช่เรา
เพราะพี่ดิสรู้ ว่ามันจะไม่มีวันเป็นเรา พี่ดิสเลยพยายามเว้นระยะห่างระหว่างเรามาตลอด พี่ดิสคือคนที่ไม่ได้สร้างกำแพงเพื่อกันคนอื่นออกจากชีวิตของตัวเอง แต่กลับขังตัวเองไว้ในห้องคนเดียวเพื่อไม่ให้ตัวเองออกไปเจอใคร พี่ดิสเป็นคนแสนดี นี่แหละตัวตนที่แท้จริงของพี่ดิสที่เราได้สัมผัส นี่แหละพี่ดิสที่เรารู้จัก
.
.
.
“มันกำลังดีที่สุดเลย ฉันกำลังมีความสุขในโลกที่ไม่มีตัวฉัน ไม่แม้สักนิดเลย แค่นั้น แค่เราได้ใกล้กันอย่างนี้
ความจริงที่ไม่เคยมีตัวฉันในสายตาเธอนั้น ไม่มีความสำคัญกับฉันเลย”
หลังจากวางสายแม่ เราก็หลุดออกจากภาพจำในอดีต เสียงเพลงที่ดังออกมาจากห้องจัดเลี้ยง ไม่ได้ทำให้เราเลือกที่จะเดินเข้างาน ถึงแม่ว่าจะมาสายแล้วแต่อย่างใด แต่เราเพียงมุ่งตรงไปยังสมุดเขียนคำอวยพรให้บ่าวสาวแทน เสี้ยวความคิดเราผุดขึ้นมาว่า นี่คงเป็นโอกาสเดียวที่จะได้บอกรักพี่ดิสผ่านตัวอักษรหรือเปล่านะ แต่ไม่ เราไม่ได้เขียนมันหรอก เพราะเราน่ะชอบนัก ไอ่พวกคำบอกรักที่ไม่มีคำว่ารัก
‘ขอให้ชีวิตราบรื่น นอนหลับฝันดี สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีความสุขกับชีวิตคู่ อยู่ดูแลกันไปนานๆนะครับ ยินดีด้วย’
– กีต้าร์ น้องรักพี่ดิสนีย์
เราลงชื่ออย่างติดตลก เพื่อหลบซ่อนความรู้สึกที่ส่งผ่านคำอวยพร แต่ถึงยังไง ที่ขอให้ราบรื่น ก็ขอมาจากใจ ขอให้มีความสุข ก็ขอมาจากใจ และที่แสดงความยินดี ก็ออกมาจากใจ ออกมาจากหัวใจดวงนี้ ดวงที่มีไว้เพื่อขอพรให้พี่ และเอาไว้รักแค่พี่ตั้งแต่สิบกว่าปีก่อนอยู่แล้วครับ พี่ดิสของต้า :-)
“เธอคือความฝันในใจฉัน เพียงความฝันที่แสนไกล”
/ E n d /
thank you for reading
sorry if its too simple cause its based on true story :-)
- อ.อ. วช
หากสนใจให้กำลังใจ ติชม สกรีม หรือตั่งต่าง รบกวนคอมเมนท์หรือสามารถติดแฮชแท็ค #dalyricsfic ในทวิตได้เลยนะคะ เริ้บๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in