เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
TASTEwtn_real
[รีวิวอัลบั้ม] Dangerous Woman (2016)
  •     


         Dangerous Woman ผู้หญิงที่สุดแสนจะอันตราย คือคอนเซ็ปท์หลักสตูดิโออัลบั้มลำดับที่สามของ Ariana Grande 
         หลังจากปล่อยอัลบั้ม My Everything ไปได้ไม่ถึง 2 ปี อาริก็กลับมาในอัลบั้ม dangerous Woman ที่มาพร้อมกับความแรง แตกสาว สลัดความแบ๊วออกไป พร้อมที่เข้าสู่ในโหมดแบดเกิร์ล คนละขั้วกับสองอัลบั้มก่อนหน้านี้

  • Title : Dangerous Woman
    Artist : Ariana Grande
    Label : Republic Records
    Genre : Pop / R&B / Disco / House / Electronic


    #1 Moonlight (Original Titled) 
         แทร็กเปิดอัลบั้มในแนว Doo-wop ที่ได้โปรดิวเซอร์อย่าง Tommy Brown ทำนองและเมโลดี้ช้าๆ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป มีความละมุนใต้แสงจันทร์เหมือนหญิงเพิ่งมีรักครั้งแรก โดยอาริได้แต่งให้ Ricky Alvarez แฟนหนุ่มอาริที่คบหาดูใจกันในตอนนั้น โดยเพลงนี้เป็นเหมือน Bookmark ความสัมพันธ์ของทั้งสอง แถมคำว่า Moonlight ก็ยังเป็นคำที่ริคกี้ใช้เรียกอาริอีกด้วย




  • #2 Dangerous Woman
         Lead Single และ Title Track ในอัลบั้มนี้ Dangerous Woman เป็นเพลงแนว Pop-Rock ที่ใช้เสียงกีตาร์ไฟฟ้าเป็นหลักในเพลง เพื่อยิ่งตอกย้ำความหนักแน่นของเนื้อหา ทั้งจังหวะและบีทหนักๆ รวมถึงการใช้เสียง สามารถบ่งบอกถึงคอนเซ็ปท์หลักของอัลบั้มได้อย่างดี " บางสิ่งบางอย่างในตัวเธอ มันทำให้ชั้นดูเป็นผู้หญิงที่แสนจะอันตรายเหลือเกิน"


  • #3  Be Alright
         " We're gonna be alright " เพลงโปรโมทของอัลบั้ม โดยเพลงเปิดตัวบนชาร์ต Billboard สูงสุดอันดับที่ 43 แนว Electronic House ที่มีทำนองชวนโยกตามจังหวะเพลง ตัวเพลงและบีทมีความเก๋เป็นอย่างมาก แถมอาริยังเอาเพลงนี้เพิ่มใน setlists ของ Dangerous Woman World Tour พร้อมกับใส่ท่อน Break Dance ผสมกับการเต้น Vouging dance อีกเช่นกัน ยิ่งเก๋เข้าไปอีก
  • #4 Into You 
         Single ที่สองจากอัลบั้ม เป็นเพลงที่มีซาวด์ Electronic ผสมกับเพลงแนว Pop-Dance ได้ Producer คู่หูคู่ซี้อย่าง Max Martin เนื้อหาเกี่ยวกับการชอบผู้ชายคนคนนึงเอามากๆ จนแทบจะหลงหัวหักหัวปำ "ชั้นน่ะชอบเธอเอามากๆเลย ชอบเธอจนแทบจะหายไม่ได้"


  • #5 Side To Side (feat. Nicki Minaj)
         Side To Side นี่แทบจะนับเป็น LGBTQ's Anthem เลยก็ว่าได้ แทร็กที่มาในแนว Reggae-Pop ที่ได้ร่วมงานกับพี่สาว Nicki Minaj เนื้อหาชวน 18+ กับท่อนที่ว่า "And boy, Got me walkin' side to side" พร้อมกับท่อนแรปที่มันโดนใจเรา้หลือเกิน " I'm the queen of rap, Young Ariana run pop"
  • #6 Let Me Love You (feat. Lil Wayne)
         เพลงนี้มาในแนว R&B ช้าๆ ยั่วยวน ได้แรปเปอร์อย่าง Lil Wayne มาร่วมงานด้วย ส่วนตัวเราค่อนข้างที่ชอบเพลงนี้มากๆ และว้าวกับหลายๆสิ่งในเพลงนี้ เช่น การเพิ่มกิมมิคในท่อนฮุค โดยซ้ำคำว่า Love ไปเรื่อยๆ และท่อนแรปที่ว่า "She grindin' on this grande" ฟังแล้วมันรู้สึกกระแทกใจมากๆ 5555


  • #7 Greedy
         แทร็กซ่องแตกประจำอัลบั้มนี้เลยก็ว่าได้ เป็นแนว Disco-Pop ย้อนยุค 80s - 90s เนื้อหาก็กินใจเราไปมากๆ "You know that I'm greedy for love" "เธอก็รู้ดีนี่ ว่าชั้นกระหายความรักมากขนาดไหน"  แถมเพลงนี้ในทัวร์ก็นับเป็น Performance ที่ดีมากๆเช่นกัน ทั้งการร้องโชว์พลังเสียงพร้อมกับการควงเอว รวมถึงมี Confetti ในทัวร์ให้ได้เก็บ ถ้าใครได้ไป Dangerous Woman Tour in Bangkok ก็คงจะเห็นกันนะครับ


  • #8 Leave Me Lonely (feat. Macy Gray)
         เพลงที่โชว์พลังเสียงเต็มทั้งเพลงของอาริและนักร้องรุ่นใหญ่อย่าง Macy Gray นับได้ว่าฆ่าได้ฆ่า หรือแทบจะเชือดเฉือนกันเลยก็ว่าได้ นับเป็น Holy Trinity Track พร้อมกับเนื้อหาที่แสนจะบาดใจมากๆ "เพราะถ้าเธอจะมารักฉันแล้วทิ้งเอาไว้อย่างนี้ ฉันก็คงที่จะขออยู่คนเดียวดีกว่า"
  • #9 Everyday (feat. Future)
         แทร็กเพิ่มพลังโดยใส่บีทหนักๆ ไม่หยุดไม่ยั้ง ในแทร็คนี้ก็คงไม่ต่างอะไรจาก Side To Side 2.0 ในด้านเนื้อหา เพราะในท่อนที่ว่า "He give it to me everyday" ก็คงจะพอรู้ว่าอาริหมายถึงอะไร
    ส่วนตัวเราชอบเพลงนี้ ฟังได้เรื่อยๆ ทั้งท่อนแรปของ Future ที่ทำเพลงดูมีพลัง ถ้าไม่มีเขา เราว่าเพลงนี้จะดูขาดๆยังไงไม่รู้แหะ



  • #10 Sometimes 
         เพลงแนว Acoustic-Pop ใสๆ พักเบรกจากแทร็คก่อนหน้าที่โดนใส่ไม่ยั้ง เราค่อนข้างจะขัดเพลงนี้ตรงที่เริ่มมาเสียงลั้ลลาดันเป็นเสียงผู้ชาย T T แอบรู้สึกเสียดายมากๆ เพราะตอนแรกเปิดอินโทรมาก เราก็กดข้ามแทร็คนี้ไปเลย  แต่โดยรวมเพลงนี้ถือว่าชอบครับ เนื้อหาเพลงนี้ก็ยังคงโดนใจเราครับ ในท่อนที่ว่า "I ain't even of leaving somtimes" เป็นการบอกคนรักของเราเองว่าเราจะไม่มีวันทิ้งเขา แค่คิดจะทิ้ง สักครั้งก็ยังไม่เคยเลย
  • #11 I Don't Care 
         ส่วนตัวเราฟังเพลงนี้ไม่ค่อยบ่อยครับ เป็นแทร็กที่สั้นที่สุด ชิวๆ สบายๆ แต่เนื้อหาก็แอบมีความจิกกัดอยู่เบาๆ "เคยร้องไห้กับเรื่องไร้สาระมาก่อน แต่ตอนนี้ชั้นไม่ได้สนใจมันอีกต่อไปแล้ว"


  • #12 Bad Decisions
         แทร็คแนวป็อปที่มีจังหวะและท่อนฮุคชวนติดหูเอามากๆ พร้อมใส่บีทและจังหวะหนักๆ และเนื้อหาจิกกัดเหมือนแทร็คที่แล้วกับท่อนที่ว่า "Ain't you ever seen princess be a bad bitch?"


  • #13 Touch It
         เดินทางมาถึงช่วงท้ายของอัลบั้ม แทร็กที่ 13 ที่มีความยาวถึง 4 นาที ไต่ระดับมาเรื่อยๆตั้งแต่อินโทร จนท่อนฮุคที่เต็มไปด้วยพลังเสียงของอาริ โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายของเพลง ที่เราฟังครั้งแรกแล้วว้าวมากๆ ทั้งเสียงหวีด การร้องที่เข้าถึงอารมณ์ ฟังแล้วรู้สึกอินตาม
  • #14 Knew Better / Forever Boy
         ในตอนแรก แทร็คนี่แยกออกมาเป็นสองเพลงคือ Knwew Better และ Forever Boy แต่ด้วยความที่เพลงและเนื้อหาทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันมาก อาริจึกตัดมาให้เป็นเพลงเดียวกันเลย ถ้าฟังครั้งแรกแบบไ่ม่สังเกต ก็คงคิดจะว่าเป็นเพลงเดียวกันแน่ๆ


  • #15 Thinking Bout You
         เดินทางมาถึงแทร็กสุดท้ายของอัลบั้มที่เอาใจเราไปเต็มๆ บีทไม่ได้หนักมากมาย แต่เราฟังแล้วอินมากๆ โดยกล่าวถึงการโหยหา คร่ำครวญหาคนรัก ว่ากำลังคิดถึง หรือนึกถึงผู้ชายคนนึง นับเป็นแทร็กปิดอัลบั้มที่สวยงามมากๆ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in