เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Sujira in Aksornsujira_lr
ชีวิตปี1 เทอม1 (ที่มีโควิด) ในอักษร
  • (เอามาลงอีกแอคนึงคับ;w;)
    จะเรียกว่าโชคร้ายก็ได้เพราะตั้งแต่มีโควิดก็กักตัวอยู่แต่ในบ้าน กิจกรรมรับน้องก็จัดออนไลน์หมด เป็นการเข้ามหาวิทยาลัยที่รู้สึกเปื่อยๆ นิดนึง แต่ดีที่ตอนประกาศผลมีคนสร้างไลน์กลุ่มแล้วมีการให้ไอจีกันไว้เราเลยไปกด Follow เพื่อนๆ ไว้ส่วนนึง(ไล่ตามกดทั้งหมดไม่ไหว เยอะมากจริงๆ)เราเริ่มพูดคุยกับเพื่อนๆ จากในไอจี ส่วนมากก็เป็นคนที่ตั้งใจว่าจะเข้าเอกเดียวกับเราตอนปี2 เราเลยไม่เหงามากเท่าไหร่ วันเปิดเทอมได้ไปที่คณะ ไปฟังรายละเอียดของวิชานึงซึ่งเป็นวิชาที่เราจะใช้เข้าเอก นอกจากนั้นก็แทบจะไม่ได้ไปคณะอีกเลยเพราะเรียนออนไลน์เป็นส่วนใหญ่จากนี้จะรีวิวแต่ละวิชาค่ะ เรียงตามวิชาในตารางเรียนเรา

    **เนื้อหานี้เป็นเนื้อหาที่เราเขียนเป็นความเห็นส่วนตัวเรา+เป็นข้อมูลแค่ของปีการศึกษา2563นะคะ


    1. Basic Japanese Conver I
    วิชานี้อาจารย์(จากนี้ขอเรียกว่าเซนเซ)จะให้เราฝึก Shadowing คลิปเสียงที่เขามีให้ ตอนต้นคาบจะเรียกชื่อทีละคนแล้วให้พูดตามบท(ต้องฟัง+ท่องบทShadowingมาก่อนเข้าคาบ) เวลามีจุดไหนไม่โอเคเซนเซก็ช่วยแก้สำเนียงให้ พอShadowingเสร็จก็จะเรียนในหนังสือ ในหนังสือจะแบ่งเป็นบทๆ แต่ละบทก็เป็นหัวข้อที่ต่างกันไป เซนเซจะให้เรียนรู้คำศัพท์ แล้วก็ให้Break out ไปฝึกแต่งประโยคกับเพื่อนแล้วจะมาถามตอนกลับมาอยู่ในห้องzoomใหญ่ พอจบคาบเซนเซก็จะมีควิซคำศัพท์ให้ทำเซนเซน่ารักมากๆ ใจดีมากกกกกก ไม่ดุเลย เราเลยรู้สึกไม่กดดันมากเท่าไหร่(ยกเว้นช่วงแรกๆ)

    ช่วงแรกเป็นการเรียนออนไลน์ผ่านzoomหมดเลยเพราะเซนเซ ยังอยู่ที่ญี่ปุ่น ช่วงแรกๆ เราปรับตัวไม่ได้เลย เวลาเซนเซพูดอะไรเราก็ฟังแทบจะไม่ทัน เอาจริงๆ ตอนม.ปลายเราได้พูด-ฟัง ภาษาญี่ปุ่นน้อยมากจริงๆ พอมาเจอแบบนี้ไปไม่เป็นเลย ตื่นเต้นไปหมด ฟังไม่ทัน แล้วมันเป็นความรู้สึกที่กดดันมากๆ เพราะเราแทบจะไม่รู้จักใครในเซคเลย แถมเรียนออนไลน์ ไม่ได้อยู่ในห้องเรียนจริงๆ มันกดดันแบบบอกไม่ถูกจริงๆ เหมือนในzoomเป็นใครบ้างก็ไม่รู้แล้วเราก็เรียนอยู่คนเดียวในห้องตัวเอง เวลาฟังตรงไหนไม่ทันก็ถามใครไม่ได้เลย ด้วยความที่เราเป็นคนแพนิค+เฟลง่ายอยู่แล้ว พอเจอแบบนี้เราเครียดมากๆ พอจบคาบแรกร้องไห้เลยจ้าาาา เฟลมากๆ รู้สึกแย่ไปหมด แต่พอหลังมิดเทอมก็ได้ไปเรียนที่ห้อง ตอนนั้นเรารู้สึกโอเคขึ้นแล้ว ไม่กดดันเหมือนแต่ก่อน คงเพราะรู้จักเพื่อนเยอะขึ้นด้วย

    วิชานี้มีสอบInterview กับ Speech ด้วย สอบInterview เซนเซจะเรียกเราไปทีละคนๆ ไปถามคำถาม(ซึ่งคำถามก็แนวๆ หัวข้อที่เรียนในหนังสือแหละ) ส่วนSpeech เซนเซจะให้หัวข้อมาแล้วให้เวลาเรา1อาทิตย์ไปเขียนบทมาก่อน แล้วก็ส่งให้เซนเซแก้ พอแก้เสร็จอาทิตย์ต่อมาค่อยขึ้นไปพูด มีคะแนนสำเนียง คะแนนบุคลิกอะไรพวกนี้ด้วย แล้วก็จะดูว่าเราพูดโดยดูบทไหม พูดเป็นธรรมชาติไหม ใช้ภาษาสุภาพไหม รายละเอียดเยอะมากกก ต้องซ้อมหลายรอบเลย แต่ก็ผ่านมาได้


    2. USE THAI LANG
    วิชานี้ก็เรียนออนไลน์เช่นกัน จะได้ไปคณะแค่วันที่ต้องไปทำแบบฝึกหัด ไปส่งงานอะไรประมาณนี้ ครึ่งเทอมแรกจะเรียนเกี่ยวกับการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร การจับใจความ การย่อความ แล้วก็การเขียนย่อหน้า ส่วนครึ่งเทอมหลังจะเรียนเรื่องการอ่านตีความ การอ่านเรื่องสั้น การอ่านร้อยกรอง การพูดเชิงวิชาการ(คาบสุดท้ายก่อนสอบปลายภาคมีให้พูดเชิงวิชาการด้วย ให้จับกลุ่มกับเพื่อนแล้วพูดเชิงวิชาการตามหัวข้อที่กำหนดให้ มีเวลาเตรียมตัวนานพอควร แต่สุดท้ายก็มาปั่นตอนท้ายๆ อยู่ดี แหะๆ)

    อาจารย์เซคเราใจดีมากกกกกก น่ารักอีกแล้ว อาจารย์คอยชม คอยให้กำลังใจเราตลอดเลย บรรยากาศการเรียนไม่กดดัน สำหรับเราเราชอบวิชานี้มากแต่บางทีก็มีง่วงเพราะเรียนตอนบ่าย สติหลุดไปบ้างนิดนึง


    3. ENGLISH I
    วิชานี้ก็ออนไลน์100%ผ่านzoomเช่นกัน การเรียนการสอนก็เรียนGrammarในหนังสือ ในแต่ละบทก็จะมีศัพท์ต่างๆ (ที่จะไปออกสอบตอนปลายภาค) มีสอนReading(ที่ส่วนตัวเรารู้สึกว่ายากกว่าตอนม.ปลายมาก) มีสอนWriting ให้เขียนExample Paragraph กับ Reason Paragraph มีสอบเขียนParagraph เทอมละ2ครั้ง อาจารย์จะให้หัวข้อมา4หัวข้อ ให้เลือกมาหัวข้อนึงแล้วเขียนส่งในGoogle Classroom เกือบทำไม่ทัน ปกติเป็นคนพิมพ์ในคอมช้ามาก ลนมากๆ ไม่ชอบสอบแบบนี้เลย 

    วิชานี้มีหนังสือนอกเวลาด้วย เทอมนี้เราได้อ่านเรื่อง MY SISTER, THE SERIAL KILLER ทีนี้ก็จะมีนัดให้มาDiscussเกี่ยวกับหนังสือเรื่องนี้กัน นอกจากนี้ก็มีงานPresentation ให้เราพูดเรื่องอะไรก็ได้3นาทีซึ่งเราก็เลือกเรื่องที่เราเคยเป็นโฮสต์แฟมิลี่ให้นักเรียนญี่ปุ่น ตื่นเต้นมากเพราะตอนม.ปลายก็แทบไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเลย มาเรียนวิชานี้เราต้องปรับตัวเยอะพอควร แต่อาจารย์เราใจดีมาก มีนัดคุยกันด้วยเพราะทั้งเทอมไม่ได้มาเรียนในห้องเรียน อาจารย์เลยให้ลงชื่อมาMeetกับอาจารย์ เข้าได้ทีละ2คน อาจารย์ก็ถามว่าเรียนเป็นไงบ้าง คิดว่าวิชานี้เป็นยังไง ต่างจากที่เรียนม.ปลายไหม อะไรประมาณนี้

    ส่วนตัวคิดว่าวิชานี้แล้วแต่อาจารย์แต่ละเซคเลยเพราะเซคเรากับเซคเพื่อนก็มีวิธีการสอนต่างกัน เซคเพื่อนเราสั่งงานเยอะมาก ให้เขียนParagraph ให้ทำแบบฝึกหัดส่งทุกคาบ ส่วนเซคเราแทบไม่มีการบ้านเลย5555 ส่วนข้อสอบก็... สาหัส สำหรับเราReadingเป็นอะไรที่ยากมากๆ ตอนทำแบบฝึกหัดReadingส่งอาจารย์ก็คือผิดเต็มเลย อาจารย์หักคะแนนโหดมาก ถ้าเขียนตอบไม่ตรงประเด็นก็หักเลย แง้


    4. Japanese I 
    วิชาเข้าเอกอีกตัว ตอนแรกก็เรียนผ่านzoom แต่หลังๆ อาจารย์เห็นว่าทุกคนไม่ไหว ไม่สามารถจ้องจอคอมตลอด3ชั่วโมงได้จริงๆ อาจารย์เลยจองห้องแล้วให้มาเรียนที่คณะ ช่วงแรกๆ ที่เรียนออนไลน์เราเครียดมากๆ ไม่มีสมาธิเลย แต่พอไปเรียนที่คณะ ได้อยู่ในห้องเรียน มีอาจารย์ยืนอยู่หน้าห้อง มีเพื่อนนั่งข้างๆ เราก็รู้สึกโอเคขึ้น

    เนื้อหาวิชานี้เป็นไวยากรณ์ที่เคยเรียนมาสมัยม.ปลายแต่ลงลึกกว่าเดิมมากๆ แต่ละบทมีคันจิ อาจารย์ก็จะให้ไปคัดคันจิพวกนั้นมาส่ง ท้ายบทมีแบบฝึกหัดการแปลด้วย อาจารย์ก็จะให้ไปแปลมา ซึ่งอาจารย์ตรวจเข้มมากกกกกกวิชานี้จะมีควิซเทอมละ2ครั้งแล้วก็มีสอบมิดเทอมกับไฟนอล ทั้งควิซทั้งสอบอาจารย์ตรวจเข้มมากๆในข้อสอบหลักๆ ก็จะมีพาร์ทคันจิ พาร์ทคำช่วย พาร์ทError แล้วก็พาร์ทแปล อาจารย์ตรวจละเอียดมากๆ เส้นคันจิต้องชัด ถ้าเส้นไม่ชัดอาจารย์ก็จะหักเพราะมันจะทำให้คนอ่านเข้าใจผิดได้ ส่วนพาร์ทแปลสำหรับเราถือเป็นตัวเสียคะแนน อาจารย์จะให้ประโยคภาษาไทยมาแล้วจะขีดเส้นใต้คำที่ต้องการให้เขียนเป็นคันจิไว้ ส่วนมากจะเป็นคำที่เคยเรียนตอนม.ปลาย และใช่ค่ะ เราลืมคันจิเก่าๆ ที่เคยเรียนตอนม.ปลาย55555   แล้วเวลาแปลก็ต้องแปลให้ความหมายครบ ห้ามทำให้ความหมายของประโยคเปลี่ยน ต้องมีสติและรอบคอบมากจริงๆ อาจารย์บอกว่าต้องการให้พวกเราใช้ภาษาญี่ปุ่นได้เหมือนกับเป็นคนญี่ปุ่นจริงๆ เลยตรวจเข้มมากๆ ค่ะ และแน่นอนคะแนนเราก็เกาะๆ มีนอยู่อย่างนั้น ไม่เคยได้เกินมีนเลย มีนสูงมากเพราะเพื่อนๆ เก่งกันมากๆ


    5. Res Comp
    วิชานี้ออนไลน์100%ค่ะ วิชานี้เราจะได้ค้นข้อมูลแล้วนำมาเขียนเป็นความเรียงด้วย ตอนเปิดเทอมอาจารย์จะให้หัวข้อใหญ่ๆ มาก่อนแล้วให้เราเลือกมาหนึ่งหัวข้อจากนั้นให้เราไปคิดหัวข้อใหม่ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่เราเลือกอีกที (ดูงงๆ ไหมนะ5555 อย่างเราเลือกหัวข้อเกี่ยวกับสิทธิส่วนบุคคลบนโลกออนไลน์ไปแล้วเราก็ค่อยคิดหัวข้อที่มันเจาะจงมากกว่านี้ค่ะ เช่น สิทธิส่วนบุคคลบนโลกออนไลน์ของเด็ก) 
    แต่ละสัปดาห์อาจารย์แต่ละเซคก็จะสอนเรื่องการเลือกหัวข้อ การเลือกแหล่งข้อมูล การรวบรวมข้อมูล การอ้างอิง การนำเสนอข้อมูล มีบางสัปดาห์เรียนรวมแล้วให้ไปทำแบบฝึกหัดในระบบBlackboard มีงานกลุ่ม1งานคือจริยธรรมคอมพิวเตอร์ ให้ไปหาเคสที่เกี่ยวข้องกับจริงยธรรมคอมพิวเตอร์มาแล้วมานำเสนอ แล้วก็งานชิ้นสุดท้ายคืองานความเรียงที่สั่งไปตอนต้นเทอมค่ะ สำหรับปีเราวิชานี้ไม่มีสอบ มีเป็นงานอย่างเดียวเลย เหมือนจะสบายแต่ก็มีความเรียงแทน นั่งทำอยู่หลายวันเลย ดันเลือกเรื่องที่มีแหล่งอ้างอิงน้อยด้วย พลาดมาก5555


    6. East Civ
    วิชานี้ออนไลน์100%เช่นกันแต่ไม่ได้เรียนผ่านzoom เรียนเป็นคลิปแทน อาจารย์จะลงคลิปให้เรียนในBlackboardสัปดาห์ละ2คลิป(รวมๆ กันก็ประมาณ3ชั่วโมงเหมือนไปเรียนที่คณะ) เนื้อหาวิชานี้แบ่งเป็น 4 อารยธรรม คือ อินเดีย จีน ญี่ปุ่น และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ข้อดีของการเรียนคลิปคือถ้าฟังไม่ทันตรงไหนก็กดหยุดแล้วจดได้ ถ้าตรงไหนคิดว่าอาจารย์พูดบ้าก็เร่งความเร็วคลิปได้ แต่ข้อเสียคือเราจะดองคลิป แฮร่คะแนนวิชานี้มาจากการสอบล้วนๆ เลย มิดเทอม50% ไฟนอล50% ช่วงใกล้สอบไฟก็จะลนหน่อยๆ เพราะเร่งเรียนคลิป(ดองไว้นานเกิน อย่าหาทำตาม)


    7. Reasoning
    วิชานี้ออนไลน์เช่นกันค่าาา (เสียดายมาก ส่วนตัวเราชอบวิชานี้มากและอยากไปเรียนที่คณะมากๆ แง) วิชานี้เราจะได้เรียนเรื่องการให้เหตุผล ก่อนกลางภาคก็จะเรียนเรื่องการอ้างเหตุผลแบบจัดประเภท การละข้อความในการอ้างเหตุผล (ครึ่งแรกแอบๆ คล้ายวิชาคณิตศาสตร์นิดนึง มีแผนภูมิเวนน์ด้วย ทุกAเป็นB ทุกBเป็นC อะไรแนวนั้น)   พอหลังกลางภาคจะได้เรียนการอ้างเหตุผลแบบอุปนัย การอ้างเหตุผลเปรียบเทียบ การวิเคราะห์การอ้างเหตุผล การทิ้งเหตุผล อาจารย์จะให้เราอ่านบทความแล้ววิเคราะห์ มีเรียนเรื่องข้อบกพร่องในการอ้างเหตุผลด้วย(เรียนเรื่องนี้แล้วรู้เลยว่าการอ้างเหตุผลในชีวิตประจำเรามีข้อบกพร่องเยอะมากกก) ครึ่งเทอมหลังสนุกมากจริงๆ อาจารย์เปิดโอกาสให้พวกเราวิเคราะห์บทความแล้วมาถกกันด้วยแต่เพราะเป็นออนไลน์แล้วเราก็ไม่เคยเจอเพื่อนๆ ตัวจริงๆ เลย(ยกเว้นตอนไปสอบ) เลยไม่กล้าพูด ถ้าวิชานี้ได้ไปเรียนที่คณะน่าจะสนุกมากแน่ๆ

    วิชานี้มีงานเขียนArgument Essayด้วย คล้ายวิชาRes Comp เลย อาจารย์จะให้เราเลือกหัวข้อมาหัวข้อนึง(เลือกตามใจเราเลยอันนี้) แล้วให้เราแสดงจุดยืนว่าทำไมเราถึงสนับสนุนประเด็นนี้ ในขณะเดียวกันเราก็ต้องคิดด้วยว่าจะมีคนแย้งเรายังไงบ้างแล้วเราจะปกป้องจุดยืนของเรายังไง เหมือนต้องตีกับตัวเองเลย5555 แต่เราชอบมากๆ งานนี้ทำให้เราได้หาข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อที่เราทำเยอะขึ้น เจอมุมมองที่หลากหลายขึ้นมากๆ แต่ตอนปั่นบทความไม่สนุกเลย555 ตาลาย ต้องพยายามทำความเข้าใจแล้วเขียนออกมาให้ได้ จุดที่ปวดหัวที่สุดคือการตอบกลับข้อโต้แย้งค่ะ เรื่องที่เราทำดันเป็นเรื่องที่คนในสังคมไทยส่วนมากยึดถือปฏิบัติมานานด้วย ต้องคิดเยอะพอควรเลย แต่สุดท้ายก็ทำเสร็จทัน ฮือออ

    ส่วนตัวชอบวิชานี้มากๆ เป็นวิชาเปิดโลกเราอีกวิชาเลย เหมือนพอเรียนวิชานี้มันทำให้เราคิดอะไรด้วยเหตุผลมากขึ้น คิดอะไรมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนจริงๆ

    จบไปแล้วสำหรับการรีวิว(แบบมึนๆ)ของเราค่ะโดยรวมเรารู้สึกว่าเราโชคดีที่เราได้อาจารย์ใจดีทุกคนบรรยากาศการเรียนเลยไม่เครียดมาก แต่ก็เสียดายบางวิชาที่ไม่ได้ไปเรียนที่คณะแหละ ถ้าได้เรียนที่คณะน่าจะดีกว่านี้มากๆ พอเป็นออนไลน์เราแทบไม่รู้จักใครในเซคแต่ละวิชาเลย เพื่อนน้อยมาก ตอนนี้รู้จักกันแค่คนในเซคญี่ปุ่นเพราะได้ไปคณะบ่อยสุด เป็นช่วงเวลาที่เราต้องปรับตัวหลายอย่างเลยทั้งปรับตัวให้เข้ากับชีวิตมหาวิทยาลัย ทั้งปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โควิด รู้สึกยังไม่ค่อยลงตัวเลยแม้จะผ่านมาเทอมนึงแล้วก็ตาม ตอนนี้รอดูสถานการณ์ต่อจากนี้อย่างเดียวเลย เทอมหน้าจะเป็นยังไง จะได้ไปเรียนคณะเมื่อไหร่กันนะ...
    ขอให้ทุกอย่างดีขึ้นเร็วๆ แล้วกันนะ!


    ปล. ติดตามเพิ่มเติม+เข้ามาพูดคุยกันได้นะคะ ผ่าน Ig (studygram) : sustudy_p เลยยยย
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in