เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
FUCK AND EVERYTHING BETWEENappdluff
long distance ย่างปีที่ 3








  • To Gianni 



    happy valentine !



       







    เกือบจะทุกครั้งที่คนมักจะพูดกับฉันว่า 


    ‘มึงคบกันมาได้ยังไงตั้ง 2 ปีแบบไม่ได้เจอกันเลย'  


    เมื่อเขารู้ว่า ฉันกับแฟนเราคบกับแบบ long distance ได้สองปีเต็ม กำลังจะย่างเข้าปีที่ 3 แล้ว


    และก็เป็นฉันทุกทีที่ตอบกลับไปว่า 



    ‘กูน่ะอยู่กับสิ่งที่เรียกว่าไฟสวาท ทาสรักไม่ถึงปี


    หลังจากนั้นกูอยู่กับสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพล้วน ๆ’ 



    ใช่ ในความรักมันต้องมีมิตรภาพ !  



    แต่ไม่ใช่มิตรภาพอย่างที่รัฐบาลจีนส่งหมีแพนด้ามาไทยหรอกนะ 


    แล้วก็ไม่ใช่แบบที่คนเขาชอบเอาไปตั้งแคปชั่นรูปวันแต่งงานว่า 


    ‘I married to my best friend’ ด้วย (อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในพจนานุกรมของฉัน)  



    เพราะมิตรภาพในความรักที่ฉันหมายถึง ฉันหมายถึงมิตรภาพในหนังรักจากผู้กำกับ Christian Ditter 


    เรื่อง Love Rosie ที่โรซีและอเล็กซ์เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่รู้สึกดีต่อกันมากกว่าเพื่อน


    แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้โรซีท้องแบบไม่ตั้งใจกับผู้ชายคนอื่น 


    ส่วนอเล็กซ์ก็หนีไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น 


    วนเวียนกลับมาพบกัน ปรับความเข้าใจกัน... แต่ไม่เคยได้รักกัน



    มิตรภาพเปลี่ยนไปเป็นความรักสำหรับโรซีและอเล็กซ์ 


    แม้จะพรากจาก แต่พวกเขาไม่เคยถูกตัดให้ขาดออกจากกันเลย      



    ฉันคือโรซี ส่วนเขาคืออเล็กซ์ ตอนที่ฉันรู้จักเขา ฉันไม่ใช่คนดีนัก นั่นเลยทำให้เขาดูแสนดีเกินไป 


    เขาจริงจังเกินไป ส่วนฉันไม่ขอจะซีเรียส เขาต้องการหยุด ส่วนฉันไม่พร้อมจะหยุด ฉันเบื่อเขา 


    เขาเบื่อฉัน เราเบื่อกัน เขาไปมีคนใหม่ในขณะที่ฉันสนุกกับการได้เป็นหญิงเสเพล   



    เราหลุดออกจากวงโคจรของกัน 


    ท้องฟ้าทุกวันโล่งจนน่าใจหายหลังจากที่เขาไม่อยู่ 


    ต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าเราจะโคจรกลับเข้ามาใกล้กันอีกครั้ง


    และฉันโชคดีกว่าโรซีก็ตรงนี้ ตรงที่ฉันได้รักเขาและเขาก็รักฉัน



    เราให้โอกาสกันอีกครั้ง ปราศจากความกลัวว่ามันจะจบเหมือนเดิม 


    ด้วยความเข้าใจว่า ความรักไม่สามารถทำให้ลดน้อยลงได้ด้วยระยะทาง 


    หรือปิดตายไว้ด้วยประตู ทำหายเหมือนกุญแจบ้าน หรือว่าทิ้งไว้ข้างหลังเหมือนกล่องพัสดุ 


    เขาโตขึ้นจากวัยรุ่นหัวร้อนเป็นผู้ชาย ส่วนฉันกระเทาะเปลือกออกมาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว 



    แต่ก็นะ ความซวยกับความรักเหมือนของที่ต้องมาเป็นแพคเกจ 


    ฉันว่าฉันกำลังโดนพระเจ้าลงโทษที่ไม่รู้ใจ ให้ไม่ได้เจอหน้าแฟนเลยตั้ง 2 ปี !



    ตลอดเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมามันทำอะไรได้บ้าง ? ก็เป็นต้นว่า 

     


    อังกฤษออกจากสหภาพยุโรปได้สำเร็จ 


    อเมริกาเลือกตั้งครั้งใหม่


    คนไทยได้ตาสว่างกันมากกว่าปีไหน ๆ จากการชุมนุมใหญ่นำโดยคณะราษฎร 


    จัสติน บีเวอร์แต่งงานสักที  


    จีนคุมโรคระบาดไม่อยู่ 


    ฉันยังทำงานอยู่ที่ออฟฟิศเดิม 


    ส่วนเขาย้ายประเทศไปทำงานที่ปารีส ! 



    ฉันเป็นผู้เป็นคนขึ้นมากทีเดียว ขณะเดียวกันก็ต้องขอบคุณเขา 


    ผู้ชายที่ห่างไกลจากคำว่าสเปคฉันมากและฉันก็ไม่ใช่สเปคเขาเช่นกัน 


    หน้าที่การงานเขาก็แปลก ๆ ฉันเคยคิดนะว่า ฉันจะรักผู้ชายที่ทำงานเพื่องาน 


    งานของเขาต้องมีความหมายทั้งต่อตัวเขาและโลก แต่จะไปหวังอะไรมากกับเขาจริงไหม  


    เมื่อฉันยังทำงานงก ๆ แลกกับเศษเงินและความทะเยอทะยานทางวัตถุอยู่ทุกวัน 



    แน่ล่ะว่า ถึงแม้เขาไม่ใช่เลยสักข้อเดียวจากลิสต์ผัวในฝันของฉัน 


    แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ในความรักเรามีสิ่งที่เหมือนกันนับไม่ถ้วน


    เป็นต้นว่า เราเกลียดพ่อแม่เราเหมือน ๆ กัน ที่พวกท่านไม่สอนเรื่องสำคัญ ๆ ในชีวิต


    แต่เป็นทุกอย่างที่สังคมเขาว่าดี 


    เราถูกเลี้ยงมาแบบรัก, แต่ไม่เคยอุ้ม 


    ทำให้เราเผลอทำตัวเย็นชากับคนอื่นโดยไม่รู้สึกผิด  


    เราเกิดมาแม้จะต่างกันทั้งเชื้อชาติ ศาสนา สีผิวและวัฒนธรรม อยู่ห่างกันตั้งห้าพันกว่าไมล์ 


    แต่เราเหมือนกันอย่างกะแกะทุกครั้งที่อ้าปากวิจารณ์รัฐบาลและเรื่องบัดซบที่เกิดขึ้นบนโลก​

         


    'เรารักกันแทบบ้า' ฉันว่าคำนี้ไม่ได้ฟังดูเกินจริงไปเลย  



    ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเราถูกหยิบยื่นอุปสรรคเพื่อพิสูจน์ในความเป็นเราไม่น้อย 


    และทุกครั้งเราก็ผ่านมันไปได้เยี่ยมบ้าง สะบักสะบอมบ้าง 


    ในเรื่องสำคัญๆ เราแทบจะไม่ทะเลาะกันเลย 


    ผิดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามักจะต้องเถียงกันบ้านแตก เป็นต้นว่า 



    ฉันผูกเชือกรองเท้าแน่นไป 


    'มันไม่สวย' เขาว่า ฉันใส่มาก่อนและรู้ดี  


    ไม่ก็ ฉันไม่กดเล่นสเนปแชทที่เขาส่งมาให้ซ้ำแม้จะบอกว่าชอบมัน  


    'พวกปากว่าตาขยิบ' อีตอแหล เขาคิด


    ส่วนฉันก็รำคาญที่เขารู้ดีไปซะหมด ชอบเล่นบท Mr. know it all 


    และรำคาญที่สุด เวลาเขาไม่เปิดเสียงไอแพดให้มันดังขึ้น


    แต่มาโทษว่า airpod ฉันเป็นของปลอม 


    ราเหม็นขี้หน้ากัน ชักสีหน้าใส่กัน 


    เรา sexting กัน กรอกตามองบนใส่กัน  


    เราบอกรักกัน เราเบื่อกัน 


    เราเผลอทำร้ายกันนับครั้งไม่ถ้วน 



    ทุกอย่างนั้นทำให้ฉันรู้ว่า 


    จุดจบในความสัมพันธ์สามารถปรากฏขึ้นตรงหน้าเราเมื่อไหร่ก็ได้ 


    ความไม่รัก ซ่อนตัวอยู่ในความรัก 


    เหมือนความเป็นความตายที่ห่างกันแค่ใส่เสื้อกลับด้านตามความเชื่อทางศาสนาพุทธ 


    ฉันเลยกะว่าจะสร้างทฤษฏีรักน้ำเน่าเป็นของตัวเอง (ฉันชอบแต่งเรื่อง - ตลอดไป)  


    ว่าเราจะเอากันอย่างคนคลั่งรักที่ไม่มีวันสร่าง 


    แต่ฉันจะรักเขาเหมือนเพื่อนที่จะไม่ยอมเสียไปไม่ว่าจะยังไงก็ตาม 


    เพราะตลอดไปในความรัก มีจริงไหม ฉันไม่รู้ 


    แต่ถึงแม้มันจะมีอยู่จริง 


    ฉันก็ไม่เชื่อว่าความรักจะมีพลังมากพอที่จะทำให้เราอยู่


    เมื่อวันที่เราต้องเผชิญหน้ากับพายุแห่งความชิบหายวายป่วง


    แต่ฉันเชื่อว่ามิตรภาพของเราจะทำได้   






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in