เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
UR VOICE IS LIKE A SONGOil Na'thamonn
- ปิดเพื่อเปิด (จบ) -
  • ช่วงที่เราปิดเฟสมีคนชอบมาถามว่า
    'ปิดเฟสไมวะ?'

    ถ้าเป็นหลายๆ ครั้งก่อนหน้านี้
    เราก็จะตอบว่า ...
    'เบื่ออะไรหลายๆอย่าง'

    แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป เพราะการปิดเฟสครั้งนี้ของเราคือเพราะ

    'แก้บน'

    แต่นอกจากแก้บน เราก็อยากปิดเองด้วยแหละ เพราะเบื่อ
    เชื่อว่าหลายคนคงเคยรู้สึกเบื่อมัน เหมือนกับเรา

    เราไปพูดเรื่องนี้กับคนกลุ่มนึง เขาถึงกับชะงักแล้วเอียงคอเหมือนสงสัยว่า แก้บนงี้ได้ด้วยอ่อวะ

    ซึ่งก็บอกตามตรง... มันไม่ใช่เรื่องแปลกของเรา เราสามารถ บนได้ร้อยแปดพันเก้า
    ไม่ว่าจะเป็นตั้งโคฟเวอร์เฟสเป็นรูปดงบัง 1 ปี หรือตั้งดิสทวิตเตอร์ 1 เดือนก็ทำมาแล้ว
    จริงๆมีมากกว่านี้อีก การบนอะไรพวกนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์แต่อย่างใด

    มันขึ้นอยู่กับใจและความอดทนล้วนๆ


    ...


    แต่หลังจากปิดมา 6 วันเต็มและวันนี้เป็นวันครบกำหนดการแก้บนวันสุดท้าย
    ก็คือวันที่ 7 เรากลับรู้สึกว่า ..

    'ไม่อยากเปิดเฟสเลย'

    เราว่าการไม่มีเฟสบุ๊ค เป็นอะไรที่ทำให้เรามีเวลาชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม
    นอกจากนั้นเรายังได้ยินเสียงคนในโทรศัพท์มากขึ้น จากแต่ก่อนเอาแต่คุยกันผ่านแชทเฟส
    ซึ่งมันไม่ได้ยินเสียง แถมเราก็ไม่สามารถรับรู้อารมณ์ของคนคุยได้อีกด้วย

    เพราะการคุยแชทมันไม่สามารถสื่ออารมณ์ได้ดีเท่าเจอหน้าหรือได้ยินเสียง
    จึงอาจจะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า ...

    น้อยใจได้ง่าย

    ซึ่งปัญหานี้จะหมดไปถ้าคุณ 'มีกิจกรรมหรือ มีอะไรให้ทำจนไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น'

    และหันมาคุยโทรศัพท์กันมากกว่าแชทหากัน อาจจะได้คุยกันช่วงสั้นๆ
    แต่เราได้ยินเสียงกัน ได้รับรู้ความรู้สึกของคนคุยในตอนนั้น แน่นอนว่ามันย่อมดีกว่า



    ...



    นั่นอาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราไม่อยากเปิดเฟสด้วยละมั้ง

    เรายังอยากคุยโทรศัพท์  >  แชทหากัน
    เรายังอยากได้ยินเพลงที่เราตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าดัง  >  เสียงแจ้งเตือนเฟส
    เรายังอยากเห็นหน้าและเจอกัน  >  รอดูรูปที่เขาอัพ

    จริงอยู่ว่า หลังจากโลกเรามีโซเชียลเน็ตเวิร์ค
    มันทำให้ทุกอย่างที่เคยไกลกัน กลับกลายเป็นใกล้กันไปหมด

    เราสามารถท่องโลกได้ในวันเดียว ผ่านกูเกิ้ลแมพ
    เรียนภาษาอังกฤษ ผ่านยูทูป
    หรือแม้กระทั่งการทำงาน ผ่านคอมพิวเตอร์

    แต่ในขณะเดียวกันมันก็ ทำให้อะไรที่เคยใกล้ กลายเป็นความห่างไกลได้เหมือนกัน


    วุ่นวายเน๊อะ


    สุดท้ายยังไง ก็ต้องกลับมาเปิดอยู่ดี
    เพราะปัจจุบันเวลาติดต่องานหรือนัดหมาย ส่วนใหญ่มักจะนัดกันผ่านเฟสบุ๊ค มันจึงเลี่ยงไม่ได้


    แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากที่จะปิดมันไว้ เพราะ ...


    'เราอยากปิด เพื่อเปิดโอกาสให้น้ำเสียงและคำพูด ได้ทำหน้าที่ของมันได้อย่างเต็มที่ที่สุด'



    คิดเหมือนกันมั้ย ?
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in