เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Clam to ครามchaneystory
คราม(Calm) ความสัมพันธ์
  •  หากพูดถึงผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากภูมิปัญญาแล้วนั้น 'การย้อมคราม' ภูมิปัญญาอันขึ้นชื่อของจังหวัดสกลนครจึงเป็นหนึ่งในความคิดที่ลอยขึ้นมา ประกอบกับภาพกรรมวิธีที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาเป็นเวลานาน จึงเป็นสิ่งที่สามารถสะท้อนให้เราเห็นได้ถึงแนวคิดในด้านการดำเนินชีวิต และแง่คิดความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงเข้าหาบางสิ่งบางอย่างจากกรรมอันซับซ้อนเหล่านี้ได้
     การก่อหม้อคราม เป็นอีกหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญของการทำครามจากทั้งหมด 3 ส่วนได้แก่ การทำเนื้อคราม การก่อหม้อ และการย้อมโดยการก่อครามแต่ละหม้อนั้นจะให้สีสัน และเฉดสีที่แตกต่างกันเมื่อก่อจนเริ่มกลายเป็นสีเหลืองนั่นคือหม้อที่สำเร็จพร้อมสำหรับการย้อม และหลังจากนั้นก็ต้องคอยหมั่นหยุดพักสำหรับการฟื้นตัวและสร้างเม็ดสีของครามดังนั้นหัวใจหลักของการก่อครามนั่นคือ ความสม่ำเสมอ จากบทสัมภาษณ์ของพี่ต่าย สุนีย์ พร้อมโกมล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าย้อมครามบ้านอูนดง-หนองไชยวาลย์            ในนิตยสาร THERE ฉบับที่ 10 ของกรมการท่องแที่ยวและกีฬา ว่าด้วยเรื่องของ "INDIGO ORIGIN" ได้กล่าวว่า
    “เมื่อก่อเป็นหม้อจะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคนดูแล ถ้าดูแลดีเขาก็อยู่กับเราตลอด ถ้าดูแลไม่ดีเขาก็เรียกหม้อหนี 
    คือไม่เหลืองแล้วเป็นสีอื่น เช่น สีเขียว สีเทา ย้อมแล้วไม่ติด
    ครามเขามีชีวิตนะ เขาชอบอะไรที่สม่ำเสมอ สมดุล ไม่ชอบอะไรแปลกๆ
    อาหารเปลี่ยน อุณหภูมิเปลี่ยนก็มีผลหมด”

     จากคำพูดของพี่ต่าย ทำให้เราฉุกคิดได้ว่าแม้สิ่งที่ดูเหมือนว่าไม่มีชีวิต ไม่มีความรู้สึก แต่ทุกสิ่งล้วนมีความพิเศษและการดำเนินไปในแนวทางของตัวมันเอง แต่สิ่งที่ของทุกสิ่งอย่างบนโลกนั้นล้วนมีนั้นคือ ขีดจำกัดและความไม่จีรัง กล่าวคือ ทุกสิ่งอย่างล้วนมีขีดจำกัดและกรอบความเป็นไปของตัวเองในรูปแบบที่แตกต่างกัน และสามารถแปรเปลี่ยนได้ตามสภาพแวดล้อมและสิ่งรอบตัว ไม่มีอะไรที่คงอยู่ตลอดไป ทุกสิ่งล้วนมีผลต่อกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่งขึ้นอยู่กับว่าผลที่เกิดขึ้นจะเป็นในแง่ทางที่ดีหรือไม่ดี สิ่งที่ต้องอยู่ร่วมกัน หรือเอื้อประโยชน์ต่อกันหากละทิ้งหน้าที่ของตัวเอง อันเกิดจากความไม่ใส่ใจ ละเลย จนนำไปสู่ความไม่สม่ำเสมอในการดำเนินไปในความสัมพันธ์นั้นสิ่งเหล่านั้นก็จะเปลี่ยนแปลงไปในแนวทางเลี้ยวเบนจากสิ่งที่มันควรจะเป็น จนดำเนินไปถึงจุดจบที่น่าเศร้าในที่สุด การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เข้าใจกันว่าอีกฝ่ายต้องการสิ่งใด ต้องทำอย่างไรจึงจะทำให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีความสุขจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์ไปได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดำเนินไปบนเส้นทางความถี่ที่สม่ำเสมอและสมดุลด้วยเช่นกัน
                
              เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรจีรังคงที่ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็สามารถรักษาและดำเนินความสัมพันธ์ไปอย่างมั่นคงได้บนเส้นด้ายเส้นนี้ เมื่อยามใดที่เกิดปัญหาหรือความเปลี่ยนแปลงเข้ามาความสม่ำเสมอและความสมดุลเหล่านี้จะเป็นเกราะป้องกันให้เราเตรียมพร้อมรับสำหรับความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี



  •              หากพูดถึงความยืดหยุ่นและการปรับตัวของภูมิปัญญาท้องถิ่นที่พัฒนามาจากความสม่ำเสมอ และเอาใจใส่ของคนในชุมชนแล้วนั้น พี่นก - สกุณา สาระนันท์ เจ้าของผลิตภัณฑ์จากคราม ‘ครามสกล’ จึงเป็นอีกหนึ่งคนที่แสดงให้เห็นได้ถึงการนำแนวคิดการทำคราม ซึ่งเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมที่กระจายตัวอยู่ในจังหวัดสกลนคร มาปรับประยุกต์ให้เป็นไปในแนวทางร่วมสมัย ซึ่งการทำในลักษณะเช่นนี้ในยุคที่อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีกระจายตัวอย่างมากในปัจจุบันถือเป็นแนวคิดที่ดีที่จะทำให้ภูมิปัญญาของท้องถิ่นเกิดการต่อยอดและไม่สูญหายไปตามกาลเวลา หรือเรียกอีกอย่างได้ว่าเป็นการยืดหยุ่นและปรับตัวให้ตามทันโลกได้ทันท่วงทีและเกิดประโยชน์สูงสุด นั่นเอง 
                พี่นกใช้วิธีการการทำครามที่แตกต่าง กล่าวคือการใช้วิธีการ ‘ก่อหม้อนิล’ หรือ ‘การย้อมเย็น’ ซึ่งเป็นวิธีการที่จะทำให้ครามสีไม่ตก ดังนั้นจึงได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพทั้งในด้านของการเก็บรักษา และการตอบสนองวิถีชีวิตผู้คนให้เกิดความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี จากแนวคิดดังกล่าวทำให้เห็นได้ว่า นอกจากความสม่ำเสมอแล้ว สิ่งที่สำคัญในการดำเนินชีวิตของคน และการดำเนินไปของโลกนั่นก็คือการปรับตัว และการยืดหยุ่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องคงไว้ซึ่ง เอกลักษณ์ และความเป็นตัวของตัวเองด้วย
               HOW TO บางอย่างที่เขาว่าดี ใช้แล้วจะเกิดผล บางครั้งอาจเป็นสิ่งที่ใช้ไม่ได้กับทุกสิ่งอย่างบนโลก คนทุกคนมีเบื้องหลังและความอ่อนไหวที่แตกต่างกัน เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด จะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนอื่นเช่นเดียวกันกับเราหรือไม่ ดังนั้นการยืดหยุ่นในความสัมพันธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเข้าใจกันในความต่าง เพื่อนำไปสู่การเรียนรู้ที่จะปรับตัว เกิดการสร้างความสัมพันธ์ที่อยู่ตัว เหมาะสม และก้าวเดินไปพร้อมกันได้ในทัศนคติความสัมพันธ์ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในรูปแบบใดก็ตาม..

    "คนทุกคนมีโอกาสที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีได้ อยู่ที่ว่าเราจะสามารถรักษาและอยู่กับความสัมพันธ์นั้นได้นานแค่ไหน"
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in