สวัสดีค่า~ เราต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่าบทความรีวิวเรื่องสั้นชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา Selected Short Stories ซึ่งเราได้อ่านเรื่องสั้นหลายเรื่องมาก ๆ จากรายวิชานี้และแต่ละเรื่องก็น่าสนใจ อ่านสนุก แถมยังได้ข้อคิดอีกด้วยมากมายเลยค่ะ เรื่องหนึ่งที่ยังคงตราตรึงใจจากเรื่องสั้นทั้งหมดที่เราได้เรียนมาในเทอมนี้จนต้องหยิบมารีวิวคือเรื่อง At the Café Lovely เขียนโดย คุณ รัฐวุฒิ ลาภเจริญทรัพย์ นั่นเองค่ะ

At the Café Lovely เป็นเรื่องสั้นที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตสุขปนเศร้าผ่านความรักความผูกพันอันอบอุ่นของสองพี่น้องท่ามกลางชีวิตที่พวกเขาไม่สามารถเลือกเกิดได้ แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นเพียงแค่เรื่องราวธรรมดา ๆ ในชีวิตประจำวันของสองพี่น้อง ทว่าภายในเรื่องราวกลับแฝงไปด้วยปัญหาสังคมมากมายที่มักจะถูกละเลยและมองข้ามไป 

หลังจากที่พ่อเสียชีวิตจากอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน แม่ก็โศกเศร้าจนไม่สามารถทำหน้าที่แม่ได้อีกต่อไป ทำให้ ‘อเนก’  หนุ่มวัยรุ่นธรรมดา ๆ คนหนึ่งต้องผันตัวมารับหน้าที่ในการดูแลน้องชาย และใช่ค่ะ ครอบครัวของพวกเขาเป็นเพียงแค่คนรากหญ้าและอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดหรือที่เราเรียกกันว่าสลัม หลังคาบ้านสังกะสี ผนังบ้านเก่า ๆ ที่ดูเหมือนจะพังลงมาได้ทุกเมื่อ อีกทั้งหลังบ้านก็ยังเป็นที่เผาขยะอีก จินตนาการออกเลยใช่มั้ยคะว่าชีวิตของพวกเขานั้นจะต้องยากลำบากขนาดไหน 

หนึ่งในตัวละครที่เราชื่นชอบและรู้สึกเห็นใจคือ ‘อเนก’  ค่ะ ด้วยความที่อเนกก็เป็นเพียงวัยรุ่นเย้ว ๆ คนหนึ่ง หลายคนก็คงจะไม่คาดหวังว่าเค้าจะทำหน้าที่พี่ชายที่ดีได้เท่าที่ควร (เราเองก็แอบคิดเช่นนั้นค่ะ555) อาจจะมีบางครั้งที่อเนกดูจะรำคาญน้องชายที่คอยแต่จะติดสอยห้อยตามไปด้วยในทุก ๆ ที่ อาจจะมีการพูดจาไม่ดี ๆ ใส่กันบ้างตามประสาพี่น้องท้องเดียวกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดเลยคือความรักและความห่วงใยที่อเนกมีให้น้องชายค่ะ ไม่ว่าจะด้วยความจำเป็นหรืออะไรก็แล้วแต่ อเนกสามารถทำหน้าที่นั้นออกมาได้ดีที่สุดเท่าที่วัยรุ่นคนหนึ่งจะทำได้

เรื่องสั้นชิ้นนี้สามารถสะท้อนปัญหาต่าง ๆ ในสังคมได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องสภาพความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่แออัด ปัญหายาเสพติด หรือปัญหาการค้าประเวณี แต่ประเด็นหนึ่งที่ที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างเจ็บปวดคือประเด็นเรื่อง ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ค่ะ ในตอนที่อเนกพาน้องชายไปเลี้ยงวันเกิดในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด พวกเขาสวมชุดตัวเก่งที่สุดมา แต่ถึงกระนั้นชุดตัวเก่งของพวกเขาก็เป็นเพียงแค่ ‘ของลอกเลียนแบบ’ จากตลาดนัดเมื่อนำไปเทียบกับชุดของลูกค้าคนอื่น ๆ ภายในร้าน มันเป็นเรื่องจริงที่น่าเศร้าค่ะ ทั้ง ๆ ที่น้องชายของอเนกควรที่จะได้เอร็ดอร่อยกับเบอร์เกอร์ชิ้นแรกของเขา มันควรจะเป็นวันเกิดที่มีความสุข แต่อเนกและน้องชายกลับรู้สึกว่าพวกเขาไม่เหมาะกับที่แห่งนี้จนสุดท้ายต้องจากร้านอาหารนี้ไปด้วยความทรงจำแย่ ๆ ค่ะ

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมเลยคือวิธีการเล่าเรื่องของผู้เขียนค่ะ การบรรยายรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเรื่องช่วยให้ผู้อ่านอย่างเราสามารถจินตนาการภาพเหตุกรณ์ต่าง ๆ ในอย่างชัดเจนและแจ่มแจ้ง บวกกับความที่เราเองก็เป็นคนไทย การที่ผู้เขียนได้สอดแทรกคำไทยเข้าไปในเรื่องก็ยิ่งทำให้ผู้อ่านรู้สึกอินไปกับเรื่องและตัวละครมากจริง ๆ จนรู้สึกโกรธโครงสร้างทางสังคมหรือระบบการทำงานของรัฐบาลที่ไม่สามารถยกระดับชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดให้ดีขึ้นได้เลย 

หลังจากการรีวิวทั้งหมด เราก็อยากจะแนะนำหนังเรื่องสั้น At the Café Lovely ให้ทุกคนได้ไปลองอ่านกันค่ะ เราอยากให้ทุกคนได้ลองสัมผัสเรื่องราวภายในเรื่องด้วยตัวเองแล้วลองมาแลกเปลี่ยนความคิดกันว่าหลังจากที่อ่านจบแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง เพราะส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเห็นงานเขียนเกี่ยวกับไทยในอีกมุมมองหนึ่งประมาณว่า สยามเมืองยิ้ม อาหารอร่อย ประเพณีสงกรานต์ หรืองานลอยกระทง แต่ในงานเขียนชิ้นนี้ ผู้เขียนได้สะท้อนสภาพปัญหาต่าง ๆ ที่อยู่คู่สังคมไทยเรามาอย่างช้านาน จนมาในปัจจุบัน ปัญหาต่าง ๆ เหล่านั้นยังคงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นจริงเป็นจังเลยค่ะ สุดท้ายนี้ เราก็หวังว่าทุกคนจะชอบเรื่องสั้น At the Café Lovely นะคะ ขอบคุณค่ะ