เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
concert reviewpakwans.
Concert review : Music Heals 2020 on the go
  •         วันนี้ฉันมีโอกาสได้รับชม centralw0rld x Mahidol Music กับโปรเจค Music Heals 2020 on the go ผ่านYouTube Chanel ของ Centralw0rld Thailand หรือผ่านลิ้งค์ข้างล่างนี้


    ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จับมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และศิลปินชื่อดังอย่าง นภ พรชำนิบิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, GUNGUN-กัญจน์กันต์ ปรีชาวุฒิคุณ,ชาติ สุชาติ นำเพลง T-pop มาบรรเลงในรูปแบบ Symphony Orchestra ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Thai Tham” ซึ่งเป็นการนำเพลงไทยเดิมและเพลงสากลร่วมสมัยมาผสมผสานกันในรูปแบบออร์เคสตรายุคNew Normal โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายร่วมกัน     
       จากการแสดงบนจอ the pan0ramix สู่การแสดงสดสุดอลังการจากวง Mahidol Symphony Orchestra, Mahidol Wind Orchestra, Thailand Philharmonic Pops Orchestra ที่รวมใจกันมาสร้างความสุขผ่านบทเพลงอันโด่งดัง เช่น ฤดูที่แตกต่าง, รักแท้, กอดในใจ, วาฬเกยตื้น และ ของขวัญ กว่า 30 นาที โดยมีคุณภมรพรรณ โกมลภมร และคุณธนพล เศตะพราหมณ์เป็นผู้อำนวยการวงเพื่อส่งต่อกำลังใจให้คนไทยทุกคน     
     ซึ่งสาเหตุที่ฉันเลือกชมการแสดงชุดนี้เพราะฉันรู้สึกประทับใจไอเดียของผู้จัดที่นำเพลงป๊อปไทยมาพัฒนาดัดแปลงดนตรีให้มีความคลาสสิกในรูปแบบโอเปร่า ซึ่งเป็นการเปลี่ยนเพลงป๊อปที่เราเคยฟังอย่างคุ้นหูอยู่ทุกวันมาเป็นดนตรีไทยคลาสสิกในรูปแบบที่ไพเราะและมีเสน่ห์ไปอีกแบบอย่างบอกไม่ถูก เป็นชุดการแสดงที่ผสมผสานความเป็นดนตรีไทยและดนตรีสากลเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งเพลงฤดูที่แตกต่าง, รักแท้, กอดในใจ, วาฬเกยตื้น และ ของขวัญ ต่างก็เป็นเพลงที่ฉันชื่นชอบและฟังเป็นประจำอยู่แล้ว พอได้มีโอกาสลองฟังเพลงเหล่านี้ในอีกรูปแบบที่ไม่เคยฟังมาก่อน ได้ลองฟังเพลงเหล่านี้ในเวอร์ชั่นโอเปร่า ก็ทำให้ฉันยิ่งชื่นชอบเพลงเหล่านี้มากขึ้นไปอีก        
          อีกสาเหตุที่ฉันชื่นชอบและเลือกรับชมการแสดงนี้เพราะฉันรู้สึกว่าความจริงแล้วเพลงไทยก็เป็นเพลงที่ไพเราะและมีเสน่ห์ไม่แพ้ชาติใดในโลกเหมือนกัน รวมถึงนักดนตรีและนักร้องไทยเองต่างก็มีความสามารถและมีฝีมือไม่แพ้นักดนตรีประเทศอื่นเช่นกัน เพียงแค่อาจจะไม่มีโอกาสและไม่มีพื้นที่ให้ได้แสดงฝีมือและศักยภาพที่มี ทำให้ดนตรีไทยไม่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกเท่าดนตรีคลาสสิก ฉันจึงรู้สึกว่าหากเรานำเพลงไทยมาพัฒนา มาดัดแปลงเป็นอีกรูปแบบนึง ปรับให้เพลงมีความคลาสสิกขึ้นแบบการแสดงชุดนี้ หรือมีโอกาสและมีพื้นที่ให้นักดนตรีไทยได้แสดงทักษะและศักยภาพที่มี ดนตรีไทยอาจได้รับความความนิยมจากแต่ละกลุ่มคนทั่วมุมโลก และ T-pop เองก็อาจโด่งดังเฉกเช่น K-pop ก็ได้          
         โดยเพลงที่ฉันรู้สึกประทับใจมากที่สุดและเลือกมาวิเคราะห์คือเพลง กอดในใจ” ขับร้องโดยบิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และบรรเลงเพลงโดย Thailand Philharmonic Orchestra ซึ่งเพลงกอดในใจเป็นเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวความคิดถึงของคนสองคนที่ไม่ได้เจอกันในช่วงสถานการณ์ social distancing เล่าถึงความคิดถึงที่มีต่อเพื่อน ต่อคนรัก และต่อสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงถ่ายทอดความคิดถึงของตัวศิลปินที่คิดถึงงาน คิดถึงทุกอย่างที่ทำให้เราไม่ได้เจอกันในช่วงเวลานี้และรอวันที่จะกลับมาเจอกันอีกครั้ง ดังเนื้อเพลงที่บอกว่า แค่เธอคิดถึงฉัน กอดกันข้างในใจ แค่นี้ก็คงพอกับวันที่เรานั้นต้องไกล ให้ความคิดถึงนั้นผูกใจของฉันไว้ ผูกไว้ใกล้ใจเธอ อีกไม่นานก็คงได้เจอ” โดยเวอร์ชั่นนี้ได้คุณธนพล เศตะพราหมณ์มาช่วยเรียบเรียงและอำนวยการวง 
           อาจารย์ออม หรือ ธนพล เศตะพราหมณ์ เริ่มเรียนดนตรีที่โรงเรียนอัสสัมชัญแล้วต่อยอดที่สยามกลการจนได้เป็นหนึ่งในสมาชิกวงโยธวาทิตของโรงเรียนอัสสัมชัญ โดยมีอิเล็กโทนเป็นเครื่องดนตรีที่ทำให้เขาได้รู้จักการเขียนโน้ตและเรียบเรียงเพลงให้วงโยธวาทิตโรงเรียน ต่อมาจึงได้รับหน้าที่คอนดักเตอร์อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ปัจจุบันอาจารย์ออมดำรงตำแหน่งหัวหน้าสาขาวิชาการอำนวยเพลงที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล ควบตำแหน่งผู้อำนวยการวง Mahidol Wind Orchestra และเป็นคอนดักเตอร์รับเชิญให้วง Thailand Philharmonic Orchestra

           โดยเพลงกอดในใจมี BPM หรือ beats per minute ประมาณ 88-90 ครั้งต่อนาที มีการเรียบเรียงโดยใช้ จังหวะต่อ ห้อง โดยมีคีย์เพลงหลักเป็น Dd major แล้วตอนท้ายจึงเปลี่ยนเป็นคีย์ D major ในส่วนของ range คีย์ที่บิวกิ้นร้องจะอยู่ที่ประมาณ Bb2-Bb4 แล้วไปพีคสุดตอนท้ายที่ B4  โดยมีคีย์ที่ต่ำสุดคือ Ab3 แล้วค่อยๆไต่ระดับไปเรื่อยๆ จนตอนท้ายมีการเพิ่มเสียงครึ่งเสียงหรือเพิ่มคีย์เพลงอีกหนึ่งคีย์ให้เป็น D major และมีคอร์ดเพลงคือ Bbm7 Ab7 Db/F Gbmaj7 ในช่วง intro โดยในเพลงมีเสียงไวโอลินและเปียโนเป็น lead และเป็นองค์ประกอบเด่น ในช่วงหลัง hook แรกจะมีการเน้นเครื่องสายเด่น แล้วหลัง bridge จึงเป็นเครื่องเป่าเด่น โดยมี conductor คอยช่วยให้จังหวะอีกที
           ในส่วนของเพลงอื่นๆก็มีการเรียบเรียงเพลงที่ไพเราะและน่าประทับใจเช่นกัน ฉันรู้สึกว่าแต่ละเพลงที่เหลือก็มีเสน่ห์และมีความไพเราะในแบบฉบับของมัน เพลงที่ฉันรู้สึกประทับใจรองลงมาจากเพลงกอดในใจคือเพลงรักแท้ ซึ่งเพลงนี้ได้ถูกขับร้องโดย พรปวีณ์ กนกรัตนไพศาล และ วรณัฏฐ์ วิจิตรวาทการ นักศึกษาดุริยางคศิลป์ สาขา Musical Theater มหาวิทยาลัยมหิดล เรียบเรียงและอำนวยการวงโดยธนพล เศตะพราหมณ์ และบรรเลงโดย Thailand Philharmonic Orchestra     
           เพลง “รักแท้” จะมีจังหวะที่ค่อนข้างเร็วและมีคีย์ที่สูงกว่าเพลงกอดในใจ เพลงนี้เป็นเพลงที่เน้นการโชว์พลังเสียงคลอๆกับการบรรเลงเครื่องดนตรีสากล ซึ่งสามารถผสมผสานกันออกมาได้ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ครั้งแรกที่ฉันฟังเพลงนี้ฉันรู้สึกสะดุดหูและแอบนึกถึงตระกูลเพลง Disney ที่ขับร้องเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทย เพลงรักแท้มีการประสานเสียงกันของนักร้องชายหญิงทำให้มี tone color และมีrange dynamic ของดนตรีที่ค่อนข้างกว้าง ทำให้คนฟังสามารถเข้าถึงอารมณ์เพลง รู้สึกว่าเพลงน่าดึงดูด ชวนฟัง มีความไพเราะและค่อนข้างเป็นที่จดจำมากกว่าเพลงอื่นที่เหลือ     
            หลังจากที่ได้รับชมการแสดง Symphony Orchestra กว่า 30 นาทีในลิ้งค์ที่แนบไปจนจบแล้ว ฉันรู้สึกประทับใจในองค์ประกอบโดยรวมทุกอย่างของชุดการแสดงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในดนตรีที่ถูกนำมาดัดแปลง เรียบเรียง และบรรเลงออกมาเป็นเพลงทุกเพลงในชุดการแสดงนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เพลงกอดในใจและเพลงรักแท้ แต่รวมไปถึงเพลงฤดูที่แตกต่าง, วาฬเกยตื้น และ ของขวัญเองด้วยเช่นกัน ฉันรู้สึกว่ามันเป็น 30 นาทีที่คุ้มค่าแก่การรับชมมาก ฉันรู้สึกเพลิดเพลินไปกับมัน จนรู้ตัวอีกทีการบรรเลงเพลงก็จบลงเสียแล้ว ฉันรู้สึกขนลุกและทึ่งในความสามารถของนักร้องนักดนตรีไทยตลอดการรับชม รู้สึกเพลิดเพลินและอินไปกับมันจนฉันกลับไปชมซ้ำไม่ต่ำกว่า3รอบแล้ว ฉันจึงอยากนำการแสดงชุดนี้มาแนะนำให้เพื่อนๆลองเปิดใจรับฟัง ฉันเชื่อว่าทุกคนจะประทับใจกับการแสดงชุดนี้ แล้วจะรู้สึกว่าที่จริงแล้วดนตรีไทยก็มีดีไม่แพ้ชาติใดในโลก         

     

    นางสาวพาขวัญ ศิริมหากุล #6340101728

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in