ชายคนที่ผมจะเล่าถึงนี้เขาไม่ได้เป็นชายเจ้าชู้มาแต่กำเนิดนะครับ ตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมก็ไปชอบเพื่อนคนนึงตามประสาเด็กวัยรุ่นเหมือนในซีรีส์ฮอร์โมนอะไรแบบนั้น แต่ด้วยความที่ช่วงวัยรุ่นเขาติดเพื่อนมากกว่าแถมติดเล่นกีฬาทั้งบาสเก็ตบอล ทั้งฟุตบอล ทำให้การทุ่มเทจีบสาวคนนั้นไม่ได้เป็นประเด็นหลักที่เขาจะทำและด้วยในช่วงเวลานั้นช่องทางการสื่อสารของเราไม่ได้มีมากมายเหมือนทุกวันนี้เพราะจะมีก็แค่โทรศัพท์บ้านเท่านั้น ไม่ได้มีเฟสบุ๊ค มีไลน์  ทำให้เขาได้แค่แอบชอบเธอและเฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ เท่านั้น จนล่าสุดดูเหมือนว่าสาวเจ้าคนนั้นไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชายแต่เป็นผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงด้วยกัน จะเป็นชอบชนิดไหนก็ยากที่จะคาดเดาเพราะปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างเพศมีหลากหลายมากๆจนทำให้เรางงกันได้ครับ

พอโตขึ้นมาหน่อยตอนเรียนมหาวิทยาลัยเขาเล่นของสูงด้วยการจีบคนน่ารักระดับดาวประจำชั้นปีกันเลยทีเดียวแถมไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจีบได้จนคบกันเป็นแฟน แถมคบกันยาวมาเรื่อยๆจนถึงปีสุดท้ายก่อนจบโดยระหว่างที่คบกันนั้นเขาไม่เคยมองสาวคนอื่นเลยและไม่มีวี่แววของคววามเจ้าชู้แม้แต่นิดเดียว

ช่วงการเรียนปีสุดท้ายนั้นเขาก็เริ่มเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนๆบ่อยขึ้นจากเดิมที่เคยเที่ยวบ้างแต่ไม่บ่อยมากกลายเป็นออกเที่ยวกับเพื่อนแทบทุกคืน บรรยากาศของการเที่ยวกลางคืนที่มีแต่ความสนุกสนาน มีเสียงเพลง มีแอลกอฮอล์ ทำให้สัญชาติญานของมนุษย์ในฐานะสัตว์สังคมถูกปลุกขึ้นมาได้โดยง่ายซึ่งเป็นต้นเหตุให้เขาได้รู้จักและสนิทสนมกับสาวสวยคนหนึ่งในสถานที่เที่ยว สาวคนนี้ถ้าใช้ศัพท์ผู้ชายนักเที่ยวตอนนั้นใช้กันคือเธอเป็นระดดับตัวท็อปที่ทั้งสวย ทั้งดูแพง  เวลาเที่ยวเธอจะเป็นคนเดียวที่อยู่ในเคาน์เตอร์หรือบูธดีเจแถมด้วยคนคอยคุ้มกันยืนคุมเชิงตลอด เขามารู้ทีหลังหลังจากจีบเธอไปแล้วคือเธอเป็นแฟนของผู้มีอิทธิพลกว้างขวางในขณะนั้น แต่สุดท้ายเมื่อจีบเธอได้และสนิทกันกับผู้หญิงคนใหม่เขาจึงตัดสินใจบอกเลิกกับแฟนเก่าที่คบกันมาหลายปีเพราะการคบซ้อนหลายๆคนในเวลาเดียวกันไม่ใช่แนวที่เขาถนัดเลย   ซึ่งในตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นน้ำตาของผู้หญิงที่เกิดจากการกระทำของเขา และภาพนั้นยังคงติดตาเขามาจนวันนี้ซึ่งเป็นไปได้ว่าภาพนั้นจะติดตัวเขาไปจนชั่วชีวิตของเขา

จากจุดนั้น ทุกครั้งที่เขาเริ่มเปิดใจเพื่อคบกับผู้หญิงคนใหม่ก็จะมีเหตุให้ต้องคบกันได้ไม่เกินสามเดือนทุกราย พอคนอื่นเห็นว่าเปลี่ยนแฟนบ่อยๆก็เริ่มมีเสียงสรรเสริญมอบตำแหน่งชายเจ้าชู้ให้ครับ   สาเหตุที่เขาคบใครได้ไม่นานเพราะเขาติดภาพความเสียใจของผู้หญิงที่เขาเคยคบจนทำให้ไม่กล้าจะคบใครเพราะกลัวทำผู้หญิงเสียใจอีก  ยิ่งหากผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้เขามากและรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวเขามากๆ เขาก็จะยิ่งหนีห่าง  พอมีการคบๆเลิกๆบ่อยๆ มีการควงผู้หญิงเปลี่ยนหน้าบ่อยๆทำให้เขายิ่งโดนกล่าวหาว่าเจ้าชู้หนักขึ้น  ทุกครั้งที่ต้องมีการเลิกลาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ จะเลิกลาจากกันด้วยดีหรือไม่ก็ตามล้วนได้ทิ้งบาดแผลในใจของทั้งสองฝ่ายด้วยกันทั้งนั้น

สาวๆที่เข้ามาในชีวิตเขาส่วนใหญ่ในช่วงเวลานี้ล้วนแต่เข้ามาแบบฉาบฉวยเป็นเหมือนการคบการคุยเล่นๆไม่จริงจัง  แถมบางคนเข้ามาสนิทสนมเพราะมีประเด็นแอบแฝงโดยเฉพาะเรื่องเงิน ความสะดวกสบาย แถมด้วยอนาคตข้างหน้าที่สดใสที่เขาจะมอบให้สาวๆเหล่านั้นได้   เมื่อเจอแบบนี้ก็ยิ่งตอกย้ำทำให้เขาเริ่มหมดหวังกับความรัก จนพาลคิดไปว่าความรักไม่มีอยู่จริง ไม่ควรที่จะเสียเวลาตามหาความรักอีก  เขาจึงปิดใจตัวเองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและไม่หวังจะมีใครอีก  รอเพียงวันหนึ่งที่เขาหวังว่าจะได้เจอกับใครสักคนที่จะทำให้เขาเปิดใจรับกับรักครั้งใหม่เหมือนเจ้าชายอสูรรอที่จะได้พบรักแท้เพื่อถอนคำสาปให้เขากลับมาเป็นเจ้าชายรูปงามอีกครั้ง

คนที่ได้ชื่อว่าเป็นชายเจ้าชู้นั้นใช่ว่าจะมีเพียงแค่มุมที่ทำคนอื่นเสียใจ แต่เขามีมุมของความอ่อนแอและบาดแผลที่ปกปิดไว้ไม่ให้ใครได้เห็น  โดยที่แต่ละคนมีประสบการณ์และเรื่องราวที่ก่อให้เกิดบาดแผลที่หลากหลายต่างกันไป  ถึงอย่างไรก็ยังมีความหวังลึกๆว่าวันหนึ่งจะมีใครสักคนเข้ามาเยียวยาบาดแผลเหล่านั้นให้หายสนิทได้