เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
NOVELBER2017 #minwoonbilly21121996
3.กรีดร้อง
  • ตั้งแต่เหยียบฮ่องกงถ้าจุดเริ่มต้นคือที่พัก ผมออกไปไกลที่สุดแค่50เมตร

    คือร้านมินิมาร์ทเก่าๆที่ฝั่งตรงข้ามถนนเริ่มรู้สึกถึงความหว่องที่ตามหาขึ้นมา

    ในขณะที่ทุกคนกำลังรีบเราที่ตั้งใจว่าจะหยุดเดินก็เหงาขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ

    ผมต้มน้ำร้อนอีกเป็นครั้งที่3ของวัน นาฬิกาบอกเวลาเกือบๆเที่ยงคืนแล้ว

     

     

    ‘กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด’

    เสียงกรีดร้องที่ดังผ่านโสตประสาททำเอาสะดุ้งโหยงจนเผลอปล่อยช้อน

    ผมเรียกสติกลับมาแล้วคิดได้ว่ามันไม่ใช่เสียงคนจริงๆเป็นจากโทรทัศน์ของคนห้องฝั่งซ้าย

    แล้วมาดูหนังผีอะไรตอนดึกๆวะสัส ไม่รู้หรอว่าผนังห้องแม่งบางกว่าชีทเรียนอ.วุฒิไกรอีก

     


    “Could you turn the volume  down , please?” ผมหันหน้าไปพูดกับผนังทางฝั่งขวา

     


    ‘กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด’

    สัส! กูอุตส่าห์เปิดกูเกิ้ลทรานสเลทไม่ได้ช่วยเลย

    แล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วยอมรับว่าผมเป็นพวกกลัวผีด้วย เป็นมาแต่เด็ก

    แล้วมันใช่เรื่องหรอที่ต้องได้ยินเสียงกรี๊ดๆก่อนนอนมันข่มตานอนไม่ได้หรอกนะ

     

    ผมยัดหูฟังเข้ากับหูเปิดเพลงของ  whitney วงโปรดให้ดังที่สุด แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้

    ผมกลัวและนอนไม่หลับ เมื่อวานหลับไปเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง

    แต่วันนี้ผมนอนๆนั่งๆอยู่ในห้องทั้งวันไม่ได้เหนื่อยอะไรเลย ยิ่งจินตนาการเสริมเข้าไป ก็ยิ่งกลัว

     



                    -แกร๊ก-

    เสียงเปิดประตูแล้วตามมาด้วยเสียงกุกกักของคนห้องทางฝั่งขวาดังให้ได้ยิน

    โอ้เยสกู๊ด! คุณรีโมทห้องข้างๆกลับมาแล้ว!ผมกระโดดเข้าไปนั่งใกล้ๆผนัง

     

    “กลับมาแล้วหรอครับ” ไม่มีใครทำแบบนี้แน่ๆแบบที่หน้าด้านทักคนที่ไม่เคยเจอหน้ากัน แต่ผมไม่มีทางเลือก ความกลัวที่เกิดมันมากเกินกำแพงความสัมพันธ์ที่ควรจะมีแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับจากห้องข้างๆ มีแต่เสียงโครมครามเหมือนคนเดินชนสลับกับเสียงsound effectหลอนๆจากห้องทางฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีให้ผมพาตัวเองออกจากห้อง1003ที่อยู่ไปหาคุณรีโมทที่รู้จักกันจากแค่สถานการณ์ผีทีวีเมื่อตอนเช้าถึงแม้จะไม่ได้รับการตอบกลับก็ตาม


     

    ผมเคาะห้องแล้วอีกฝ่ายเปิดประตู กลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายต้องไปดื่มอะไรมาแน่ๆ



     

    “ผม ชื่ออินครับ อยู่ห้องข้างๆครับ ที่ตอนเช้าเราคุยกันเรื่องโทรทัศน์”

    “อ่า ครับ คนไทย ผมพอจะจำได้ ผมชื่อย่อ” แต่เจ้าของห้อง1002ก็ยังเกาะขอบประตูแล้วประคองสติตอบกลับมาได้

    “ครับ คือห้อง1004เค้าเปิดหนังผี ผมกลัว เลย เอ่อ..”ผมเงียบลงแล้วชั่งใจ เราจะขอนอนกับคนที่เพิ่งเคยเจอหน้ากันแค่ 1 นาทีก่อนได้จริงๆหรอ“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่กลัว ขอโทษที่รบกวนครับ” คำตอบคือ ไม่ได้โว้ย

     



    ผมก้มหัวให้แทนคำขอโทษตัวผมกลัวจนนอนไม่หลับ

    แต่จะไปหน้าด้านขอนอนกับคนไม่รู้จักนี่ไม่ใช่เรื่องกว่าอีกรึเปล่า

    มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่จะยอมเปิดประตูให้ใครก็ไม่รู้มาแชร์ที่นอนด้วย

     



    “ถ้ากลัวก็มานอนห้องผมมั๊ยคุณ เสียงคงดังมาไม่ถึง” เหมือนอีกฝ่ายรู้ว่าผมต้องการอะไร

    “จริงปะครับ” ถ้าเค้าเป็นคนบ้าผมคงบ้ากว่าที่อยากนอนกับคนไม่รู้จักใจจะขาด

    “จริง คุณรีบเข้ามา ข้างนอกน่ากลัว อีกอย่างคือผมเมา ถ้าผมสร่างผมคงไม่ชวนคุณเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้”

    “ครับๆ  งั้นเดี๋ยวผมขอไปเอาหมอนกับผ้าห่มแปบ”

     



    ผมรีบกลับเข้าไปเก็บของอย่างปากว่าเสียงหนังผียังดังอยู่ไม่จบไม่สิ้น

    อยากเอามาม่าที่ต้มทิ้งไว้ไปราดใส่ทีวีมันจริงๆเวรเอ้ย

    พอหอบข้าวของออกมาเจ้าของห้อง1002ก็ยังยืนรออยู่ ผมเบียดตัวเองผ่านประตูเข้าไปเค้าถึงปิดประตูลง

    พอประตูปิดลงและสวิทช์ไฟถูกตบให้เปิด ผมก็พบว่า ห้องเหี้ยนี่ไม่สมควรอยู่ด้วยกัน 2 คน

    เพราะจากที่มันแคบอยู่แล้วมันแคบลงอีกถนัดตา อย่าว่าแต่ผมจะวางหมอนตรงไหน

    แค่จะขยับเดินไปไหนยังคิดเยอะเลยถ้าใครนึกภาพไม่ออก

    ก็ลองพาเพื่อนสนิทเข้าไปในห้องน้ำดูความรู้สึกของผมก็ประมาณนั้น

     



    “แคบกว่าที่คิดนะครับ ผมว่าคุณค-”

    “ใช่ครับ พอดีผมมาอยู่เกือบอาทิตย์แล้ว ของเลยเยอะ ขอโทษจริงๆ”

    “ไม่ครับ ผมหมายถึง ผมไม่รบกวนดีกว่า คุณคงอึดอัด”

    “ไม่หรอกครับ ตอนนี้ผมง่วงมาก มึนๆไปหมด อีกไม่นานคงหลับ คงไม่มีเวลาคิดเรื่องความรู้สึกอึดอัดอะไรหรอกแต่ถ้าคุณอึดอัด จะกลับห้องก็ได้นะ แต่ตอนออกไปก็ล็อคห้องให้ผมด้วยแล้วกัน”อีกฝ่ายเมาอย่างที่ว่าจริงๆ ทั้งหน้าตา ท่าทางเวลาพูดที่ถึงแม้จะพูดประโยคยาวๆออกมาได้แต่น้ำเสียงที่พูดออกมาฟังก็รู้เลยว่าเมาแน่นอน

     

    “อ่า งั้น ผมไม่กลับล่ะ กลับไปก็นอนไม่ได้อยู่ดี” เจ้าของห้องได้ฟังผมพูดก็หัวเราะเล็กๆในลำคอ

    “อายุเท่าไหร่หรอครับ คุณอินน่าจะเด็กกว่าผมนะ”

    “20ครับ ผมเกิด1997”

    “เด็กกว่าจริงด้วย พี่เกิด1995 เรียกพี่ดีกว่าเนอะ”

    “อ๋อ ครับ”

     


     

    พี่ย่อยิ้มให้ผมแล้วถามว่าถ้าเค้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องจะเป็นอะไรรึเปล่า แน่นอนว่าผมตอบว่าไม่เพราะยังไงนี่ก็ห้องเค้า เค้าจะทำอะไรก็ได้อยู่แล้วที่ตัวผมทำได้ก็แค่เบนสายตาออกไปนอกหน้าต่างเท่านั้นพออีกฝ่ายเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินขึ้นไปนอนบนเตียงผมเห็นว่าคงถึงเวลานอนแล้วเลยเดินไปปิดไฟแต่ห้องก็ยังไม่มืดสนิทเพราะแสงจากนอกหน้าต่างที่สาดเข้ามา

     

    ผมใช้เท้าเขี่ยผ้าห่มที่พื้นให้กางออกดีๆวางหมอนลงแล้วเตรียมนอน

     



    “ไม่นอนล่ะอิน”

    “ครับ?” ประโยคคำถามจากคนที่นอนอยู่บนเตียงทำให้ผมละสายตาไปจากที่นอนของตัวเองที่ปูอยู่ที่พื้น

    “ไม่นอนหรอครับ”

    “กำลังจะนอนครับพี่ กำลังปูอยู่” ผมขี้ไปที่พื้น

    “อ้าว พี่เข้าใจว่าอินจะนอนบนเตียงด้วยกัน”

    “อ๋อ ไม่ล่ะครับ ผมนอนพื้นดีกว่า เตียงเดี่ยวแล้วนอนเบียดกันคงอึดอัดแย่”

    “อ่า แล้วแต่ แต่ถ้าปวดหลัง อินจะขึ้นมาก็ได้นะ พี่คงนอนไปแล้วล่ะ”

    “ครับพี่ ไม่เป็นไรครับ ฝันดีครับพี่ย่อ”

     


    ก่อนนอนผมก็คิดว่าทำไมผมไม่ได้บอกเจ้าของที่พักให้มาด่าห้อง1004วะ

    มันคงเป็นกรรมของพี่ย่อที่กลับห้องมาตอนผมรู้สึกกลัวสุดขีดพอดีแหละ

    ไม่รู้ว่าพี่ย่อตอนสร่างเมาวันพรุ่งนี้จะใจดีเหมือนตอนนี้รึเปล่า

    เอาเป็นว่าตอนนี้ผมซึ้งใจมากขอบคุณสำหรับที่ซุกหัวนอนคืนนี้นะครับพี่

     



    ส่วนไอ้ห้อง1004

    ขอให้ทีวีห้องมึงระเบิด! ไอ้สัส!

     

     

     


    --------------

    #มนุษย์รีโมท

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in